ส่องยอดขาย EV เครือ BMW ในรอบ 3 ปี หลังยุติผลิตรถน้ำมันในมิวนิก

16 พ.ย. 2566 - 07:37

  • BMW ยกเครื่องไลน์ผลิตโรงงานในมิวนิก เปลี่ยนจากรถน้ำมันเป็น EV

  • 246,867 คัน คือยอดขายรถ BEV ของ BMW ช่วงไตรมาส 1-3 ของปี 2023 โตจากปีที่แล้ว 92.6%

  • 1 ใน 3 คือเป้าสัดส่วนยอดขายรถ BEV ที่ BMW วางไว้ในปี 2026

EV, รถยนต์ไฟฟ้า, รถ EV, อีวี, ไฟฟ้า, หยุดผลิตรถน้ำมัน, รถน้ำมัน, ICE, โรงงาน, สายการผลิต, มิวนิก, munich, เยอรมนี, germany

การประกาศยุติไลน์ผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ICE) ของ BMW ในโรงงานที่เมืองมิวนิก (Munich) เยอรมนี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (13 พฤศจิกายน) เป็นเสียงระฆังที่ดังเตือนว่า...

ศักราชของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เริ่มต้นแล้วอย่างเป็นทางการ

การยุติไลน์ผลิตครั้งนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นปุบปับ แต่ BMW เตรียมการอย่างน้อยล่วงหน้า 3 ปี สังเกตได้จากการประกาศย้ายไลน์ผลิตเครื่องยนต์ ICE สำหรับรถน้ำมันไปที่โรงงาน Steyr ในออสเตรีย และโรงงาน Hams Hall ในสหราชอาณาจักร ตั้งแต่พฤศจิกายน ปี 2020

และเริ่มผลิต BMW i4 ที่เป็นรถ EV 100% ตั้งแต่ตุลาคม ปี 2021

EV, รถยนต์ไฟฟ้า, รถ EV, อีวี, ไฟฟ้า, หยุดผลิตรถน้ำมัน, รถน้ำมัน, ICE, โรงงาน, สายการผลิต, มิวนิก, munich, เยอรมนี, germany
Photo: โรงงานและสำนักงานใหญ่ BMW ในเมืองมิวนิก เยอรมนี

โดยจะยกเครื่องไลน์ผลิตเดิมในโรงงานมิวนิกที่เดินเครื่องมากว่า 60 ปี ให้เป็นไลน์ผลิตรถ EV เต็มรูปแบบในปี 2026

ด้วยเงินลงทุนราว 400 ล้านยูโร หรือ 15.4 หมื่นล้านบาท

พร้อมอบรมและพัฒนาทักษะพนักงาน 1,200 คนในโรงงานเดิมให้พร้อมรับการผลิตยุคต่อไป

BMW เดินยกเครื่องใหม่ไม่ใช่แค่โรงงานที่มิวนิก แต่ขยับทั้งเครือข่ายการผลิตในรัฐบาวาเรีย (1 ใน 16 รัฐของเยอรมนี มี มิวนิก เป็นเมืองหลวง) ได้แก่ 

  • ผลิตรถรุ่น i4 ที่มิวนิก
  • รถรุ่น iX, i7 และ i5 กำลังจะออกจากสายการผลิตในเมืองดิงโกลฟิง (Dingolfing) 
  • ผลิตรถรุ่น iX1 และ iX2 ที่เป็นรถ SUV-รถสปอร์ตอเนกประสงค์ ในเมืองเรเกินส์บวร์ค (Regensburg) 
  • ขณะที่โรงงานอื่นๆ เดินเครื่องผลิตชิ้นส่วนของรถ EV เช่น ผลิตไดรฟ์ไฟฟ้าที่ดิงโกลฟิง การสร้างศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ที่โรงงานในเมืองวัคเกอร์สดอร์ฟ (Wackersdorf)
EV, รถยนต์ไฟฟ้า, รถ EV, อีวี, ไฟฟ้า, หยุดผลิตรถน้ำมัน, รถน้ำมัน, ICE, โรงงาน, สายการผลิต, มิวนิก, munich, เยอรมนี, germany, i4
Photo: BMW i4 (bmw.co.th)

การปรับไลน์ผลิตไปสู่ EV ของ BMW ครั้งนี้ นอกจากเป็นกระแสโลกที่ต้องไป แต่ตัวเลขยอดขาย EV ที่ผ่านมาของ BMW คือหลักฐานที่บอกว่า โลกถึงเวลาแล้ว

รายงานยอดขาย EV ค่าย BMW ทั่วโลก ระบุว่า ยอดขายแบรนด์ BMW และ Mini ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% (BEV) ช่วงไตรมาส 1-3 ในปีนี้ อยู่ที่ 246,867 คัน เพิ่มจากปีก่อน 92.6%

โดยยอดขายในไตรมาส 3 มากถึง 93,931 คัน โตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีก่อน 79.6%

หากย้อนดูยอดขายรถ BEV ของค่าย BMW ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่ายอดขายมีแนวโน้มเติบโตเป็นเท่าตัวในทุกๆ ปี

2021 - 103,855 คัน 

2022 - 215,755 คัน 

2023 - 246,867 คัน_* (เฉพาะช่วงไตรมาส 1-3)_

การปรับไลน์การผลิตที่โรงงานในมิวนิกของ BMW นับเป็นการเปลี่ยนเกียร์ของหนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ยานยนต์โลกที่มองว่า สัดส่วนยอดขาย BEV จะกินส่วนแบ่งยอดขายรถประเภทอื่นๆ ในเครือมากขึ้นเรื่อยๆ

ยอดขาย BEV ของเครือ BMW ปี 2022 คิดเป็น 8.99% ของยอดขายรถทั้งหมด (215,755 จาก 2,399,636 คัน)

ปี 2023 (ช่วงไตรมาส 1-3) อยู่ที่ 13.44% (246,867 จาก 1,836,563 คัน)

ขณะที่อีก 3 ปีข้างหน้า (ปี 2024-2026) BMW ตั้งเป้าว่า ยอดขายรถ BEV จะเพิ่มสูงขึ้นเป็นสัดส่วน 33% ของรถทุกประเภท 

ปี 2024 ยอดขาย BEV, 1 ใน 5 ของรถทั้งหมด หรือ 20%

ปี 2025 ยอดขาย BEV, 1 ใน 4 ของรถทั้งหมด หรือ 25%

ปี 2026 ยอดขาย BEV, 1 ใน 3 ของรถทั้งหมด หรือ 33%

ตัวเลขที่ BMW ตั้งไว้จะไปถึงเป้าหมายหรือไม่ เวลาจะเป็นคำตอบ

แต่ที่แน่ๆ นี่คือการประกาศว่า พวกเขาเอาจริง และให้นักลงทุนเห็นว่า นี่คือทางที่ BMW จะไป

การปรับไลน์ผลิตที่โรงงานในมิวนิกเป็นแค่จุดเล็กๆ ในภาพใหญ่ของภาพอนาคต BMW เท่านั้น

เพราะในโลกทุนนิยม ทุนเคลื่อนไปทางไหน โลกก็จะหมุนไปทางนั้น…

และเวลานี้ ทุนในโลกกำลังย้ายจากรถน้ำมันไปสู่ EV มากขึ้นเรื่อยๆ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์