ราคาทองเสี่ยงลงแรง หลุด 5 หมื่น YLG แนะกลยุทธ์ลงทุน

30 มิ.ย. 2568 - 06:02

  • แนวรับสำคัญที่ต้องจับตา Spot: $3,224 และ $3,121 ทองไทย: 49,750 → 48,200 บาท หากหลุดแนวรับ จะเปิดทางให้ทองลงต่อ

  • Fed อาจเริ่มลดดอกเบี้ย Q4/68 หากดอลลาร์อ่อนช้า ทองไม่พุ่ง ตัวเลขแรงงาน/เงินเฟ้อ คือกุญแจตัดสินใจ

  • ลยุทธ์เทรดทองช่วงตลาดซึม แนะเล่นสั้น รอสะสมเมื่อหลุดต่ำลึก ทองยังแกว่งไซด์เวย์ ต้องบริหารจังหวะให้ดี!

ราคาทองเสี่ยงลงแรง หลุด 5 หมื่น YLG แนะกลยุทธ์ลงทุน

ราคาทองคำยังเผชิญแรงกดดันต่อเนื่อง หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ ดึงเม็ดเงินไหลออกจากทองคำ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนค่าระยะสั้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ โดยคุณวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ YLG ชี้ถึงโอกาสที่ทองคำอาจปรับฐานต่อ หากหลุดแนวรับสำคัญ อาจทำให้ Gold spot แตะ 3,121 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านทองไทยเสี่ยงหลุด 50,000 บาท

ดอลลาร์อ่อน–หุ้นสหรัฐพุ่ง กดดันทองคำร่วงแรง

วรุต ระบุว่า ขณะนี้นักลงทุนทั่วโลกยังโยกเงินเข้าสู่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อน Nasdaq ทะลุจุดสูงสุดใหม่ ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยไม่ดึงดูดเม็ดเงินในช่วงนี้ แม้ค่าเงินดอลลาร์จะมีภาพของการซึมตัวลงก็ตาม

“เงินไหลออกจากทองคำเพราะตลาดเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังอ่อนค่าช้าๆ แต่ทองก็ยังไม่ฟื้นตัว” — วรุตกล่าว

วิเคราะห์ทิศทาง “ค่าเงินดอลลาร์” – ความหวังอยู่ที่ทรัมป์?

แม้ค่าเงินดอลลาร์จะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงในระยะสั้น แต่วรุตชี้ว่า หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สามารถฟื้นความเชื่อมั่นได้ โดยเฉพาะด้านการเจรจาการค้าและไม่ขยายเพดานหนี้ ดอลลาร์มีโอกาสกลับมาแข็งค่าชัดเจน

“ถ้าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้ประโยชน์จากการเจรจาการค้า และสถานะการคลังดีขึ้น ดอลลาร์จะหยุดอ่อนและอาจกลับมาแข็งค่า พร้อมๆ กับตลาดหุ้นที่แข็งแรงขึ้น สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนทั่วโลก” — วรุตกล่าว

อย่างไรก็ตาม หากตลาดยังไม่เชื่อมั่นในนโยบายของทรัมป์ โดยเฉพาะแนวคิด “ลดภาษี-กู้เพิ่ม” อาจเห็นทิศทางตรงข้าม คือการลดการถือครองดอลลาร์ของธนาคารกลางโลก และ เพิ่มทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ (De-dollarization) มากขึ้น

เฟดเดินเกมระวัง – จับตาตัวเลขแรงงานและเงินเฟ้อ

แม้ตลาดจะคาดว่า Fed มีแนวโน้มลดดอกเบี้ย แต่วรุตเตือนว่า เฟดยังคง “ไม่ให้สัญญาณชัดเจน” โดยรอประเมินตัวเลขเงินเฟ้อและตลาดแรงงานอย่างใกล้ชิด หากตัวเลข “เงินเฟ้อ (PCE Core)” และ “ค่าจ้างแรงงาน” ยังอยู่ในระดับสูง อาจทำให้เฟดยืดเวลาการลดดอกเบี้ยออกไป

“ตลาดอาจกำลัง ‘หวังเกินไป’ ถ้าเศรษฐกิจยังร้อนแรง เฟดจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย และนั่นจะเป็นแรงกดดันต่อทองคำต่อไปอีกระยะ” — วรุตกล่าว

กลยุทธ์การลงทุนทองคำ: เก็บสั้น-แบ่งขายเร็ว

วรุตให้คำแนะนำว่า นักลงทุนควรเน้นเก็งกำไรสั้น ในช่วงที่ราคาทองยังแกว่งในทิศทาง “ไซด์เวย์ดาวน์” โดยเน้นเข้าซื้อเมื่อราคาลงชนแนวรับ และทยอยขายเมื่อราคาเด้งกลับขึ้นมาทดสอบแนวต้านสำคัญ

“ตอนนี้ราคาทองยังไม่มีแรงหนุนพื้นฐานที่ชัดเจน จึงควรเล่นสั้น ซื้อที่แนวรับ และทยอยแบ่งขายเมื่อรีบาวด์ เพื่อบริหารความเสี่ยง” — วรุตกล่าว

 ทองไทยเสี่ยงหลุด 50,000 บาท

วรุตเปิดเผยว่า ทองคำไทยได้รับผลกระทบทั้งจากการอ่อนค่าของโกลด์สปอตและการแข็งค่าของเงินบาท ทำให้ทองคำแท่ง 96.5% ของไทยปรับตัวลงค่อนข้างแรง โดยใน 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทองไทยหลุดลงไปประมาณ 1,700 บาทต่อบาททองถือว่าค่อนข้างเยอะพอสมควร และมองว่าทองไทยอาจเสี่ยงหลุด 50,000 บาท/บาททองคำ

อย่างไรก็ตามหากพิจารณาตามแนวรับแนวต้านสำคัญ สำหรับทองไทยดังนี้ แนวต้าน 51,100-51,500 บาทต่อบาททอง แนวรับแรก 50,150 บาทต่อบาททอง (เทียบเท่า 3,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ด้านราคาทองโกลด์สปอต 3,224 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นแนวรับสำคัญ หากหลุดจะเปิดทางให้ทองอ่อนต่อถึง $3,121 หรือคิดเป็นทองไทยราว 48,200 บาทต่อบาททองคำ จากค่าเงินบาทที่ยังแข็งค่าอยู่

"ราคาทองคำอยู่ในช่วงพักฐานและมีแนวโน้มซึมตัวลงในระยะสั้น จากปัจจัยการโยกเงินไปสินทรัพย์เสี่ยงและความคืบหน้าในการเจรจาการค้า นักลงทุนควรใช้กลยุทธ์ระมัดระวัง โดยเน้นการซื้อเล่นสั้นที่แนวรับสำคัญและทยอยขายเมื่อราคาฟื้นตัว สำหรับนักลงทุนระยะยาวสามารถรอโอกาสสะสมที่ระดับราคาที่เหมาะสม" — วรุตกล่าวสรุป

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์