Vibe Review: Ballerina การต่อสู้ของหญิงสาวกับแนวคิดชายเป็นใหญ่ และความแตกต่างที่ไม่อาจยอมรับได้

7 ต.ค. 2566 - 13:49

  • รีวิว ‘Ballerina ร่ายระบำฆ่า’ ภาพยนตร์ออริจินัลบนสตรีมมิงแพลตฟอร์ม Netflix ที่บอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของหญิงสาวกับแนวคิดชายเป็นใหญ่ และความแตกต่างบางอย่างที่ 'ไม่' อาจยอมรับได้

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Hero.jpg
Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo09.jpg
Photo: Netflixkr

‘Ballerina ร่ายระบำฆ่า’ ภาพยนตร์ออริจินัลบนสตรีมมิงแพลตฟอร์ม Netflix แนวแอ็คชั่นดราม่าสุดโหด ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง จอนจงซอ (Jeon Jong Seo) ที่เคยฝากผลงานไว้ในภาพยนตร์รางวัลอย่าง Burning และ คิมจีฮุน (Kim Ji Hoon) นักแสดงหนุ่มหล่อผมยาวสุดเซอร์ที่มีผลงานในวงการให้รับชมกันอยู่เสมอ โดยในภาพยนตร์เรื่องนี้ถือเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของ 2 นักแสดง หลังจากการทำงานร่วมกันในออริจินัลซีรีส์ Money Heist: Korea – Joint Economic Area

ภาพยนตร์ Ballerina บอกเล่าเรื่องราวของ อ๊กจู (จอนจงซอ) อดีตบอดี้การ์ดของบริษัทต่างประเทศแห่งหนึ่งที่มีทักษะการต่อสู้รอบด้าน เธอมีเพื่อนสนิท มินฮี นักเต้นบัลเลต์สาวที่ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองและทิ้งจดหมายสั่งเสียเอาไว้พร้อมความปรารถนาสุดท้าย ‘แก้แค้นให้ฉันด้วย’ แม้จะไม่รู้ถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยสักนิด แต่การสูญเสียเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวไปอย่างกะทันหันก็ทำให้อ๊กจูต้องตั้งสติและรีบสืบหาต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้น

แสงของชีวิต

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo08.jpg
Photo: Netflixkr

“ฉันคิดมาตลอดว่างานที่ทำอยู่ทำให้ชีวิตฉันแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา รู้สึกเหมือนไม่ได้มีชีวิตอยู่ แต่กำลังตายไปอย่างช้าๆ มากกว่า แต่ตั้งแต่วันนั้นที่ได้เจอเธอ ฉันเพิ่งเคยรู้สึกเป็นครั้งแรกว่าการมีชีวิตอยู่มันสนุกแบบนี้นี่เอง”

อ๊กจูเอื้อนเอ่ยความรู้สึกในใจก่อนจะพลิกตัวมองใบหน้าของมินฮีที่กำลังเอนกายหลับตาฟังเสียงของเธออยู่ข้างๆ หญิงสาวนึกย้อนถึงช่วงเวลาต่างๆ ในชีวิตที่ผ่านมาพลางนึกขอบคุณในใจที่ชีวิตนี้เธอได้พบกับมินฮี

อ๊กจูพบมินฮีครั้งแรกในวันเกิดปีหนึ่งของเธอ ขณะกำลังตั้งใจเดินเข้ามาซื้อเค้กให้ตัวเอง แต่ก็ต้องพบว่าร้านกำลังปิดอย่างน่าเสียดาย ถึงอย่างนั้นพนักงานสาวภายในร้านก็ใจดีให้เธอเข้ามาเลือกซื้อ แม้จะขอให้รีบเลือกอย่างรวดเร็วก็ตาม  พวกเขาคุยกันสักครู่ก่อนที่มินฮีจะโพล่งประโยคแสดงความสนิทสนมออกไปด้วยความตกใจเมื่อรู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของอ๊กจู

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo05.jpg
Photo: Netflixkr

“เอ๊ะ! ไม่จริงน่า วันนี้วันเกิดเธอหรอ?! จางอ๊กจู เธอจำฉันไม่ได้หรอ ฉันชเวมินฮี ม.สอง ห้องเจ็ด โรงเรียนมัธยมต้นเยฮวาไง”

