กระทรวงพาณิชย์ พร้อมผลักดันการค้าไทยให้เข้าสู่พาณิชย์ยุคใหม่ พร้อมดำเนินการแก้กฎหมายที่เอื้อต่อการค้า รวมถึงเร่งผลักดันนโยบายต่างๆให้ประเทศไทยสามารถเข้าสู่เวทีโลกได้
ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ ‘พาณิชย์ยุคใหม่ การค้าไทยเชื่อมโลก’ ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 ได้กล่าวแสดงความยินดีกับหอการค้าไทยมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาเป็นเวลา 90 ปี ในวันนี้เชื่อว่าจะสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ของเครือข่ายเอกชนทั่วประเทศ และอยากให้เกิดประสบการณ์สร้างมุมมองและความเข้าใจที่ดีต่อกัน ให้เกิดความพร้อมสู่โลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
ภูมิธรรม เวชยชัย พร้อมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐฯให้ประสบความสำเร็จ ในขณะที่ประเทศมีภาวะวิกฤติอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าการร่วมมือระหว่างรัฐบาลและเอกชนจะช่วยผลักดันการค้า ผู้ประกอบการ และดูแลผู้บริโภคให้สำเร็จได้
โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านของ ระเบียบ เศรษฐกิจ การค้า โลกยุคใหม่ขับเคลื่อนด้วยความเร็วและความรู้ สิ่งสำคัญคือการรู้เท่าทันรวมถึงเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และเชื่อมั่นว่าภาคเอกชนจะสามารถเป็นหัวหอกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนและเอื้ออำนวยให้ไปได้ถึงเป้าหมาย
พาณิชย์ยุคใหม่ ที่จะเชื่อมโลกได้ ต้องพึ่งเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม ระบบความคิดใหม่ๆ ในปัจจุบันกฎระเบียบต่างๆของรัฐเปลี่ยนแปลงไม่ทันโลก ทำให้เกิดความล่าช้าและไม่เอื้ออำนวยให้ประเทศเข้าไปสู่ระดับสากลได้
การขับเคลื่อนให้การค้าของประเทศไทยเชื่อมกับโลกได้ จำเป็นต้องทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ มีความตั้งใจให้เกิดความสมดุลทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ผู้บริโภค เกษตรกร ผู้ผลิต และผู้ประกอบการ
สิ่งที่เป็นอุปสรรคทางการค้า ทั้งกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ รัฐบาลพร้อมจะแก้ไขปรับปรุง เพื่อเอื้ออำนวยและลดอุปสรรคทางธุรกิจ และจะต้องกล้าคิดนอกกรอบ โดยภายในสิ้นเดือนธ.ค.นี้จะสามารถประกาศแก้ไขกฎหมายและพระราชบัญญัติได้อย่างน้อย 4 ฉบับ ให้ผ่าน ครม. เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการทำการค้ารวมถึงแก้ไขกฎระเบียบต่างๆของกระทรวงให้ได้มากที่สุด
กระทรวงพาณิชย์ มี 3 เสาหลัก
- การเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการ ผ่านการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ทางการค้าและการลงทุนในยุคดิจิทัล การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและสินเชื่อ การสร้างเครือข่ายธุรกิจ การส่งเสริมนวัตกรรม ปรับปรุงพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้าและการลงทุน
- อำนวยความสะดวก ส่งเสริมการค้าและการลงทุนในภูมิภาคและตลาดโลก ผ่านการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ พร้อมเข้าไปคุยกับต่างประเทศเพื่อบุกตลาดโลก ทั้งในแอฟริกา ตะวันออกกลางเอเชียกลาง และกลุ่มอาเซียน
- การพัฒนาระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการค้าและการลงทุนในภูมิภาคและตลาดโลก ผ่านการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ และการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าและบริการของไทย
นอกจากนี้ รัฐผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จาก FTA ให้มากที่สุด รวมถึงสร้างให้เกิดการปรับตัวเพื่อรองรับและส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการไทย ในมาตรฐานความยั่งยืนในกรอบกติกาของโลก โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนมูลค่าการค้ากับคู่ภาคี FTA ให้มากขึ้นจากปัจจุบัน 61% ให้เพิ่มเป็น 80% ในปี 2570