ตลาดหุ้นไทยร่วงต่อเนื่อง ผู้เชี่ยวชาญคาดอาจแตะจุดต่ำสุดของปีที่ 1,100-1,150 จุด แนะกลยุทธ์รับมือภาวะตลาดผันผวน
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ปิดการซื้อขายช่วงเช้าวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่ระดับ 1,169.99 จุด ลดลง 7.45 จุด หรือ -0.63% มีมูลค่าการซื้อขายรวม 20,026.47 ล้านบาท
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ดัชนี SET ใกล้แตะระดับต่ำสุดที่เคยเกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประมาณ 1,160 จุด อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ใจว่าดัชนีจะร่วงลงไปถึงระดับ 1,108 จุดหรือไม่ เนื่องจากปัจจุบันยังขาดปัจจัยพื้นฐานที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของตลาด
"ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาล่าสุด ประกอบกับการที่ราคาหุ้นลดลงมากกว่ามูลค่าเงินปันผลหลังการขึ้นเครื่องหมาย XD สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนบางส่วนเริ่มถอดใจ เพราะส่วนใหญ่ขาดทุนเกิน 50% ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะวิกฤตต้มกบ" นายมงคลกล่าว
สำหรับมุมมองต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงสุดท้ายของไตรมาส 2 ปีนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าจุดต่ำสุดของตลาดจะอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม เนื่องจากอัตราเร่งการลงของดัชนียังคงอยู่ในระดับสูง โดยเกิดจากความกลัวของนักลงทุนและการขายบังคับ (Forced Sell) ถึงแม้จะยากที่จะคาดเดาว่าดัชนีจะลงลึกถึงระดับใด แต่คาดว่าจะอยู่ในกรอบ 1,100-1,150 จุด ซึ่งอาจเป็นจุดต่ำสุดของปี 2568
กลยุทธ์จัดพอร์ตการลงทุนรับมือตลาดขาลง
บล.ดาโอ แนะนำให้นักลงทุนจัดพอร์ตการลงทุนแบบ "30-30-40" ดังนี้
- 30% แรก: เข้าซื้อเมื่อดัชนีหุ้นไทยหลุดต่ำกว่า 1,200 จุด ประมาณ 30-40% ของพอร์ต ในเดือนมีนาคม โดยเลือกหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจาก Disruption ซึ่งแนะนำ 12 หลักทรัพย์ ได้แก่ ADVANC, BDMS, CPALL, CPAXT, CPN, CRC, GULF, MINT, MTC, PLANB, SAWAD และ WHA โดยหุ้นที่ควรมีในพอร์ตคือ CPALL และ BDMS
- 30% ที่สอง: เลือกหุ้นที่ให้เงินปันผลสูง แบ่งเป็น
- หุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD แล้วและราคาลงต่ำ: PTTEP, PTT, ADVANC
- หุ้นที่ยังไม่ขึ้นเครื่องหมาย XD แต่ราคาลงต่ำ: BBL, TTB, SCB
- 40% สุดท้าย: ถือเงินสดไว้เพื่อรอโอกาสลงทุนที่เหมาะสม