YLG ลุ้นแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยดันทดสอบ $3,000 รับอานิสงส์ดอลลาร์อ่อนค่า

7 มี.ค. 2568 - 09:30

  • วายแอลจีชี้ราคาทองใกล้ 3,000 ดอลลาร์/ออนซ์ แม้มีแรงขายทำกำไรระยะสั้น ขณะที่นักลงทุนยังกังวลนโยบายภาษีที่ไม่แน่นอนของทรัมป์ จึงเลือกถือทองเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย

  • ปัจจัยหนุนทองระยะกลาง-ยาว ยังแกร่งจากเศรษฐกิจสหรัฐและการค้าโลกที่ชะลอตัว ขณะที่ตลาดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดขยับขึ้นมาเป็น 0.75%

  • YLG คงเป้าหมายราคาทองคำที่ 3,000 – 3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แนะนักลงทุนเก็งกำไรระยะสั้น

Ylg-gold-fed-pmi-SPACEBAR-Hero.jpg

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุดยังสามารถเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับสูง ใกล้กลับราคาเป้าหมายที่ YLG ให้ไว้ที่ 3,000 – 3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ขานรับแรงหนุนจากการอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องของดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้ หลังเห็นสัญญาณการอ่อนแอของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM และตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนจาก ADP ที่ร่วงสู่ระดับ 77,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 141,000 ตำแหน่ง จึงต้องจับตาตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐอย่างใกล้ชิด

นอกจากนี้ เมื่อราคาทองคำย่อตัวลงยังเห็นแรงช้อนซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งถูกกระตุ้นจากความกังวลในสงครามการค้าที่อาจเกิดขึ้นไปกระทบเศรษฐกิจโลก ประกอบกับสาเหตุหลักจากความไม่แน่นอนในมาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐ  แม้โดนัลด์ ทรัมป์ จะประกาศเลื่อนการเก็บภาษี 25% กับสินค้าภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรี สหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) ไปจนถึงวันที่ 2 เม.ย. แต่เป็นวันเดียวกับการเริ่มบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทุกประเทศที่เก็บภาษีจากสหรัฐ  ในขณะที่ ทำเนียบขาวประมาณการว่า 62% ของสินค้านำเข้าจากแคนาดาจะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการภาษี เช่นเดียวกับ สินค้าประมาณ 50% จากเม็กซิโก

ทั้งนี้ YLG ยังคงยืนยันเป้าหมายเดิมไว้ที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และหากผ่านไปได้จะไปที่แนวต้านถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นมาสูงมากย่อมเผชิญความเสี่ยงแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาตามรอบ  แต่ยังเชื่อว่าระยะยาวปีนี้ยังเป็นขาขึ้น เพราะนอกจากปัจจัยหนุนที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว แนวโน้มการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้ ตลาดได้เริ่มกลับมาคาดการณ์ว่าจะเฟดปรับลดดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.50-3.75% ณ สิ้นปี ซึ่งเป็นสัดส่วนการปรับลดที่มากกว่าที่เคยส่งสัญญญาณผ่าน Dot Plot ครั้งล่าสุดว่าเฟดอาจปรับลดดอกเบี้ยเพียง 0.50%  จึงนับเป็น Sentiment เชิงบวกในฐานะสินทรัพย์ที่ได้รับอานิสงส์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง

สำหรับการเคลื่อนไหวของทองคำในระยะสั้น YLG มองว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวทรงตัวในระดับสูง อยู่ภายในกรอบ 2,892-2,931 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งหากผ่านขึ้นไปได้ มีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้านย่อยที่ 2,955-2,970 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ก่อนที่จะขึ้นทดสอบเป้าหมายที่ระดับ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ แต่ในทางกลับกัน หากราคาหลุดกรอบลงมาด้านล่าง จะมีแนวรับสำคัญที่ 2,832 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งหากยืนเหนือระดับดังกล่าวได้มองว่าจะเป็นการสะสมแรงซื้อเพื่อปรับตัวขึ้นต่อในระยะกลาง-ระยะยาว

ขณะเดียวกัน ทองคำแท่งในประเทศ 96.5% แนะนำซื้อขายทำกำไรจากการแกว่งตัวในระยะสั้นภายในกรอบ โดยมีกรอบด้านล่างที่ระดับ 46,000-45,800 บาทต่อบาททองคำ และกรอบด้านบนอยู่ที่ระดับ 47,150-47,400 บาทต่อบาททองคำ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์