WHA ข่าวดี 3 เด้ง Q3 ฟอร์มเด่น กำไรทะยาน มีปันผล

12 พฤศจิกายน 2566 - 03:00

Wha-land-sale-industrial-estate-dividend-changan-ev-SPACEBAR-Hero.jpg

บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น หรือ WHA Group รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 2,745 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% และกำไรสุทธิ 623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 141% โดยเป็นรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 2,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% และกำไรปกติ 609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2565 (YoY)

ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรทั้งสิ้น 8,434 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2,012 ล้านบาท โดยหากพิจารณาถึงผลประกอบการปกติ บริษัทฯ มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติ 8,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% และกำไรปกติ 1,932 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100% (YoY) 

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน ส่งผลให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือน ในอัตราหุ้นละ 0.0669 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 8 ธันวาคม 2566 ตามลำดับ 

สอดคล้องกับการจัดอันดับเครดิตองค์กรโดยทริสเรทติ้งที่ระดับ ‘A-‘ แนวโน้ม ‘คงที่’ สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และแข็งแกร่ง ของ 4 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทฯ ทั้งในประเทศ และเวียดนาม และแสดงถึงการมีศักยภาพในการบริหารทางการเงินที่ดี ส่งผลให้บริษัทฯมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ รวมถึงความสามารถในการจัดหาแหล่งเงินทุนทั้งจากตลาดทุน และสถาบันการเงิน อาทิ การออกหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน มูลค่ารวม 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) WHA Group เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 เติบโตอย่างโดดเด่น ทั้งนี้เป็นผลจากการขับเคลื่อนของทั้ง 4 กลุ่มธุรกิจ ทั้งโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค (น้ำและไฟฟ้า) และธุรกิจดิจิทัล โซลูชัน ที่เติบโตสอดรับกระแสการย้าย / ขยายฐานการลงทุนและฐานการผลิต ที่ดึงดูดการเข้ามาลงทุนแบบระยะยาว ส่งผลให้ภาคการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศกลับมาคึกคักอีกครั้ง สะท้อนถึงศักยภาพความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจของ WHA Group ภายใต้ภารกิจ Mission To The Sun เพื่อก้าวสู่การเป็น Technology Company ในปี 2567 และด้วยปัจจัยดังกล่าว ส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการของ 4 กลุ่มธุรกิจ

โดยยังตอกย้ำยอดขายที่ดิน 2,750 ไร่ตามเป้า ส่งสัญญาณ Q4 เติบโตต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้การขายที่ดินให้กับบริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด หนึ่งในกลุ่มยานยนต์ชั้นนำ 4 กลุ่มของจีน จำนวน 250 ไร่ และรายได้การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ พร้อมยืนหนึ่งติดอันดับหุ้นยั่งยืน 4 ปีซ้อน ด้วย SET ESG Ratings ประจำปี 2566 สูงสุดที่ระดับ ‘AAA’

นางสาวจรีพร กล่าวว่า สำหรับยอดขายที่ดินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบกระโดดนั้น สอดคล้องกับทิศทางการลงทุนของประเทศไทยที่ได้รับอานิสงส์จากกระแสการย้ายฐานการลงทุนและฐานการผลิต (Relocation) เข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาความตึงเครียดจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และปัญหาภูมิรัฐศาสตร์รอบโลก อาทิ ปัญหาสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน และสงครามอิสราเอล - ฮามาส เป็นต้น ส่งผลให้มีผู้ลงทุนจากต่างชาติ อาทิ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน และสหรัฐฯ ย้ายฐานการลงทุนมาประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น 

ขณะเดียวกัน ความต้องการในการขยายฐานการผลิต (Expansion) ก็มีส่วนช่วยดึงดูดการเข้ามาลงทุนแบบระยะยาว โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ให้กับลูกค้ากว่า 1,493 ไร่ (ไทย 1,252 ไร่ / เวียดนาม 241 ไร่)

ปัจจุบัน WHA Group มีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการในประเทศไทย จำนวน 12 แห่ง ที่พร้อมรองรับความต้องการของนักลงทุน รวมถึงนิคมอุตสาหกรรม แห่งใหม่ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง เฟส 1 (1,100 ไร่) ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยปัจจุบัน มีกลุ่มลูกค้าบางรายได้ลงนาม ในสัญญาซื้อขายที่ดินและ/ หรือทำการจองไปแล้ว อาทิ ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และ ผู้ผลิต/จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เป็นต้น 

