นายกฯ คุย ฮอนด้า ย้ำ ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

23 พ.ย. 2566 - 11:25

  • นายกฯ ให้คำมั่น ผู้บริหารฮอนด้า พร้อมหนุนการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทย

  • เสริมสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างยั่งยืนร่วมกัน

  • ตอกย้ำ ไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

settha-toshio-kuwahara-honda-electric-car-e-SPACEBAR-Hero.jpg

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้คำมั่น ระหว่างการเข้าเยี่ยม ของคณะผู้บริหารบริษัทฮอนด้า ซึ่งนำโดย นายโทชิโอะ คุวาฮาระ  ประธานบริษัท เอเชี่ยน ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด (สำนักงานใหญ่ฮอนด้าประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย) และ นายฮิเดโอะ คาวาซากะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด โดยเน้นย้ำ ญี่ปุ่นเป็นมิตรประเทศที่สำคัญของไทยอย่างยาวนาน ไม่ใช่เพียงบริษัทใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น แต่รวมไปถึงทุกบริษัทของญี่ปุ่นด้วย 

กว่า 50 ปีที่ผ่านมา บริษัทญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่สนับสนุนประเทศไทยให้สามารถเป็นอยู่ได้อย่างทุกวันนี้ พร้อมเชื่อมั่นว่าไทยจะร่วมงานกับทุกบริษัทในการผลักดันการดำเนินการและพัฒนาการผลิตยานยนต์ และต่อยอดไปในภาคการผลิตอื่น ๆ ซึ่งจะไม่มีใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง พร้อมระบุด้วยว่า การพบหารือในวันนี้ เป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้ได้รับทราบถึงความต้องการที่จะเป็นแนวทางสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคต

ด้านบริษัท ฮอนด้า ตอกย้ำเช่นกัน ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของภูมิภาค รวมทั้งยังเป็นฐานการส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของฮอนด้าทั่วโลกด้วย ขอบคุณรัฐบาลไทยให้ความอนุเคราะห์ด้วยดีเสมอมา ฮอนด้ายังมุ่งมั่นที่จะสานต่อการดำเนินธุรกิจในไทย และสนับสนุนนโยบายด้านพลังงานสะอาดและมาตรการยานยนต์ไฟฟ้าของรัฐบาล สอดคล้องกับแนวทางที่ฮอนด้าให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการสร้างความเป็นกลางทางคาร์บอน ควบคู่ไปกับการลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร พร้อมมีแนวทางที่จะเพิ่มสัดส่วนการผลิตทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า BEV ในไทย ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 2566 นี้

การพบปะกันครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นด้าน “มาตรการอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ BOI และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสม เป็นประโยชน์ร่วมกันและส่งเสริมความร่วมมือในตลอดกระบวนการของ Supply Chain โดยให้ความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลจะทำให้การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ทั้งในช่วงเปลี่ยนการผ่านจากรถสันดาป ไปสู่ภาคอุตสาหกรรม EV 

อีกทั้งในช่วงเดือนธันวาคม 2566 นี้ นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการที่จะเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น จึงเชื่อมั่นว่า ทั้งสองฝ่ายจะสามารถต่อยอดในประเด็นดังกล่าว เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นให้เกิดผลประโยชน์ที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ประกอบการได้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์