ทำไมผู้หญิงมีแนวโน้มจะเป็นโสดไปตลอดชีวิต? เศรษฐกิจจะขับเคลื่อนด้วยคนโสด

หลายๆ คนอาจไม่รู้ว่าหลังเทศกาลวาเลนไทน์ ยังมีวันสากลของคนโสด (ที่ไม่ใช่เทศกาลคนโสด 11.11) แต่เป็นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ของทุกปี วันนี้ถูกเรียกว่าเป็น “Single Awareness Day” ซึ่งภายหลังเปลี่ยนมาเป็น “Singles Appreciation Day” เพื่อส่งเสริมทัศนคติเชิงบวกเกี่ยวกับความโสด การยืนหยัดเพื่อตัวเอง และการรักตัวเองในแบบที่เราเป็น 
 
จากการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับคนโสดบนโลกโซเชียล (1 กุมภาพันธ์ - 31 ธันวาคม 2565) โดย SPACEBAR • DATAOPS พบว่าคนส่วนใหญ่ที่โสดมานานนั้นมีแนวโน้มจะครองโสดไปตลอดชีวิต โดยแบ่งเป็นเพศหญิง 80% และเพศชาย 20% เลยทีเดียว

ทำไมผู้หญิงมีแนวโน้มจะครองโสดไปตลอดชีวิตมากกว่าผู้ชาย? ตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกอะไรกับเรา? 

1. คนเจนวายมีแนวโน้มจะไม่แต่งงาน 

• สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยผลสำรวจว่า คนเจเนอเรชันวายที่เกิดในช่วงปี 2523-2543 นั้นมีมุมมองเกี่ยวกับการมีคู่ครองต่างไปจากคนรุ่นก่อนๆ คนเจนนี้มีแนวโน้มที่จะครองโสด ไม่แต่งงาน ไม่มีลูก ซึ่งเทรนด์นี้มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นติดต่อกันตั้งแต่ปี 2560-2564 

2. การแต่งงานหรือมีคู่ครองไม่ใช่เป้าหมายของชีวิต 

• ค่านิยมของสังคมในอดีตตีกรอบให้ผู้หญิงหรือคนที่มีเพศสภาพเป็นผู้หญิงโดยกำเนิดต้องแต่งงานและมีลูก แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป การศึกษาและกฎหมายส่งเสริมให้ผู้หญิงมีสิทธิและเสรีภาพที่จะเลือกใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง รายงานจาก J.W.T Intelligence เผยว่าคนยุคนี้มองว่าความโสดไม่ใช่เรื่องแย่เสมอไป แต่ช่วยเสริมพลัง (empower) ให้พวกเขากล้าที่จะเป็นตัวเอง เปิดรับความหลากหลายทางเพศ มุ่งมั่นกับการทำงานและใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ โดยไม่ลืมที่จะให้คุณค่ากับตัวเองมากกว่าเดิม (self-value) 

 3. โสดก็แค่คำนิยามของความสัมพันธ์อีกรูปแบบหนึ่ง 

• นิยามความสัมพันธ์ยุคนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว การเป็นโสดไม่ได้หมายความว่าจะต้องอยู่คนเดียวอย่างเดียวดาย แต่มีความสัมพันธ์หลายรูปแบบ เช่น มีสถานะโสดตามกฎหมาย แต่มีคนคุย มีเพื่อน มีพาร์ทเนอร์ในชีวิต ผู้หญิงหลายคนเลือกอยู่กับคนรักแบบไม่แต่งงาน 
• คนโสดยังรวมไปถึง แม่เลี้ยงเดี่ยว พ่อเลี้ยงเดี่ยว ซึ่งก็คือคนที่หย่าอย่างถูกต้องกฎหมาย เพราะความรักความสัมพันธ์อาจไม่ได้ลงเอยด้วยการอยู่กับคู่ครองไปตลอดชีวิตเสมอไป 

4. คนเลือกอยู่เป็นโสดคือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก 

• ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอย่างสวีเดนและนอร์เวย์ มีสถิติรองรับว่าคนอยู่เป็นโสดและอาศัยอยู่คนเดียวมาตั้งแต่ยุค 1950s ในปัจจุบันจำนวนครัวเรือนเดี่ยวนั้นเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว 
• สำนักเทรนด์ Euromonitor คาดการณ์ว่าจำนวนของครัวเรือนเดี่ยว (single-person household) ในเอเชีย-แปซิฟิกก็มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงปี 2583 หรืออีก 17 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะในญี่ปุ่น สัดส่วนของการอาศัยอยู่คนเดียวอาจเพิ่มขึ้นเกือบ 40% จากครัวเรือนทั้งหมด รองลงมาคือเกาหลีใต้ และประเทศไทย 

5. โสด แต่ไม่เหงา เพราะมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน

• PwC ประเทศจีนเปิดเผยข้อมูลว่าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงในจีนเติบโตขึ้น 3 เท่าตัวในรอบ 5 ปี และคาดว่าจะเติบโตเร็วกว่าเดิมในอีก 5 ปีข้างหน้า โดย 88% ของคนเลี้ยงสัตว์เป็นผู้หญิง และ 50% เป็นคนโสด  
• รายงานนี้ยังสอดคล้องกับเทรนด์ธุรกิจและบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในจีน ตั้งแต่บริการดูแลสัตว์เลี้ยง โรงแรมรับฝากสัตว์เลี้ยง คาเฟ่สำหรับคนรักสัตว์ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกสำหรับสัตว์เลี้ยง 

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะแบบไหน อย่าลืมว่าเรามีสิทธิ์ที่จะรักตัวเองในทุกๆ วัน