นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือ THCOM เผยในการประชุมและสัมมนา Asia-Pacific Satellite Communications Council (APSCC 2024) ว่า ไทยคม มีวิสัยทัศน์มากกว่า 3 ปี มุ่งที่จะทำธุรกิจเทคโนโลยีอวกาศ เรามองว่า space tech เป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพสูงในการสร้างรายได้ให้กับไทยคม หลังจากปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจอวกาศมีความคืบหน้าและเติบโตที่น่าพอใจ ไทยคมได้เพิ่มศักยภาพ และเพิ่มความรู้ความสามารถด้าน AI ให้บุคลากร เพื่อรองรับทิศทางใหม่
“เราทำโครงการร่วมกับสมาคมประกันวินาศภัยไทยและกระทรวงเกษตร ในการใช้ภาพถ่ายดางเทียมประเมินความเสียหายของนาข้าวได้ถึง 13 ล้านไร่ จากพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด 50 ล้านไร่ ช่วงต่อไปมีแผนจะขยายต่อยอดไปสู่พืชเศรษฐกิจชนิดอื่น นอกจากนี้ยังใช้ภาพถ่ายดาวเทียม Carbon Watch เพื่อตรวจสอบการดูดซับคาร์บอนในป่า โดยเป็นโซลูขันเดียวในอาเซียนที่ทำ”
ไทยคมยังได้ให้ความสำคัญกับความยั่นยืน ESG โดยจะนำเทคโนโลยีอวกาศมาใช้กับความยั่งยืน ล่าสุดไทยคมได้รับ Rating AAA ด้านความยั่งยืนจากตลาดหลักทรัพย์ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้วยรางวัล Sustainability award
“คาร์บอนเป็นเรื่องที่คนสนใจเยอะ ทั้งในประเทศและต่างประเทศก็สนใจ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงที่เราจะสร้างฐานลูกค้า ธุรกิจอวกาศเพื่อรอให้เติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
สำหรับแผนปี 2568 ในส่วนของธุรกิจดาวเทียม หลังจากได้สิทธิวงโคจร 50.5 องศาตะวันออก จะทำการลากดาวเทียม 9A มาที่ตำแหน่ง 50.5 องศาเพื่อรักษาสิทธิวงโคจร ในปี 2568 จะเริ่มมีดาวเทียมใหม่เข้ามาเพื่อให้ทำธุรกิจดาวเทียมต่อไป
ส่วนธุรกิจ Space Tech จะขยายฐานลูกค้าในบริการโซลูชันให้บริการตรวจสอบการดูดซับคาร์บอนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่มีลักษณะของป่าคล้ายกับไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับหลายองค์กรที่ให้ความสนใจและตื่นตัวเรื่อง ESG
“เรื่องงบประมาณเรามีพร้อมแล้วที่จะทำธุรกิจดาวเทียมและธุรกิจอวกาศ การลงทุนธุรกิจดาวเทียมได้ขอผู้ถือหุ้นสำหรับดาวเทียมใหม่แล้ว 15,000 ล้านบาท การลากดาวเทียมรักษาวงโคจรเป็นการลากเปลี่ยนจุด งบประมาณที่ดำเนินการเป็นสิ่งที่เตรียมไว้อยู่แล้ว ส่วนธุรกิจอวกาศเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ใช้การลงทุนสูง”
นายปฐมภพ กล่าว