โดยบริษัทฯ คาดว่า ภายในสิ้นปี 2566 จะมีลูกค้าลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินและ/ หรือทำการจองเป็นพื้นที่รวมกว่าครึ่งหนึ่งของพื้นที่ขายโครงการเฟส 1 ส่งผลให้ต้องเร่งดำเนินการพัฒนาเฟส 2 (1,100 ไร่) ในเร็วๆ นี้ อีกทั้งยังมีเขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ สระบุรี 2 (2,400 ไร่) ที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 2569 

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ขยายโครงการนิคมอุตสาหกรรมอีก 3 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 เฟส 3 พื้นที่ 630 ไร่ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 พื้นที่ 480 ไร่ และนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 เฟส 3 พื้นที่ 330 ไร่

Wha-land-sale-industrial-estate-dividend-changan-ev-SPACEBAR-Photo01.jpg

และล่าสุดบริษัทฯ ปิดดีลบิ๊กโปรเจค โดยลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินกับ บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซ้าท์อีส เอเชีย จำกัด หนึ่งในกลุ่มยานยนต์ชั้นนำ 4 กลุ่มของจีน จำนวน 250 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 ภายใต้การสนับสนุนจากบีโอไอในการลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยเพื่อสร้างโรงงานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าพวงมาลัยขวา ทั้งประเภท BEV, PHEV, REEV (Range Extended EV) ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์ 100,000 คันต่อปี และยังมีแผนจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งดีลการขายที่ดินครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่มากกว่าการเป็นฐานการผลิต อีกทั้งยังเป็นการต่อยอดสู่การจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนารถยนต์ในระยะต่อไปในอนาคตอีกด้วย

ด้านธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม 9 เดือนแรก 2566 บริษัทฯ มียอดขายที่ดินรวม 415 ไร่ และยอด MOU รวม 430 ไร่ ซึ่งเป็นผลจากการเคลื่อนย้ายฐานทุนและเศรษฐกิจเวียดนามที่มีศักยภาพด้านการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ โดยปัจจุบัน บริษัทฯ มีเขตอุตสาหกรรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 1 แห่ง ได้แก่ เขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ โซน 1-เหงะอาน ดำเนินการก่อสร้างเฟส 1 ขนาด 900 ไร่ โดยได้มีการขายพื้นที่ให้กับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ การแปรรูปอาหาร วัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  ไปแล้วกว่า 77% ของพื้นที่เฟส 1

Wha-land-sale-industrial-estate-dividend-changan-ev-SPACEBAR-Photo02.jpg

และด้วยความต้องการที่ดินอุตสาหกรรมที่สูง บริษัทฯจึงเร่งดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 พื้นที่ขนาด 2,215 ไร่ ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง โดยขณะนี้ มีลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก ได้ลงนามในสัญญาเช่าที่ดินเพื่อพัฒนาโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลากหลายประเภทบนพื้นที่ดินกว่า 300 ไร่เรียบร้อยแล้ว โดยช่วงไตรมาส 3/2556 ที่ผ่านมา มีบริษัทผู้ผลิตเลนส์กล้องและชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องให้แบรนด์มือถือรายใหญ่จากประเทศจีน ได้ลงนามในสัญญาจองพื้นที่ดินราว 260 ไร่ อีกทั้งยังมีลูกค้ากลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อีกหลายรายที่ได้ลงนามในสัญญาจองพื้นที่ดินรวมกว่า 150 ไร่ เพื่อตั้งโรงงานผลิตภายในพื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ 1-เหงะอาน เฟส 2 นี้ด้วยเช่นกัน 

พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนการพัฒนาเขตอุตสาหกรรมอีก 2 แห่ง รวมพื้นที่ 20,950 ไร่ (3,350 เฮกตาร์) ประกอบด้วยเขตอุตสาหกรรม WHA Smart Technology Industrial Zone - Thanh Hoa พื้นที่ 5,320 ไร่ ที่เพิ่งได้รับการอนุมัติ Project Master Plan ให้ดำเนินโครงการ โดยมีกำหนดจะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง ในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 และยังมีเขตอุตสาหกรรม WHA Smart Eco Industrial Zone – Quang Nam พื้นที่ 2,500 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการอนุมัติใบอนุญาตต่าง ๆ ในปี 2569 หรือ 2570 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างหลังจากได้รับการอนุมัติใบอนุญาต

“จากกระแสการย้ายฐานการลงทุนและฐานการผลิต อีกทั้งราคาขายที่ดินที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และความต้องการใช้ที่ดินนิคมอุตสาหกรรมของนักลงทุนชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่มากเป็นประวัติการณ์ บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถเซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินเพิ่มเติมได้ตามเป้าหมายการขายที่ดินจำนวน 2,750 ไร่ ที่ได้ประกาศไว้”

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์