สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เผย หลังการประชุม เรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม ที่มีนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นประธาน และได้สั่งการ-กำชับให้กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้การกับกำดูแล หารือเพื่อเร่งมาตรการด้านความปลอดภัยสูงสุดในการดำเนินการก่อสร้างทุกโครงการ พร้อมกับเร่งจัดทำมาตรการการลงโทษที่รุนแรงต่อผู้รับเหมาที่กระทำความผิด หากพบผิดจริงต้องพิจารณาไม่ให้ประมูลงานหรือยื่นรับงานอีกต่อไป
ทั้งนี้ มาตรการที่เริ่มใช้ได้ทันทีระหว่างรอมาตรการสมุดพกผู้รับเหมาบังคับใช้นั้น คือ พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 หมวด 12 มาตรา 109 นำไปสู่ลักษณะเป็นการทิ้งงาน แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องดุลยพินิจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการตัดสินซึ่งต่างจากมาตรการสมุดพก หากเริ่มบังคับใช้ จะมีเงื่อนไขที่ชัดเจนในการตัดสินการลงโทษผู้กระทำความผิดทันที
สุริยะ กล่าวต่อว่า ทางกระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พร้อมที่จะดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้ได้เร่งทำมาตรการ ‘สมุดพกผู้รับเหมา’ ให้แล้วเสร็จพร้อมบังคับใช้ได้ทันทีภายใน เมษายน 2568 จากเดิมที่คาดแล้วเสร็จช่วงเดือน กรกฎาคม 2568 ซึ่งมั่นใจว่ามาตรการดังกล่าวจะใช้ได้ผลอย่างแน่นอน เนื่องด้วยหากมีผู้รับเหมากระทำผิด และโดนหักคะแนน จะไม่สามารถรับงานได้อีก ซึ่งมีผลต่อผลประกอบการบริษัทรายนั้น และส่งผลเชิงลบต่อการรับงานที่อื่นๆ อีกด้วย
สำหรับสาเหตุของคานสะพานก่อสร้างทรุดตัวบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษดาวคะนองของโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 3 เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ให้ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งตรวจสอบ โดยคาดใช้เวลา 1 เดือน ถึงได้เห็นความขัดเจนของสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งบริษัทผู้รับเหมา และบริษัทที่ปรึกษา หากผลสอบพบกระทำผิดจริง จะดำเนินคดีอาญาทันที