เทรนด์พลังงานทางเลือก มาแรง
ประเทศไทยส่งเสริม ‘ผลิต-ใช้พลังงานทางเลือก’
ยุค ‘ค่าไฟแพง’ โซลาร์ เซลล์ ตอบโจทย์ ทั้งผู้ประกอบการ และประชาชน
และนี่ก็เป็นโอกาส บริษัท โซลาร์เซลล์ ชื่อดังของจีน ‘ทงเวย โซลาร์’ มาลุยตลาดประเทศไทย ตั้งแต่ Q2/2566 ชี้ผลสำเร็จตลาดไทยให้การตอบรับดีเยี่ยม วางกลยุทธ์ขายโซลาร์เซลล์เทคโนโลยีชั้นเยี่ยมยิ่งกว่า พร้อมพา ‘G12R’ รุกตลาดไทยปีหน้า 2567
นายแจ๊ค สวี๋ (Mr. Jack Xu) ผู้อำนวยการฝ่ายบริการด้านเทคนิคตลาดต่างประเทศ บริษัท ทงเวย โซลาร์ หรือ TW SOLAR ชี้ จากนี้ไปประสิทธิภาพโซลาร์เซลล์ จะดีขึ้นต่อเนื่อง จากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำขึ้นทุกวัน ไม่ลืมที่จะโชว์จุดเด่นผลิตภัณฑ์เรือธงใหม่ล่าสุด ‘G12R’ ที่จะวางขายปีหน้า 2567 ว่า เป็นสินค้าในกลุ่ม N-Type (แผงซิลิคอนที่ผ่านกระบวนการโดปปิ้งด้วยสารฟอสฟอรัส phosphorus ทำให้มีคุณสมบัติเป็น ‘ตัวส่งอิเล็กตรอน’ เมื่อได้รับพลังงานแสงอาทิตย์ ทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่า และเสื่อมสภาพช้ากว่าแผงชนิดอื่นๆ) ใช้เทคโนโลยีแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง TONGWEI TNC ประสิทธิภาพ การแปลงเฉลี่ยมากกว่า 26.1% ใช้การออกแบบซูเปอร์มัลติบัสบาร์ การตัดด้วยเลเซอร์แบบไม่สูญเสีย บรรจุภัณฑ์ที่มี ความหนาแน่นสูง และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของรอยแยกย่อยและเพิ่มประสิทธิภาพ
ในแง่ของการออกแบบ G12R ได้รับการปรับปรุงโดยอิงจากซีรีส์ 182 แบบดั้งเดิม เมื่อพิจารณาถึงรูปแบบการขนส่งกระแสหลัก จะช่วยเพิ่มอัตราการใช้ตู้คอนเทนเนอร์ให้สูงสุดและลดต้นทุนการขนส่ง ด้วยการเพิ่มกำลังไฟฟ้า ต้นทุนรวมจะลดลง
และด้วยจุดเด่นมาตรฐานของ แผงโซลาร์เซลล์ ( Photovoltaic : PV ) จากทงเวยซึ่งใช้ซิลิคอนที่ดีที่สุด ในการผลิตแผ่นเซลล์แสงอาทิตย์ มีความยืดหยุ่น ในการป้องกันรอยแตกขนาดเล็กจากอุณหภูมิที่สูงมากและต่ำ ที่เหมาะกับสภาพอากาศร้อนในประเทศไทย จึงมีความเชื่อมั่นว่า ผลิตภัณฑ์กลุ่ม G12R นี้จะสามารถตอบสนองความต้องการของการใช้งาน PV ที่หลากหลายในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี ทั้งภาคครัวเรือน เชิงพาณิชย์ และภาคอุตสาหกรรม
ด้าน นายแฟรงก์ เหยียน (Mr. Frank Yan) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันเดย์ โซลาร์ ซัพพลาย จำกัด ผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และให้บริการติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายรายใหญ่เพียงรายเดียวในประเทศไทยของแบรนด์ ‘ทงเวย โซลาร์’ กล่าวว่า ในปี 2566 กลุ่มลูกค้าของ Tongwei ในตลาดไทย ส่วนใหญ่ มาจากลูกค้าในครัวเรือน อุตสาหกรรมและการพาณิชย์ และโรงไฟฟ้าภาคพื้นดินขนาดใหญ่ ซึ่งจากภาพรวมตลาดที่ผ่านมา ถือว่าได้รับการตอบรับดีจากลูกค้าชาวไทย และคาดว่าจะสามารถจำหน่ายโซลาร์เซลล์ได้ ไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ภายใน ปี 2567 และจะสร้างรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี
ทั้งนี้ ทงเวย โซลาร์ พบข้อมูลของ IHS ที่ชี้ว่า ไทยมีกำลังการผลิตติดตั้ง 1.26GW ในปี 2565 คิดเป็น 36% ของส่วนแบ่งตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบกับการดำเนินนโยบายพลังงานสะอาดและ มาตรการจูงใจของประเทศไทยที่มีอย่างต่อเนื่อง จึงคาดว่ากำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้าโซลาร์เซลล์ในไทยจะสูงถึง 2.17GW ภายในปี 2566 และจะกลายเป็นตลาดโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยโครงสร้างกำลังการผลิตติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์ของไทยนั้นการใช้งานในครัวเรือนมีสัดส่วนน้อยกว่า 1% แต่กำลังการผลิตติดตั้งในภาคอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์สูงถึง 1.85GW คิดเป็น 85% นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่รุกตลาดไทยอย่างเต็มสูบ พร้อมจะใช้เทคโนโลยีพัฒนาแผงโซลาร์ สร้างประสิทธิผลที่ดีเยี่ยมต่อไป