งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 เวทีการค้าอาหารระดับโลก กลับมาจัดยิ่งใหญ่ ครบวงจรที่สุดในเอเชีย จัดขึ้นปลายเดือนนี้ระหว่าง 27–31 พฤษภาคม 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี วงการอาหารต้องไม่พลาด! โดยปีนี้จัดขึ้น ภายใต้แนวคิด “Beyond Food Experience” มุ่งเน้นการยกระดับประสบการณ์อาหารและเครื่องดื่มผ่านนวัตกรรมและเทรนด์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่
สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เผย งาน THAIFEX – ANUGA ASIA ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพ เจรจาธุรกิจ และเรียนรู้แนวโน้มอุตสาหกรรมระดับโลก ภายในงานจะมีผู้แสดงสินค้ากว่า 3,100 รายจากกว่า 50 ประเทศ และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 90,000 คนจากทั่วโลก พร้อมกิจกรรมไฮไลต์มากมาย เช่น THAIFEX – ANUGA Trend Zone ที่นำเสนอเทรนด์อาหารระดับโลก THAIFEX – ANUGA tasteInnovation Show ที่จัดแสดงผลิตภัณฑ์นวัตกรรม และ THAIFEX – ANUGA Startup ที่เปิดเวทีให้สตาร์ทอัพด้านอาหารและเครื่องดื่มได้แสดงผลงาน
งานนี้ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่ต้องการขยายตลาด สำรวจนวัตกรรมล่าสุด จับทิศทางแนวโน้มตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมสร้างเครือข่ายธุรกิจในระดับสากล
ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า THAIFEX - ANUGA ASIA ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายตลาดอาหารและเครื่องดื่มสู่เวทีนานาชาติ โดยปัจจุบันประเทศไทยครองอันดับ 12 ของโลกด้านการส่งออกอาหาร และมีแนวโน้มว่าการส่งออกอาหารในปี 2568 จะมีมูลค่าถึง 1,750,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 จากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการส่งออกอาหารของโลก
แมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการและรองประธานภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โคโลญเมสเซ่ ย้ำถึงบทบาทเชิงกลยุทธ์ของงาน THAIFEX - ANUGA ASIA ในฐานะศูนย์กลางระดับภูมิภาคสำหรับการพบปะและเชื่อมโยงธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก โดยกล่าวว่า “จุดเด่นที่ทำให้ THAIFEX – ANUGA ASIA แตกต่าง คือความสามารถในการสะท้อนภาพพฤติกรรมผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับการเป็นแรงผลักดันให้นวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมในวงกว้าง
THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ไปแล้วจะได้เจออะไรบ้าง?
9 โซนแสดงสินค้าหลัก
ทั้งนี้ ภายในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ประกอบด้วย 9 โซนแสดงสินค้าหลัก ที่ครอบคลุมทุกกลุ่มในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เช่น อาหารสำเร็จรูป เครื่องดื่ม ของหวาน ผลิตภัณฑ์แช่แข็ง อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกและฮาลาล
11 เทรนด์อาหารและเครื่องดื่มที่น่าจับตา
ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัสกับ 11 เทรนด์สำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรม F&B เช่น อาหารเพื่อสุขภาพ อาหารจากพืช (Plant-based) อาหารฟังก์ชัน และนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์
3 โซนพิเศษแสดงนวัตกรรมแห่งอนาคต
