รัฐปลดล็อกแอลกอฮอล์ 5 วันหยุด ดันท่องเที่ยว ฟื้น ศก.

9 พ.ค. 2568 - 08:39

  • รัฐเปิดทางขายเหล้า “สนามบิน โรงแรม และย่านท่องเที่ยวทั่วประเทศ”

  • กระตุ้นจับจ่ายนักท่องเที่ยว รับปี Amazing Thailand 2025

  • ชี้ ผู้ประกอบการได้ประโยชน์ แต่ยังคุมเข้มกฎหมาย-เยาวชนเข้าถึงไม่ได้

รัฐ “ปลดล็อกแอลกอฮอล์ 5 วันหยุดพิเศษ” ดันปีท่องเที่ยวไทย 2025 เพิ่มความยืดหยุ่นผู้ประกอบการ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

รัฐบาลประกาศผ่อนคลายข้อจำกัดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบางพื้นที่เฉพาะช่วงวันหยุดพิเศษทางศาสนา 5 วัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างความยืดหยุ่นให้กับผู้ประกอบการธุรกิจบริการ สอดรับกับนโยบาย “Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025” ซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศในปี 2568

จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2568 มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2567 โดยอิงตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ซึ่งมี นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธาน

การผ่อนคลายดังกล่าวจะมีผลเฉพาะในสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เช่น

1.      อาคารผู้โดยสารในสนามบินที่ให้บริการเที่ยวบินระหว่างประเทศ
2.      สถานบริการตามกฎหมาย
3.      สถานประกอบการที่เปิดบริการในลักษณะคล้ายสถานบริการซึ่งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว
4.      โรงแรมที่จดทะเบียนตามกฎหมาย
5.      สถานที่จัดกิจกรรมพิเศษระดับชาติหรือนานาชาติที่มีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วม

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการในสถานที่ดังกล่าวยังต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมทางสังคมอย่างเข้มงวด เช่น การคัดกรองผู้เข้าใช้บริการ การควบคุมการเข้าถึงของเยาวชน และการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยรวม

“การปลดล็อกครั้งนี้ถือเป็นการสร้างสมดุลระหว่างความเชื่อทางศาสนาและความจำเป็นทางเศรษฐกิจ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อย และเพิ่มศักยภาพการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในวันหยุดสำคัญที่เคยถูกจำกัดมาก่อน” นายจิรายุกล่าว

นโยบายนี้ยังสะท้อนถึงแนวทางการปรับตัวของภาครัฐต่อบริบทเศรษฐกิจใหม่ หลังจากประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาดและภาวะชะลอตัวทางการท่องเที่ยวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ภาคธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสถานบริการที่มีบทบาทในเมืองท่องเที่ยวสำคัญ เช่น กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา

นักวิเคราะห์ ประเมินว่า มาตรการนี้อาจส่งผลบวกต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในช่วงวันหยุด และช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเข้าถึงบริการที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ก็เป็นการปรับภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของไทยให้มีความเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวมากขึ้น ภายใต้กรอบความรับผิดชอบต่อสังคม

ทั้งนี้ รัฐบาลยืนยันว่าการดำเนินมาตรการดังกล่าวจะไม่ลดทอนจุดยืนด้านการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในภาพรวม แต่จะเน้นการบริหารจัดการอย่างเหมาะสมกับบริบทของเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์