ในโลกทุกวันนี้ ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของชายหญิงอีกต่อไป เพราะหัวใจไม่ได้มีกรอบจำกัดแค่เพศ ความรักคือพลังที่หลากหลายและเป็นอิสระอย่างแท้จริง และสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือ ศาสนาและความเชื่อบางอย่าง โดยเฉพาะ “ศาสนาฮินดู” กลับเปิดกว้างและโอบรับความหลากหลายทางเพศมากกว่าที่ใครหลายคนคิดเสียอีก
ในตำนานฮินดู เทพเจ้าหลายองค์ไม่ได้แค่เป็นสัญลักษณ์ของพลัง หรือการปกป้องเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของ “การเข้าใจตัวตน” และ “การยอมรับ” ไม่ว่าใครจะเป็นใคร มีเพศอะไร หรืออยู่ในบทบาทแบบไหน ก็สามารถขอพรได้อย่างเท่าเทียม เพราะแก่นของศาสนาฮินดูคือ “ธรรมะ” ที่ยึดเมตตา ความยุติธรรม และความรักที่ไม่มีเงื่อนไข ทุกคนล้วนมีสิทธิ์ในการได้รับความรักดี ๆ และการยอมรับจากสังคมโดยไม่ต้องหลบซ่อน
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยาก “มูเพื่อรัก” หรืออยากได้แรงหนุนให้เข้าใจตัวเองชัดเจนขึ้น เทพเจ้าสายมูในศาสนาฮินดูหลายองค์พร้อมจะโอบรับคุณด้วยพลังศรัทธา และนี่คือลิสต์ที่ควรรู้จัก
- อัรธานารีศวร – ศิวะ+ปารวตี = เพศไหนก็ใช่คุณ
เทพเจ้าผู้รวมสองเพศในองค์เดียว (ครึ่งชายครึ่งหญิง) สื่อถึงความสมดุลของพลังหยิน-หยาง หรือพลังชาย-หญิงในร่างเดียว เหมาะมากสำหรับคนข้ามเพศ, non-binary, หรือใครที่กำลังหาความเข้าใจในตัวเอง บูชาเพื่อเสริมพลังใจ ให้รักตัวเอง เข้าใจตัวเอง และดึงดูดรักแท้ที่เข้าใจตัวตนเรา
- พระกฤษณะ – รักคืออิสระ ไม่ต้องแคร์เพศ
มีตำนานที่พระองค์แปลงเพศเพื่อแต่งงานกับชาย หรือปลอมเป็นหญิงเพื่อร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ พระกฤษณะเป็นเทพที่มีเสน่ห์ เป็นที่รักของทุกเพศทุกวัย คนที่มีรักที่ไม่เป็นไปตามกรอบ หรือกำลังตามหารักที่ไม่ต้องแคร์ “คำนิยาม” มักบูชาท่านเพื่อขอความรักที่แท้จริง
- บาฮูชารา มาตา– เทพีของชาวฮิจรา
เทพีที่กลุ่มฮิจรา (เพศที่สามในอินเดีย) บูชาอย่างลึกซึ้งเป็นสัญลักษณ์ของพลังเพศที่ไร้กรอบ และการได้รับการยอมรับ ขอบารมีให้ใจแข็งแรง เดินในเส้นทางตัวเองอย่างมั่นใจ และพบเจอสังคมที่เข้าใจคุณจริง ๆ
แม้ประเทศไทยจะไม่มีพิธีเฉพาะเหมือนในอินเดีย ก็สามารถบูชาได้ตามศาลพระศิวะ ศาลพระแม่อุมา หรือวัดที่มีพระกฤษณะ เช่น วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า หรือวัดแขก (สีลม)ได้ ขอแค่มี “ศรัทธาและใจที่บริสุทธิ์” ไม่ว่าเพศไหน ก็ย่อมมีสิทธิ์ได้รับความรักดี ๆ เช่นกัน
การบูชาเทพฮินดูสายมูเรื่องรักและความเข้าใจตัวตนสำหรับ LGBTQ+ นั้นสามารถทำได้ที่บ้านหรือที่ศาลที่คุณสะดวก โดยใช้ของง่าย ๆ เช่น ดอกไม้สด ดอกกุหลาบสีชมพูหรือแดงเพื่อความรัก ดอกดาวเรืองเพื่อความมั่นคง ผลไม้รสไม่เปรี้ยวจัด น้ำสะอาด เทียนหรือโคมไฟ และภาพหรือรูปปั้นของเทพที่คุณบูชา
คำอธิษฐานไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาสันสกฤต ขอเพียงพูดจากใจของคุณด้วยถ้อยคำที่เข้าใจเอง เช่น
“ขอให้ข้าพเจ้าเข้าใจและยอมรับตัวเอง ดึงดูดความรักที่แท้จริง คนที่เห็นค่าในตัวตนข้าพเจ้า และได้รับการยอมรับจากสังคม”
หรือหากอยากได้คาถาเบื้องต้นก็มีให้ใช้ เช่น
“โอม นมัส ศิวายะ” สำหรับอัรธานารีศวร
“โอม ศรี กฤษณายะ นะมะฮา” สำหรับพระกฤษณะ
“โอม บาฮูชารา มาตา นะมะฮา” สำหรับ บาฮูชารา มาตา
เคล็ดลับอีกเล็กน้อยคือ การเลือกบูชาในวันจันทร์ (พลังของพระศิวะ), วันศุกร์ (พลังแห่งความรัก), หรือวันพฤหัสบดี (วันแห่งการขอพร) และเมื่อบูชาเสร็จ ลองนั่งสมาธิสั้น ๆ สัก 3–5 นาที เพื่อสงบใจ เชื่อมโยงสิ่งที่ขอกับจิตใจของตัวเอง และอย่าลืมรักตัวเองให้ได้ก่อนจะขอความรักจากคนอื่น
ท้ายที่สุด ความรักไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายยาว ๆ และไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใคร มูเพื่อรักก็เหมือนมูเพื่อศรัทธา ขอแค่ศรัทธานั้นออกมาจากใจของคุณเอง และไม่ว่าเพศไหนก็มีสิทธิ์ในความรักที่แท้จริงอย่างเท่าเทียมเสมอ
