TNL กำงบ 3 พันล้าน ขยายธุรกิจฟาก ‘การเงิน’ ปี 67

11 ธ.ค. 2566 - 03:32

  • TNL ยิ้มรับผลประกอบการธุรกิจไฟแนนซ์ ไปได้สวย ชี้ 1 ปีการดำเนินงานเติบโตแกร่ง 400%

  • เผย ปีหน้า ตั้งงบฯ 2-3 พันล้าน ขยายพอร์ตเพิ่มทั้ง 3 ขา เป้าโต 2 เท่า โดยเฉพาะธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC)

  • เน้นรอบคอบ ระมัดระวัง ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Hero_9856fd88cb.jpg

บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL ถือได้ว่า เป็นผู้ประกอบธุรกิจ ‘สิ่งทอและเครื่องนุ่งหุ่ม’ (Textile) มายาวนานถึง 48 ปี การปรับโครงสร้างมาจับธุรกิจด้านการเงิน (Financial Service) เพิ่มตั้งแต่ปลายปี 2565 เพื่อตอบรับความผันผวนทางการเงินของธุรกิจประเทศ เป็นอีกบทพิสูจน์ว่า TNL ขยายงานมาถูกทางแล้ว เพราะระยะเวลาการทำงานเพียงแค่ 1 ปี TNL ก็ได้เห็นกำไรธุรกิจใหม่ ‘เติบโตอู้ฟู่’ นั่นจึงเป็นที่มาให้ในปี 2567 TNL พกเงินสดไว้ในกระเป๋าแล้ว 2-3 พันล้านบาท เพื่อต่อยอดขยายพอร์ตลงทุนในธุรกิจใหม่ ให้เติบโตและใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่า

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Photo02_104df01335.jpg

โดย กิตติชัย ตรีรัชตพงษ์ หัวหน้าคณะผู้บริหารสายงานกลยุทธ์องค์กร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL เผย ปัจจุบันธุรกิจของ TNL ซึ่งมีทั้ง ‘เท็กซ์ไทล์’ และ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ฟากฝั่งของเท็กซ์ไทล์ ก็ยังเป็นธุรกิจและรายได้หลักของบริษัท มีสัดส่วนประมาณ 70% ส่วนไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประกอบด้วย 3 ธุรกิจใหม่ คือ ธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน (Secured Lending), ธุรกิจการเงินประเภทบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย มีสัดส่วนรายได้ประมาณ 30%

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Photo03_87fd60ad6f.jpg

กล่าวได้ว่า 2 ฟากฝั่งธุรกิจนั้น การเงิน เป็นตัวทำกำไรให้บริษัทมาก โดยปิด Q3 อยู่ที่ประมาณ 70% หรือกำไรรวมประมาณ 500 ล้านบาท หรือเท่ากับโตกว่า 400% ถือเป็น New Growth Engine ให้บริษัทได้เป็นอย่างดี สิ่งนี้จึงเป็นอีกความท้าทายของผู้บริหาร ที่จะต้องทำธุรกิจเดิมให้ดีขึ้น ทำให้มาร์จิ้น (ความสามารถในการทำกำไร) ของธุรกิจเท็กซ์ไทล์ ให้สูงขึ้น โดยแนวทางอาจต้องนำเทคโนโลยีมาร่วมพัฒนา เพื่อก้าวใหม่ของธุรกิจเท็กซ์ไทล์ เป็นต้น

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Photo04_110c50eaca.jpg

“ปัจจุบัน เท็กซ์ไทล์ ไม่ได้มีผลประกอบการแย่ ยังคงเติบโตในทิศทางที่ดีเช่นเดิม เพียงแต่ธุรกิจน้องใหม่ แม้ไซส์จะยังเล็กแต่เติบโตโดดเด่น ดังนั้น ในปี 2567 เราจึงจะโฟกัสไปที่ธุรกิจใหม่ เพิ่มพอร์ตการลงทุนแต่ละธุรกิจ ให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งได้เตรียมงบลงทุนไว้แล้ว 2-3 พันล้านบาท และยังคงเน้นลงทุนอย่างระมัดระวัง จากภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดยงบลงทุนดังกล่าว จะใช้ในการปล่อยสินเชื่อ และขยายพอร์ตหนี้เสีย (ธุรกิจ AMC) เพิ่มมากขึ้น”

