แก้หนี้ มีรูปธรรม 22 วัน ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 233 ราย

23 ธ.ค. 2566 - 05:31

  • โฆษกรัฐบาลย้ำแก้หนี้นอกระบบคืบหน้าเป็นรูปธรรม มูลหนี้ลดลง 97 ล้านบาท

  • ชวนต่อคนเป็นหนี้นอกระบบ เข้ากระบวนการแก้หนี้ ยันรัฐเตรียมพร้อมช่วยเต็มที่

thaigov-debt-solved-Informal-clinic-register-succeed-SPACEBAR-Hero.jpg

‘หนี้’ ปัญหาเรื้อรังชีวิต จะดีกว่าไหม? ถ้าเริ่มต้นแก้หนี้เสียตั้งแต่วันนี้ ชี้ หลังรัฐเปิดลงทะเบียน 22 วัน ลูกหนี้เข้ากระบวนการ 1,445 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 233 ราย มูลหนี้ลด 97 ล้าน

นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เชื่อ หนี้นอกระบบในคนไทยจะคลี่คลายขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด เผยความคืบหน้าการแก้หนี้นอกระบบของภาครัฐ ว่า กระทรวงมหาดไทยเปิดยอดการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2566 มีมูลหนี้รวม 6,697.642 ล้านบาท ประชาชนลงทะเบียนแล้ว 106,863 ราย แบ่งเป็นการลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ 93,208 ราย และการลงทะเบียนที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขหนี้นอกระบบ 13,655 ราย รวมจำนวนเจ้าหนี้ 77,525 ราย 
- จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนมากที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร 6,734 ราย เจ้าหนี้ 5,749 ราย มูลหนี้ 566.522 ล้านบาท 
- จังหวัดที่มีผู้ลงทะเบียนน้อยที่สุดคือแม่ฮ่องสอน มีผู้ลงทะเบียน 151 ราย เจ้าหนี้ 117 ราย มูลหนี้ 6.621 ล้านบาท

ข้อมูลการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบทั่วประเทศ พบว่ามีลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยแล้ว 1,445 ราย ไกลเกลี่ยสำเร็จ 233 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 144.119 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 46.561 ล้านบาท มูลหนี้ลดลง 97.557 ล้านบาท ซึ่งมีจังหวัดที่สามารถนำลูกหนี้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยได้มากที่สุดคือจังหวัดนครสวรรค์ โดยมีลูกหนี้ที่เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 179 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 8 ราย มูลหนี้ของลูกหนี้ก่อนไกล่เกลี่ย 15.218 ล้านบาท หลังการไกล่เกลี่ย 7.65 แสนบาท ทำให้มูลหนี้ของประชาชนในจังหวัดลดลงมากถึง 14.453 ล้านบาท

“นี่คือความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมมากที่สุดของการแก้หนี้นอกระบบ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบอยู่ แล้วยังลังเลใจว่าจะเข้ามาแจ้งดีไหม ขอท่านได้โปรดตัดสินใจเข้ามาสู่กระบวนการที่ภาครัฐเตรียมพร้อมจะช่วยท่านอย่างเต็มที่อยู่ในขณะนี้ การแก้หนี้นอกระบบ หากได้รับความร่วมจากทุกฝ่าย จะสามารถดึงเม็ดเงินที่หลุดออกไปจากมือประชาชนไหลเข้าไปอยู่ในมือนายทุนปีละไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท เม็ดเงินมหาศาลจำนวนนี้ สมควรจะถูกบริหารจัดการให้กลับคืนสู่มือพี่น้องประชาชนเพื่อการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะช่วยส่งผลให้เศรษฐกิจภายในของประเทศกลับมาฟื้นตัวได้อย่างมีพลังอีกครั้งครับ”

นายสัตวแพทย์ชัย กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์