ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เผย ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2566 ลงมาอยู่ที่ 3.0% จากเดิม 3.6% เนื่องจาก GDP ไตรมาส 2 โตต่ำกว่าคาดการส่งออกต่ำกว่าคาด ปัญหาภัยแล้ง และความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณปี 2567 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เศรษฐกิจไทยปีนี้ ยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการเร่งด่วน ลดค่าครองชีพทั้งไฟฟ้า-น้ำมัน และการพักชำระหนี้เกษตรกร จะทำให้ทั่วประเทศประหยัดเงินไปได้เกือบ 50,000 ล้านบาท
- นโยบายลดค่าไฟฟ้า จาก 4.45 บาท/หน่วย เป็น 3.99 บาท/หน่วย ไปจนถึงสิ้นปี ช่วยภาคครัวเรือนประหยัดเงินได้ 30,616 ล้านบาท
- นโยบายลดราคาน้ำมันดีเซล ช่วยประหยัดได้ 14,283 ล้านบาท
- นโยบายพักชำระหนี้เกษตรกรเกือบ 3 ล้านราย เป็นเวลา 1 ปี ทำให้เกษตรกรมีเงินเหลือ 4,935 ล้านบาท
ประชาชน เชื่อมั่น เศรษฐกิจจะดีขึ้น
ขณะที่ผลสำรวจด้านความเชื่อมั่นเศรษฐกิจ พบว่า ประชาชนจำนวนมากมีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น หลังจากที่ได้รัฐบาลใหม่แล้ว แต่ก็ยังมีความกังวลถึงเสถียรภาพทางการเมือง รวมถึงยังมีคำถามว่านโยบายต่างๆ จะช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพได้จริงหรือไม่ โดยเฉพาะบางนโยบายที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก จะมีผลกระทบอย่างไรต่อไป
พร้อมกันนี้ ม.หอการค้าไทย ยังประเมินในเบื้องต้นว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2567 จะเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ โดยจะสามารถขยายตัวได้ 4.5-5% หรือค่ากลางที่ 4.8% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปขยับขึ้นมาอยู่ที่ 2.5-3% โดยคาดหวังว่า นโยบายดิจิตอล 10,000 บาท จะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวเติบโต โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 35 ล้านคน อีกทั้งการบริหารงานของรัฐบาล 4 ปี นับจากนี้ หวังว่าจะทำให้หนี้ครัวเรือนลดลงมาอยู่ในระดับ 80% ของจีดีพี และมาตรการลดค่าใช้จ่ายให้แก่ภาคประชาชนเกษตรกรและธุรกิจ

ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจช่วงที่เหลือ ปี 66
วิเชียร แก้วสมบัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2566 พบมีปัจจัยหนุน เช่น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ตัวเลขล่าสุด 19 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยว มาเลเซีย รองลงมา จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และรัสเซีย ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ การบริโภคภาคเอกชนดีขึ้น การนำเข้าสินค้าปรับตัวลดลงโดยเฉพาะสินค้าเชื้อเพลิง วัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป พร้อมทั้งนโยบายของรัฐบาลเศรษฐา 1 ล่าค่าไฟฟ้า ราคาน้ำมัน พักชำระหนี้
ชี้ปมปัจจัยลบต้องกังวล มีอะไรบ้าง?
- จีดีพีไตรมาส 2 ชะลอตัวอยู่ที่ 0.2% และยังพบว่าสินค้าคงคลังหดตัวเพิ่มขึ้น จากก่อนหน้าที่สินค้าคงคลังขยายตัว
- การส่งออกลดลง มองว่าปี 2566 นี้ ติดลบ 2% โดยส่งออกที่เหลือต้องส่งออกให้ได้ เฉลี่ยเดือนละ 23,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ปัญหาภัยแล้งซึ่งกระทบทุกภาค ปริมาณฝนสะสม 8 เดือน ต่ำกว่าค่าปกติ ซึ่งคาดว่าจักระทบพืชเกษตรหลายรายการ
- ความล่าช้าในการจัดทำงบประมาณปี 2567 จะทำให้การเบิกจ่ายของภาครัฐน้อยลง ซึ่งจะมีผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้และปี 2567
ผลสำรวจ ชี้ ประชาชนกังวลค่าใช้จ่ายประจำวัน
อุมากมล สุนทรสุรัติ ผู้ช่วยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจทัศนะต่อมาตรการ นโยบายลดค่าครองชีพ และประเด็นอื่นๆ ระหว่างวันที่ 19-24 กันยายน 2566 จำนวนตัวอย่าง 1,220 ตัวอย่างทั่วประเทศ ในความกังวลในประเด็นต่าง ๆ ในปัจจุบันและอนาคต พบปัจจุบัน ประชาชนให้ความกังวลมากในเรื่องของราคาอาหาร ของใช้จำเป็น ค่ารถสาธารณะ รองลงมา ภาระหนี้สิน ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
ส่วนใน 6 เดือนข้างหน้า ประชาชนส่วนใหญ่กับมีความกังวลมากในเรื่องของภาวะเศรษฐกิจ และเสถียรภาพทางการเมือง รองลงมาเป็นเรื่องของค่ารถสาธารณะ และราคาน้ำมัน
มองทัศนะต่อมาตรการลดค่าครองชีพ ที่รัฐบาลลดค่าไฟฟ้า น้ำมัน เป็นการช่วยเหลือประชาชนได้มาก นอกจากนี้ มาตรการฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยว และเงินดิจิทัล 10,000 บาท ประชาชนมองว่ากระตุ้นได้ ทำให้ประชาชนมองว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น
