Tesla Model Y เป็นรถ SUV ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้แพลตฟอร์มซีดานจาก Model 3 ที่มีการออกแบบทั้งภายในและภายนอก และมีระเบบส่งกำลังไฟฟ้าที่คล้ายกัน มีพื้นที่เก็บสัมภาระได้สูงสุดถึง 2,100+ ลิตร ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายคน มอง Model Y ว่าเป็นรถที่เหมาะในการขับขี่สำหรับทุกสถานการณ์
ข้อมูลของบริษัทวิจัยด้านรถยนต์ เคลลี บลู บุ๊ก ระบุว่า ตลอดทั้งปี 2566 ราคารถยนต์อีวีรุ่น Model Y ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของเทสลาในตลาดสหรัฐ โดยราคาปรับตัวลงถึงกว่า 21% ลดลงจากราคาเกือบ 63,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนมกราคม 2566 เหลือไม่ถึง 50,000 ดอลลาร์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567
ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา ให้เหตุผลขณะนั้น ว่า ตลาดรถยนต์อีวี มีการแข่งขันสูง ขณะที่ความต้องการรถเทสลา ก็มีมากขึ้นทั้งในสหรัฐและยุโรป โดยมียอดขายโดดเด่น ครองตำแหน่งรถยนต์ยอดขายสูงในเยอรมนี โรงงานของเทสลา จึงต้องเร่งกระบวนการผลิตรถยนต์มากช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เพิ่มขึ้น
สุดท้ายแล้ว เทสลา ก็มารับรู้กำไรจากยอดขาย ซึ่งลดลงถึง 40% ปฏิเสธไม่ได้ว่า มาจากผลกระทบจากสงครามราคาที่แข่งขันกันดุเดือด และมีคู่แข่งมาก โดยเฉพาะจีน ที่เข้ามาครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ต่อเนื่อง เทสลา จึงเดินกลยุทธ์ด้วยราคาที่ลดลง เพื่อดึงดูดลูกค้า
และก็ไม่ใช่แปลก ถ้าขณะนี้ เทสลาจะถึงเวลา ‘ปรับขึ้นราคา’ เสียที... โดยล่าสุด ได้ประกาศผ่านเว็บไซต์เมื่อ 15 มีนาคม ที่ผ่านมาว่า เตรียมขึ้นราคารถยนต์รุ่น Model Y ทั้งหมดเพิ่มอีก 1,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทย 35,840 บาท ในสหรัฐฯ เริ่มวันที่ 1 เมษายนนี้ เป็นต้นไป จับตาดูต่อไปว่า Tesla การประกาศขึ้นราคา รถยนต์รุ่น Model Y ในสหรัฐครั้งนี้ กระทบตลาดประเทศอื่น และรวมถึงตลาดประเทศไทย หรือไม่