“นี่คือหนึ่งในสิ่งที่ทรงพลังในห้วงเวลานี้”
ซันดาร์ พิชัย (Sundar Pichai) ซีอีโอกูเกิลพูดถึง Gemini ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) ตัวล่าสุดของกูเกิล (Google)
พิชัยอ้างว่า Gemini เป็นโมเดล AI ที่เก่งกว่าโมเดล GPT-4 ของ OpenAI
ผลการทดสอบ (โดยกูเกิล) เรื่องความแม่นยำด้านต่างๆ พบว่า Gemini ทำได้ดีกว่า GPT-4 เกือบทุกด้าน (30 ด้านจาก 32 ด้าน)
ทว่าการทดสอบก็เป็นแค่การทดสอบ เพราะการทดสอบความสามารถของ Gemini ที่แท้จริง จะมาจากผู้ใช้ทั่วไปที่ส่วนใหญ่ใช้เพื่อระดมความคิด ค้นหาข้อมูล เขียนโค้ด ฯลฯ
“คุณสามารถทำงานกับเทคโนโลยีพื้นฐานที่มี และดีกว่าเดิม และทำงานเข้ากับโปรดักส์ต่างๆ ของเรา (กูเกิล) ได้ทันที” พิชัยชี้ให้เห็นจุดแข็ง AI ของกูเกิล
Gemini เป็นปัญญาประดิษฐ์แบบที่ใช้โมเดลภาษาชนาดใหญ่ (Large Language Model หรือ LLM) และเป็น Multimodel คือเข้าใจข้อมูลหลายๆ แบบทั้ง text, code, image, audio และ video
ในเวอร์ชั่น Gemini 1.0 ทางกูเกิลระบุว่า มีโมเดลทั้งหมด 3 ขนาด คือ

- Gemini Ultra: โมเดลขนาดใหญ่ที่สุด ทรงพลังที่สุด ใช้ทำงานที่ซับซ้อนสูง ปัจจุบันกูเกิลยังไม่ได้สร้างโมเดลนี้ แต่คาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2024 โดยใช้สำหรับศูนย์ข้อมูลและแอปพลิเคชันระดับองค์กรเป็นส่วนใหญ่
- Gemini Pro: โมเดลใช้บนบริการ AI ต่างๆ ของกูเกิล และตอนนี้อยู่เบื้องหลังการทำงานของ Bard ที่เป็น Chatbot AI ของกูเกิล
- Gemini Nano: โมเดลที่ใช้สำหรับโทรศัพท์มือถือ เช่น Pixel 8 Pro
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พิชัยเคยพูดหลายครั้งว่า AI จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงมนุษยชาติ มากกว่าไฟหรือไฟฟ้าเคยทำในอดีต
แน่นอนสิ่งนี้ยังไม่เกิดขึ้นวันนี้หรือพรุ่งนี้ Gemini 1.0 โมเดลรุ่นแรกยังเปลี่ยนโลกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ มันอาจช่วยให้กูเกิลไล่ตาม OpenAI บนสนามแข่งขันสร้าง Generative AI ชั้นยอดได้ทัน
พิชัยและผู้บริหารกูเกิลคิดว่า นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต
เหมือนที่ครั้งหนึ่งเว็บไซต์ค้นหาข้อมูล เคยทำให้กูเกิลกลายเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
และ Gemini อาจเป็นจุดที่สร้างให้กูเกิลกลายเป็นยักษ์ที่ตัวโตกว่าที่เคย
นี่เป็นมุมมองจากฝั่งกูเกิล ที่บนสนามการแข่งขันยังไม่มีบทสรุปว่าใครจะเป็นผู้ชนะในเกมนี้
เกมที่จะเปลี่ยนมนุษยชาติไปสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เป็นโลกที่ AI เก่งขึ้น เร็วขึ้น ขณะเดียวกันสิ่งที่มันทำไม่ได้ก็น้อยลงเรื่อยๆ...
กระแส AI เริ่มต้นขึ้นอย่างชัดเจนในปี 2023 บริษัทเทคฯ ชั้นนำและนักลงทุนต่างเทเงินจำนวนมหาศาลไปที่เทคโนโลยี AI

เงินในโลกทุนนิยม ไม่ต่างจากน้ำมันเชื้อเพลิง ยิ่งเยอะเท่าไหร่ อัตราเร่งในสิ่งนั้นจะเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนเดียวกัน
การเปิดตัว Gemini ของกูเกิลในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2023 ชวนให้นึกถึงข้อความที่ นูเรียล รูบินี (Nouriel Roubini) ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เขียนไว้ในหนังสือ Mega Threats - มหันตภัยคุกคาม 10 เทรนด์อนาคตที่กำลังบดขยี้คุณ เกี่ยวกับ AI ไว้ว่า

ความจริงที่เราปฏิเสธไม่ได้คือ ช่องว่างของปัญญาประดิษฐ์และปัญญามนุษย์นั้นแคบลงอย่างมาก
อัลกอริทึมสมัยนี้มักถามว่า คุณเป็นหุ่นยนต์หรือไม่ ก่อนที่จะอนุญาตให้เราเข้าชมเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาอ่อนไหวบางเว็บ
หลายคนเชื่อว่าช่องว่างดังกล่าวจะหายไปในอนาคตอันใกล้