มินฮีกล่าว

ทั้งสองใช้เวลาพูดคุยและสนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว ความสดใสของมินฮีถือเป็นเรื่องราวแปลกใหม่สำหรับอ๊กจู ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้ผลักไสมันออกไปกลับปรารถนาและอยากจะมีมันด้วยซ้ำ ทั้งสองมักออกไปเที่ยวเล่นด้วยกันอยู่เสมอ มินฮีทำให้อ๊กจูได้ค้นพบตัวตนของตัวเองในมิติใหม่ๆ ทั้งด้านของความขี้เล่น ความสนุกสนาน และการอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เธอเป็นเหมือนแสงอาทิตย์อบอุ่นในชีวิตที่คอยโอบกอดและให้กำลังใจ นั่นจึงทำให้เมื่ออ๊กจูรู้ว่ามินฮีตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงพร้อมข้อความสั่งเสียสุดท้ายที่ขอให้แก้แค้นให้ ฤดูหนาวที่เคยถูกขับไล่ด้วยแสงแดดอ่อนของพระอาทิตย์ก็กลับมาเยือนอีกครั้ง ความเย็นเยือกพัดเข้ามาปกคลุมจิตใจเป็นสัญญาณบอกให้เธอต้องเปิดฉากล่า ลากตัวคนที่ทำให้มินฮีตัดสินใจเช่นนี้มาลงโทษให้ได้

ความแตกต่างที่ ‘ไม่อาจยอมรับได้’

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: Netflixkr

แม้ในยุค 2023 เราต่างยอมรับว่าความแตกต่างเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ในสังคม แต่ไม่ใช่กับ ชเวโปร นักเลงในกลุ่มค้ายา ค้ามนุษย์ และเจ้าของธุรกิจยาเสียสาวที่มีรสนิยมทางเพศแบบชอบใช้ความรุนแรง

การมีรสนิยมทางเพศเฉพาะตัวไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร บ้างอาจชอบการสวมบทบาทขณะทำกิจกรรม บ้างอาจมีความชื่นชอบตามตำแหน่งบนร่างกายที่พิเศษ สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจหรือน่าอาย แต่สิ่งที่ตัวละครชเวโปรทำและยอมรับไม่ได้ในที่นี้ คือการนำรสนิยมส่วนตัวเหล่านั้นมา ‘ละเมิด’ สิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น เขาหยอดยาเสียสาวให้ผู้หญิงมากมาย ทำการล่วงละเมิด และบันทึกวิดีโอเก็บไว้อย่างไม่ได้รับความเห็นชอบจากคู่นอน อีกทั้งยังใช้คลิปเหล่านั้นมาข่มขู่และกักขังเพื่อให้คนเหล่านั้นทำตามสิ่งที่เขาต้องการ ส่วนนี้ต่างหากที่ยอมรับไม่ได้ และยังทำให้ตัวละครมินฮีตัดสินใจจบชีวิตตัวเองลงเพราะกลัวการเสื่อมเสียชื่อเสียงในฐานะนักบัลเล่ต์อีกด้วย

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo07.jpg
Photo: Netflixkr

หลังจากพยายามตามสืบจากชื่อ ID ที่ถูกเขียนทิ้งไว้พร้อมคำขอให้แก้แค้น อ๊กจูก็ได้พบกับชเวโปรบนเพจขายอาหารเพจหนึ่งที่ถูกเปิดไว้เพื่อบังหน้าธุรกิจยาเสพติด เธอพยายามติดต่อและตามสืบเรื่องราวของเขาจนได้พบกันที ‘Heaven’ สถานบันเทิงแห่งหนึ่งที่เขาชอบไป อู๊กจูแต่งตัวสะสวยคล้ายคลึงกับมินจูขณะมีชีวิตอยู่ เธอสวมกางเกงยีนส์สกินนีรัดรูปและเสื้อคอร์เซ็ตสีชมพูที่เผยให้เนินอกและเอวคอด เธอพยายามเดินหาชเวโปรไปทั่ว และในขณะนั้นเองเขาก็เดินเข้ามาและทำท่าทีเหมือนทักคนผิด เธอจึงขอเลี้ยงเครื่องดื่มเขา ก่อนจะไปโรงแรมด้วยกัน

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: Netflixkr

เมื่อถึงโรงแรม ชเวโปรทำทุกอย่างเป็นขั้นตอนอย่างคุ้นเคย เขาเดินเข้าไปคุยกับพนักงานต้อนรับ ฝากรถ ระบุห้อง ชมวิว และชวนดื่มแอลกอฮอล์พร้อมหยอดยา แต่ขณะที่กำลังจะลงมือก่อเหตุอีกครั้ง อ๊กจูก็ตื่นขึ้นมาและแทงเข้าที่มือของเขา ก่อนที่ทั้งสองจะต่อสู้กันอย่างดุเดือด เธอปาดมียังคล่องแคล่วไปบริเวณข้อมือ หน้าท้อง และขึ้นคร่อมบนร่างสูงใหญ่พร้อมปักมีดลงไปบนกระพุ้งแก้มของเขา และในจังหวะที่เธอกำลังจะปักมีดอีกครั้งเพื่อปลิดชีวิตเขา ประตูห้องก็ถูกเปิดออกด้วยพนักงานต้อนรับชายที่ในมือกำลังถือปืน เธอรีบหนีออกมาจากห้องและพบเข้ากับนักเรียนสาวปริศนาที่กำลังเผชิญชะตากรรมไม่ต่างจากมินฮี

