นับเป็นอีกโอกาสของผู้ประกอบการไทยในวงการค้าขายต่างประเทศ ที่ขณะนี้ ‘ไลฟ์ คอมเมิร์ซ’ (Live-Commerce) เป็นปรากฏการณ์สำคัญ ช่วยสร้างยอดขายมหาศาล กล่าวกันว่า ในประเทศจีน สร้างเม็ดเงินถึงหลักล้านล้านหยวนต่อเดือนกันเลยทีเดียว โดย ‘ไลฟ์ คอมเมิร์ซ’ ถ้าทำความเข้าใจง่ายๆ ก็คือ การสตรีมมิ่ง ผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย และหรือผ่านโปรแกรม, แอพพลิเคชั่น ที่เป็นเหมือนเครื่องมือ (Solution) ในการโปรโมทสินค้าให้กับบรรดา ‘นักไลฟ์’ เพื่อสื่อสารสินค้า ไปยังกลุ่มลูกค้าโดยตรงผ่านรูปแบบบ Video Steaming นั่นเอง
และนี่ก็เป็นอีกจุดสำคัญที่มีการกล่าวถึงในเวทีสัมมนา “สร้างรายได้ สร้างโอกาส บุกตลาดจีน” ซึ่ง 3 หน่วยงานสำคัญ คือ สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอีไทย) บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมกันจัดขึ้น เมื่อ 19 กุมภาพันธ์ 2567 ณ ห้องพุทธรักษา 2 ชั้น 6 บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เวทีเสริมแกร่งผู้ประกอบการไทย เวทีแรกของปี 2567 ท่ามกลางกลุ่มผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมหนาแน่น
สรโชติ อำพันวงษ์ (ใหญ่) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ค้าขายกับประเทศจีน เผย ตลาดจีนใหญ่มาก สินค้าก็วาไรตี้มาก เป็นโอกาสที่สำคัญของทุกๆ สินค้า แต่ผู้ประกอบการก็ต้องรู้จักเข้าช่องทางให้ถูก หลังปัจจุบันโลกธุรกิจล้วนอยู่ใน ‘แพลตฟอร์ม’ มีรูปแบบการโฆษณา ที่นำเอากลุ่ม KOLs (Key Opinion Leader) หรือ Influencers มาใช้ ซึ่งบุคคลเหล่านี้ เป็นทั้งคนดัง เป็นผู้ได้รับความนิยมเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มีช่องทางบนสื่อสังคมออนไลน์ มีผู้ติดตามมาก เป็นต้น เพื่อช่วยโปรโมท-รีวิวสินค้า เป็นการเพิ่มโอกาสการค้าขายมากยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลง ทั้งด้วยเทคโนโลยีการค้าที่เปลี่ยนมาเป็นแพลตฟอร์ม และหรือรูปแบบการโฆษณาที่อาศัยตัวบุคคลที่มีชื่อเสียงนี้ ก็ทำให้ผู้ประกอบการต้องเรียนรู้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องปรับตัวเข้าสู่โลกยุคใหม่ รู้ความต้องการ เพราะวงการนี้ KOL และหรืออินฟลูเอนเซอร์ จะเป็นผู้เลือกสินค้าขึ้นมาขาย หากสินค้าเราโดนใจคนกลุ่มนี้ โอกาสที่ดีย่อมรออยู่ข้างหน้า แต่ทั้งหมดก็ไม่ใช่เรื่องง่ายและอีกด้านไม่ใช่เรื่องยากเช่นกัน จากการมีพี่เลี้ยงคอยแนะนำ เพื่อการก้าวเดินภายนอกอย่างแข็งแกร่ง เพียงแต่ผู้ประกอบการต้องศึกษา ว่าแพลตฟอร์มใด ที่เหมาะกับสินค้าชนิดไหน และรวมถึงการทำสินค้าตัวเองให้เป็นที่ต้องการ ด้วย
ทั้งนี้ แพลตฟอร์มกลายเป็นฐานหลักของการค้า แต่ละแพลตฟอร์มจะมีอินฟลูเอนเซอร์ เป็นฐานหลักของทำธุรกิจต่อไปในอนาคต ซึ่งในจีน “ไลฟ์เซลเลอร์ หรือ ไลฟ์คอมเมิร์ซ” กำลังเติบโตมากมูลค่าล้านล้านหยวน และเทรนด์ทั่วโลกก็มาทางนี้ แม้แต่ของไทยเองยังโตกว่า 300% ดังนั้น หน้าที่ผู้ประกอบการ คือ ทำความเข้าใจ เรียนรู้ให้เร็วที่สุด แล้วเดินหน้า ไม่งั้นจะตกขบวนได้
“จากประสบการณ์ที่เคยขาย และเคยถามเซลเลอร์ (มิสเตอร์เฉิน ที่เคยมาไลฟ์) ถามว่า เห็นคนไลฟ์สินค้าไทยหมดเลย แต่เป็นสินค้าไทยที่เป็นของคนจีน (ติดฉลากสินค้าไทย) เช่น เค้าทำน้ำหอม เป็นกลิ่น กรุงเทพ กลิ่นสุขุมวิท กลิ่นดอยปุย และอีกหลายกลิ่น ทั่วประเทศไทย ผมเห็นและคิดว่านั่นมันของเรานี่หว่า แต่ช่วยไม่ได้ เค้าฉลาดเค้าเร็ว คิดได้ก่อน เป็นคอนเซปต์ชื่อไทยๆ เพราะเขารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยต้องทำอะไรที่ appreciate เพราะมันคือ การแข่งขัน ผู้ประกอบการไทย จะช้าไม่ได้”
สรโชติ กล่าว
MOU หนุน SMEs ไทย สร้างรายได้-โอกาสบุกตลาดจีน
สุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย เผย ขณะนี้สภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอีไทย) บริษัท ช้อป โกลบอล (ประเทศไทย) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ร่วมดำเนินโครงการ “สร้างรายได้ สร้างโอกาส บุกตลาดจีน” โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อประสานพลังสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ขยายตลาดไปสู่ประเทศจีน ผ่านช่องทาง ‘Shop Channel’ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการตลาดครบวงจร ช่วยเชื่อมความสัมพันธ์กับพันธมิตรธุรกิจและการตลาด ผ่านเครือข่าย 16 ประเทศ ขณะที่ SME D Bank พร้อมสนับสนุนเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยที่ต้องการลงทุน และขยายกำลังผลิตรอบรับการส่งออกสินค้าไปสู่ประเทศจีน ต่อไป
“สิ่งที่ทำวันนี้เป็นการช่วยส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ ในทุกๆ ด้าน งานนี้บอกว่า พวกเราสามารถดูแลตัวเองได้ โดยการช่วยเหลือส่งเสริมสนับสนุนทั้งจากภาครัฐ และสภาเอสเอ็มอี ช่วยสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน หนุนบุกเข้าไปในตลาดต่างประเทศ และร้างอัตลักษณ์ให้สินค้าไทยเป็นที่รู้จักในระดับสากล” สุปรีย์ กล่าว
สุปรีย์ กล่าว
