ซูเปอร์มาร์เก็ตจีน ที่เข้ามาเปิดธุรกิจบริการในไทย กระจายอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล และจังหวัดท่องเที่ยว จำหน่ายสารพัดสินค้าทั้งอุปโภคและบริโภค ในราคาที่จับต้องได้ ส่งผลกระทบต่อร้านค้าโช่หวย และร้านจำหน่ายสินค้าทั่วไปของผู้ประกอบการไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุด ยังมีการเข้ามาเปิดตัวของ ‘แพลตฟอร์ม Temu’ อีก ซึ่งเป็นแบรนด์ลูกของ Pinduoduo โดยขนสินค้าจากทั่วโลกมาวางจำหน่าย ทำการตลาดลดราคาสินค้าถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ยิ่งสร้างแรงจูงใจให้คนไทยควักกระเป๋าจ่ายโดยไม่ยั้งคิด
เรื่องนี้ ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำหนักนายกรัฐมนตรี ชี้ ประเด็นนี้ นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน มีความเป็นห่วงผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs โดยได้กำชับ และสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางและมาตรการเสริมทักษะการตลาดให้ SMEs ไทย ให้สามารถแข่งขัน ท่ามกลางกระแสการค้าในโลกออนไลน์ หรืออีคอมเมิร์ซ
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้เร่งพัฒนาองค์ความรู้และเสริมทักษะการตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการไทย เพื่อปรับตัวก้าวให้ทันการแข่งขันยุคใหม่ ที่รูปแบบการค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้ประกอบการไทย สามารถเรียนรู้ เพื่อรับมือการแข่งขัน ที่เกิดขึ้นได้
สำหรับ Temu แพลตฟอร์ม e-Commerce จากจีน ผู้ให้บริการสินค้าออนไลน์ ตั้งแต่ฟาสต์แฟชั่น ถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า ราคาตั้งแต่หลักสิบ จนถึงหลักพัน และมีส่วนลดตั้งแต่ 50-90% เมื่อเทียบสินค้าไทยพบราคาต่างกันมาก ส่งผลสินค้าไทยไม่ได้รับความสนใจ เพราะแม้คนไทยเองก็สู้กับราคาสินค้าที่กำลังแพงขึ้น ไม่ไหว ยอมอุดหนุนสินค้าจีน เพื่อเงินในกระเป๋าใช้จ่ายได้มากขึ้น ผลกระทบครั้งนี้ นับว่าเป็นวงกว้างทั้งกับผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าขาย และรวมถึงเอสเอ็มอีไทยที่ซื้อสินค้าจากจีนมาขายต่อด้วย
‘จุลพันธ์’ มอบสรรพากร คุย Temu ร่วมระบบภาษี
สำหรับการเข้ามาบุกตลาดไทย ของ Temu แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่จากจีน ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการนั้น จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เล็งเก็บภาษีแล้ว โดยได้มอบหมาย กรมสรรพากร ดูเรื่องของภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) โดยชี้ ในเบื้องต้นได้มีการประสานงานให้เข้าสู่ระบบภาษี ใช้ช่องทางติดต่อ ทางอีเมล์ เนื่องจาก แพลตฟอร์ม Temu ไม่มีการจัดตั้งสำนักงานในประเทศไทย
ปัจจุบันในการค้าขายผ่านแพลตฟอร์มมีกลไกของกรมศุลกากรที่เข้ามาช่วยเก็บแวตให้ก่อน และในอนาคตทางแพลตฟอร์มก็ต้องทำการพัฒนาระบบ เพื่อมาเชื่อมต่อกับระบบจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร และ Temu ก็จะเป็นหนึ่งในนี้ด้วย ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ได้ประสานไปหมดแล้วเช่นกัน คาดว่าต้นปี 2568 ก็จะเรียบร้อย
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงสินค้าที่นำเข้า ว่า หากเป็นประเภทที่ต้องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นของเล่น ของใช้ในบ้านนั้น จำเป็นต้องมีตรามาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งทุกวันนี้ก็มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวด
“ในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ ผมจะร่วมแถลงกับกรมศุลกากรเรื่องการตรวจจับสินค้าที่นำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ทั้งสินค้าผิดกฎหมาย หรือแม้แต่สินค้าที่ไม่มี มอก. และอีหลายอย่าง เพราะในช่วงนี้มีมาตรการเข้มงวดการตรวจสินค้าในชายแดน”
นายจุลพันธ์ กล่าว