"ชะลอการลงทุน 1 สัปดาห์ แต่จับตาทองคำที่อาจได้ประโยชน์ในระยะสั้น" คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญหลังทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าทั่วโลก 10-50% ซึ่งหนักกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ชาตรี โรจนอาภา Head of Investment Consultant จาก SCB CIO ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขภาษีนำเข้าที่ทรัมป์ประกาศเก็บสูงเกินกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 20% โดยสหรัฐฯ จะเก็บภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่นำเข้า และบวกเพิ่มสำหรับอีกหลายสิบประเทศ รวมถึงคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ
"ตัวเลขที่ออกมานี้ส่งผลกระทบต่อตลาดเงิน-ตลาดทุนทั่วโลกทันที เป็น first reaction เพราะตลาดกังวลกับอัตราภาษีที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าหลังจากนี้จะต้องมีการเจรจากันต่อไป และน่าจะมีการปรับอัตราภาษีลง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเจรจาของแต่ละประเทศ" คุณชาตรีกล่าว
คุณชาตรีมองว่าตัวเลขที่ทรัมป์ประกาศนั้นเป็นตัวเลขที่สหรัฐฯ ตั้งใจจะเก็บอยู่แล้ว จากสูตรคำนวณภาษีอย่างง่ายที่ต้องการลดภาษีนำเข้าครึ่งหนึ่งจากประเทศที่สหรัฐฯ เกินดุลการค้า
"อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขภาษีนำเข้านี้ยืนนาน จะเป็นภาระที่หนักขึ้นสำหรับแต่ละประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายต้องรีบเจรจาว่าจะดำเนินการในทิศทางไหน จะใช้นโยบายอ่อนหรือแข็งกร้าวในการตอบโต้สหรัฐฯ" ผู้เชี่ยวชาญจาก SCB CIO กล่าว

ผลกระทบต่อสินทรัพย์ทั่วโลก
คุณชาตรีแนะนำนักลงทุนให้ชะลอการลงทุนหลังจากนี้ไปก่อนอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ในทุกตลาด โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากมองว่าตลาดจะยังคงมีแนวโน้ม "ไซด์เวย์ดาวน์" คือแกว่งตัวในกรอบและมีโอกาสปรับตัวลง
"สินทรัพย์ที่น่าจะได้ประโยชน์มากที่สุดในช่วงนี้คือทองคำ ในระยะสั้น" คุณชาตรีระบุ "อย่างไรก็ตาม อยากให้ระมัดระวังหลังทองคำปรับตัวสูงขึ้นแล้ว และจับตาดูความเคลื่อนไหวของสงครามการค้าที่อาจจะเป็นตัวเปลี่ยนเกมทุกอย่าง"
สำหรับตลาดหุ้นไทย หลังจากไทยเจอภาษีนำเข้า 36% คุณชาตรีเชื่อว่าจะมีการเจรจาต่อรองเกิดขึ้น เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นประเทศคู่ค้าหลักอันดับหนึ่งของไทย
"ผมเชื่อว่าตัวเลขภาษีนี้อาจจะไม่อยู่นานมาก เช่นเดียวกับผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่อาจจะไม่ได้แย่แบบลากยาว ดังนั้น หุ้นไทยก็อาจจะปรับฐานในระยะสั้นเท่านั้น" คุณชาตรีกล่าวทิ้งท้าย