แน่นอนว่า ยุคนี้เป็นยุคเทคโนโลยี-นวัตกรรม ทำงานงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 จัด 3 โซนพิเศษ เพื่อนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ ที่จะกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เทคโนโลยีการผลิตอาหารที่ยั่งยืน และโซลูชันสำหรับความมั่นคงทางอาหารในอนาคต
โอกาสในการพบปะผู้ซื้อและพันธมิตรทางธุรกิจ
งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ป็นความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) หอการค้าไทย (TCC) และ Koelnmesse (โคลน์เมสเซ่) ผู้จัดงานแสดงสินค้าระดับโลกจากประเทศเยอรมนี หรือคือการผนึกกำลังของทั้ง รัฐ–เอกชนไทย–ผู้จัดงานระดับโลก ทำให้งาน THAIFEX มีความน่าเชื่อถือในระดับสากล และกลายเป็นเวทีสำคัญที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมอาหารจากทั่วโลกเข้ากับภูมิภาคเอเชียอย่างมีประสิทธิภาพ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 90,000 คน และผู้ซื้อชั้นนำกว่า 2,000 รายจากทั่วโลก ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเครือข่ายและขยายตลาด
สัมมนาและเวิร์กช็อปจากผู้เชี่ยวชาญ
ภายในงาน ยังจะมีการจัดสัมมนาและเวิร์กช็อปที่เน้นประเด็นสำคัญ เช่น ความมั่นคงทางอาหารในยุคที่เผชิญกับความไม่แน่นอนของห่วงโซ่อุปทาน และการปรับตัวของอุตสาหกรรมต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
ไฮไลต์ใหม่ THAIFEX – ANUGA ปี 2025 ที่แตกต่างจากปีก่อน
ทั้งนี้ กล่าวได้ว่า งาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ปีนี้ เตรียมยกระดับความอลังการและทันสมัยขึ้นกว่าทุกปีที่ผ่านมา โดยมี จุดเด่นใหม่และความแตกต่าง ที่ผู้เข้าร่วมงานจะได้สัมผัส ประกอบด้วย
1. โฟกัส “Future Food Experience+” แบบเจาะลึกมากขึ้น
โดยปีนี้ขยายโซน Future Food Experience+ เพื่อโชว์อาหารนวัตกรรม เช่น เนื้อจากการเพาะเลี้ยงในห้องแล็บ (Cultivated Meat), อาหารจากแมลง, อาหารทางเลือกจากพืช และการใช้ AI ในการพัฒนาสูตรอาหาร
2. เปิดตัวโซน “THAIFEX – Tech X Stage” ครั้งแรก
เวทีใหม่ที่จะเน้นเรื่อง FoodTech, AgriTech, Supply Chain และ AI โดยเฉพาะ ทั้งในมุมของสตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าใจบทบาทของเทคโนโลยีในโลกอาหารยุคหน้า
3. ระบบจับคู่ธุรกิจอัจฉริยะ (Smart Business Matching)
ใช้ AI matchmaking ในการแนะนำคู่ค้าทางธุรกิจให้ตรงเป้าหมายมากขึ้น ลดเวลาค้นหา และเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจในจุดที่ตรงใจ
4. การกลับมาอย่างเต็มรูปแบบของ Buyers Program ระดับโลก
รวมผู้ซื้อรายใหญ่กว่า 2,000 รายจากทั่วโลก โดยมีการจัด ‘ซื้อขายจริง’ บนพื้นที่งาน พร้อมโซนเจรจาธุรกิจที่เป็นสัดส่วนมากขึ้น
5. เทรนด์ ‘อาหารเพื่อโลก’ (Food for Planet)
มีการขยายหัวข้อการแสดงเกี่ยวกับความยั่งยืนมากขึ้น ทั้งบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก เทคโนโลยีลดคาร์บอน และระบบผลิตอาหารแบบ Net Zero กล่าวได้ว่า ปีนี้ถือว่า ‘เปลี่ยนโฉม’ อย่างจริงจัง โดยมีทั้ง เทคโนโลยี-นวัตกรรม-แนวคิด ESG มาผนวกเข้ากับการจัดแสดงสินค้าอย่างลงตัว พร้อม ‘รับมือ’ และ ‘ขานรับ’ เทรนด์อาหารสำคัญของโลกอย่างชัดเจนและเป็นระบบ ด้วยการจัดแสดง แบ่งโซน และกิจกรรมต่างๆ ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค และนักลงทุนในอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะใน 5 เทรนด์สำคัญที่มาแรงทั่วโลก
