ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ส.ค.67 ลดต่อเนื่อง เป็นเดือนที่ 6

12 ก.ย. 2567 - 08:57

  • ม.หอการค้าไทย เผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสิงหาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 56.5

  • ชี้ เป็นการปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนนับจาก ส.ค. 66

  • มอง ดัชนีฯ จะฟื้นได้ หากรัฐเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านเงินดิจิทัล

utcc-consumer-confidence-index-august-2024-reduction-SPACEBAR-Hero.jpg

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนสิงหาคม ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 13 เดือนนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา 

อาจารย์ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ชี้เหตุสาเหตุสำคัญที่ทำให้ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลง มาจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังคงชะลอตัวลงและฟื้นตัวช้า เพราะยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนของรัฐบาลใหม่ ประกอบกับราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น และผู้บริโภคยังคงกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในตะวันออกกลางและสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังคงยืดเยื้ออาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงกดดันของการฟื้นตัวล่าช้าของเศรษฐกิจไทย

ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำโดยรวม และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ระดับ 50.2 53.9 และ 65.6 ตามลำดับ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 เมื่อเทียบกับดัชนีในเดือนกรกฎาคม ที่อยู่ในระดับ 51.3 54.9 และ 66.8 ตามลำดับ

utcc-consumer-confidence-index-august-2024-reduction-SPACEBAR-Photo02.jpg

การที่ดัชนียังอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติ (ที่ระดับ 100) แสดงว่า ผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ โอกาสในการหางานทำ และรายได้ในอนาคต เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ ราคาพลังงานและค่าครองชีพที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง ตลอดจนปัญหาเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะชะลอตัวลง ซึ่งจะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยและการจ้างงานมีโอกาสฟื้นตัวได้ช้าในอนาคต ซึ่งจะทำให้รายได้ในอนาคตของผู้บริโภคมีความไม่แน่นอนสูง

“การที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับมาปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ทุกรายการ แสดงว่า ผู้บริโภคเริ่มไม่แน่ใจว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วหรือไม่ แม้ว่าสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันเริ่มมีเสถียรภาพในมุมมองของผู้บริโภค เนื่องจากประชาชนยังไม่เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องได้ในอนาคตอันใกล้ หากรัฐบาลเร่งเบิกจ่ายงบประมาณและกระตุ้นเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทในปลายไตรมาสที่ 3 ภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.6-2.8% ในปีนี้ แต่ถ้าไม่มีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้เพียง 2.4-2.6%”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์