เพราะคิดว่า ‘ทำได้’  ไม่ได้หมายความว่า ‘ควรทำ’

“ไม่ใช่ที่อาเรีย ไป Heaven กันดีกว่า สาวๆ ที่นั่นง่ายกว่า”

คำพูดของชเวโปรขณะคุยโทรศัพท์และนัดกับเพื่อนอย่างอารมณ์ดีถึงแผนเที่ยวในคืนวันศุกร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แสดงให้เห็นถึงชุดความคิดที่ลดทอนคุณค่าของผู้หญิงลง

ย้อนกลับไปสมัยโชซอนโบราณ เดิมทีพื้นที่นี้มีความเชื่อแบบลัทธิขงจื้อที่ว่าด้วยลำดับชั้นการปกครอง ค่านิยม แนวคิดต่างๆ ที่หล่อหลอมให้เกิดชุดความคิด ‘ชายเป็นใหญ่’ ที่ผู้หญิงมีหน้าที่เพียงเป็นภรรยาผู้คอยให้กำเนิดบุตร ในขณะที่ผู้ชายจะออกไปทำงานนอกบ้านและมีหน้ามีตาในสังคม ทุกการตัดสินใจจะถูกจัดการโดยผู้ชาย ดังนั้นความรู้สึกว่าสามารถควบคุมและครอบครองสรรพสิ่งต่างๆ รวมถึงความเป็นอยู่ของชีวิตของบุคคลอื่น โดยเฉพาะผู้หญิงได้ จึงเป็นชุดความชื่อที่ฝังลึกมาเนิ่นนานยากเกินกว่าจะสลัดหลุด

Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: Netflixkr
Ballerina-The-Difference-That-Not-Acceptable-SPACEBAR-Photo06.jpg
Photo: Netflixkr

หลังจาพบกับนักเรียนปริศนา อ๊กจูก็ได้รู้ว่ามีเหยื่ออีกจำนวนไม่น้อยถูกกักขังและแบล็กเมล์เช่นเดียวกับมินฮี พวกเธอถูกเรียกว่า ‘ทาส’ โดยหญิงสาวเหล่านี้จะถูกวางยา ข่มขืน และบังคับให้ทำตามคำสั่งระหว่างรอถูกส่งต่อไปยังขบวนการค้ามนุษย์ เมื่อได้รู้อย่างนั้น อ๊กจูจึงวางแผนในการทำลายล้างกระบวนการนี้ให้สิ้นซาก เธอซื้ออาวุธ และเดินหน้าเข้าจัดการแก๊งค้ายาอย่างอุกอาจ ก่อนจะจับตัวชเวโปรได้และนำขึ้นรถไปที่ทะเล ที่ๆ มินฮีชอบมากที่สุด

“เธอกำลังทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่รู้ตัวไหม? มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องลงมือทำถึงขนาดนี้”

ชเวโปรสบถอย่างหัวเสีย

“นั่นสินะ แกคงไม่คิดเลยสินะว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดนี้ เพราะแกคิดว่าพวกเราง่าย”

อ๊กจูโต้ตอบอย่างเยือกเย็น

บางครั้งเราต่างตัดสินใจทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีลงไปเพียงเพราะเราคิดว่าเราทำได้ ชเวโปรคิดว่าเขามีสิทธิในการละเมิดและควบคุมชีวิตผู้อื่น ในขณะที่อ๊กจูเองก็กำลังละเมิดและพรากชีวิตไปจากผู้อื่นเช่นกัน ตัวละครทั้งสองต่างมืดบอดและหลงทางจากความคิดที่ว่า ‘เพราะทำได้’ ปราศจากซึ่งศีลธรรม จริยธรรม และมนุษยธรรม แม้อาจมีข้อโต้แย้งบางอย่างจากปัจจัยภายนอกที่บีบให้เราต้องทำตาม แต่แท้จริงแล้วเราเป็นเพียงแค่ ‘นักบัลเล่ต์’ ที่กำลังเต้นไปตามเส้นเรื่องที่ถูกกำหนด หรือเราสามารถเขียนบทขึ้นมาใหม่และตัดสินใจให้ดีกว่าเดิมได้กันแน่?

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์