กิตติชัย กล่าว

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Photo05_4c36645b20.jpg

ด้าน ยศกร ศรีสุขสวัสดิ์ หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานลงทุน กล่าวด้วยว่า สินเชื่อที่ TNL ทำ เน้นเฉพาะสินเชื่อที่มีหลักประกัน และเป็นสินเชื่อรายใหญ่ (สินเชื่อประเภทบ้าน-คอนโดฯ ไม่ได้ปล่อย) พร้อมฉายภาพธุรกิจการเงิน แต่ละด้าน ว่า...

ธุรกิจสินเชื่อมีหลักประกัน : TNL ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ท จำกัด (Oxygen) มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกัน โดยมีกลุ่มลูกค้าขนาดกลางขึ้นไป ไม่เน้นกลุ่มลูกค้ารายย่อย ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักการ การให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ (Responsible Lending) 

ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ : TNL ดำเนินธุรกิจ บริหารจัดการสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL) และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ผ่านบริษัทบริหารสินทรัพย์ ออกซิเจน จำกัด (หรือ OAM) โดยได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ซึ่งถือเป็นสถาบันการเงิน ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. ซึ่งในส่วนของ บริษัท OAM มุ่งเน้น NPL ที่มีหลักประกัน (ทั้ง Retail NPLs และ Corporate NPLs) และในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2566 บริษัทสามารถประมูลหนี้ NPL ที่มีหลักประกันจากสถาบันการเงินมาได้ โดยมีมูลหนี้ที่บริหารกว่า 1,600 ล้านบาท

ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย : TNL ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ประเภทที่อยู่อาศัย ผ่าน บริษัท ทีเอ็นแอน อัลไลแอนซ์ จำกัด (หรือ TNLA) โดย TNLA ร่วมลงทุนกับบริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (NOBLE) ผ่านบริษัทร่วมทุน (JV) ในสัดส่วน 50:50

ปัจจุบัน มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอยู่ 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 2 หมื่นบ้านบาท โดยจะเริ่มทยอยก่อสร้างเสร็จ และพร้อมโอนตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Photo06_dc3e1fb1d2.jpg

ขณะที่ นันทวัฒน์ สุรวัติเสถียร หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานการเงิน TNL เผยถึงการเติบโตของบริษัทฯ ว่า ผลดำเนินงาน งวด 9 เดือนแรก ปี 2566 TNL มีรายได้รวม 1,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ จำนวน 501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 422 ล้านบาท หรือ 534% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีอัตรากำไรสุทธิ ที่ 32% เมื่อเทียบกับ 7% ใน 9 เดือนแรก ของปี 2565

โดยหลักๆ รายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากธุรกิจใหม่ ในด้านธุรกิจบริการทางการเงิน ที่มีออกซิเจน และ OAM) และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (TNLA) ที่มีอัตรากำไร (Net Profit Margin) ที่สูง หลังจากที่ทาง TNL ได้ปรับโครงสร้างบริษัท โดยได้รับการสนับสนุนที่ดีจากผู้ถือหุ้นเดิม ในการเพิ่มทุน ทำให้ TNL มีส่วนของผู้ถือหุ้น ณ 30 กันยายน 2566 อยู่ที่ 10,553 ล้าน และมีหนี้สินรวมต่อสัดส่วนของผู้ถือหุ้นรวมอยู่เพียง 0.21 เท่า

tnl_textile_financial_service_business_amc_loan_property_SPACEBAR_Photo01_3a64bdc941.jpg

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์