ความเหมือนคนจนน่าขวัญผวาของทหารดินเผาสุสานจิ๋นซี

22 ธ.ค. 2565 - 08:17

  • เร็วนี้มีการแชร์คลิปศีรษะของทหารดินเผาในสุสานจิ๋นซีในโซเชียลมีเดียของจีน

  • มันเป็นหุ่นทหารอายุกว่า 2,200 ปีเพียงไม่กี่ชิ้นที่รักษาสีสันเอาไว้ได้ ทำให้ชาวจีนพากันพูดถึงกันในวงกว้าง

Culture-the-true-color-of-terracotta-army-SPACEBAR-Thumbnail
ในวันที่ 23 มีนาคม 1974 (พ.ศ. 2517) หยางจื้อฟา ชาวนาอายุ 41 ปี ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านซีหยาง ของเทศมณฑลหลินถง ห่างจากเมืองซีอานไปทางตะวันออก 35 กิโลเมตร ตัดสินใจที่จะขุดบ่อน้ำเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำแล้งในแถบนั้น เพราะปีนั้นมณฑลส่านซีทั้งหมดประสบกับภาวะแล้งจัด 
 
เขาลงแรงร่วมกับพี่น้องทั้ง 5 ของเขา โดยเลือกพื้นที่ป่าเล็กๆ ทางตอนใต้ของหมู่บ้าน อีก 5 วันต่อมา พวกเขาช่วยกันขุดบ่อน้ำจนมีความลึกถึง 15 เมตร จนวันที่ 29 มีนาคม ชาวบ้านยังร่วมกันขุดดินให้ลึกต่อไป ในตอนเที่ยงชาวบ้านพากันพักผ่อน มีแต่ หยางจื้อฟา ขุดบ่อน้ำในหลุมคนเดียว ขณะที่เขาตะกุยดินลึกลงไปอีกเขาก็ค้นพบเครื่องปั้นดินเผาจำนวนมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา เพระาก่อนหน้านี้มีการพบเศษเครื่องปั้นดินเผาเป็นระยะ ดังนั้นเขาจึงนำเครื่องปั้นดินเผาออกไปและขุดบ่อน้ำต่อไป 
 
จนกระทั่งเขาขุดพบกับวัตถุแข็งๆ อย่างหนึ่ง เมื่อเกลี่ยดินออก ปรากฎว่ามันเป็นศีรษะของมนุษย์ที่ดูเหมือนจริงมาก มากจนทำให้น่ากลัวว่าน่าจะเป็นคนจริงๆ ที่ถูกฝังเอาไว้หรือเปล่า แต่เมื่อเขาขุดลึกลงไป ก็พบว่าแท้จริงแล้วมันคือหุ่นดินเหนียวรูปร่างคล้ายมนุษย์ มีความสูงและขนาดพอๆ กับคนจริงๆ และหุ่นดินเหนียวนี้ทำขึ้นอย่างประณีตจนเหมือนจริง  
 
หยางจื้อฝาจึงเรียกชาวบ้านมาดูก็ช่วยกันยกหุ่นดินเผาขึ้นมา ในตอนแรกหุ่นดินเผายังคงมีสีสัน แต่หลังจากยกขึ้นมา สีของหุ่นดินเผาก็ค่อยๆ หายไป การที่สีสันหายไปต่อหน้าต่อตา อีกทั้งความที่มันหมือนจริงเอามากๆ ทำให้ชาวบ้านพากันหวาดกลัว และบางคนถึงกับคิดว่ามันมีผีสิง จึงพากันหนีกันไปทีละคนสองคน 
 
แต่ หยางจื้อฝา ไม่คิดอย่างนั้น เขานำชิ้นส่วนของหุ่นดินเผาที่ตอนนี้กลายเป็น “มนุษย์กระเบื้องสีดำ” ไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่เทศมณฑล เมื่อเจ้าหน้าที่ตรงจสอบแล้วก็เชื่อมั่นว่านี่คือศิลปวัตถุโบราณ จึงมอบเงินสินน้ำใจให้ หยางจื้อฟา ไป 30 หยวน ซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ในยุคนั้น  
 
แต่ หยางจื้อฟา ในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาค้นพบมีคุณค่าที่ไม่อาจประเมินได้ เพราะมันคือการค้นพบหุ่นกองทัพของสุสานฉินซื่อหวง (จิ๋นซีฮ่องเต้) จักรพรรดิองค์แรกของจีน และมันยังเป็นการค้นพบทางโบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในศตวรรษที่ 20 
 
กลับมาที่เหตุการณ์การค้นพบครั้งนั้น ผู้คนในยุคหลังเมื่อได้ยินเรื่องเล่าการค้นพบหุ่นทหารสุสานจิ๋นซีต่างก็รู้สึกว่าเรื่องราวนี้ถูกใส่สีสันจนเกินความจริงหรือเปล่า? เพราะมีอย่างที่ไหนคนเราจะตกใจจนแทบสิ้นสติเมื่อเจอเข้ากับหุ่นทหารดินเผา? บางคนถึงกับคิดว่าชาวนาเหล่านี้คงไร้การศึกษาหรือว่าเป็นกบในกะลา ไม่เคยพบเจออะไรแปลกใหม่ในชีวิต พอขุดพบหุ่นทหารจึงตกใจเหมือนเจอผี  
 
จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ มีสมาชิกเครือข่ายเวยปั๋วคนหนึ่งที่มีชื่อบัญชีว่า @玄青古美術 แชร์คลิปศีรษะของทหารดินเผาในสุสานจิ๋นซี ศีรษะของทหารดินเผาชิ่้นนี้เพิ่งถูกขุดขึ้นมาใหม่ๆ ยังคงมีสีสันที่สดใสจนน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าจะผ่านกาลเวลามานานกว่า 2,200 ปีแล้วก็ตาม
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/30T2LaMSjzQoQf5aDdAA87/a8db6775d0ff13c20e404f880f8f4faa/Culture-the-true-color-of-terracotta-army-SPACEBAR-Photo01
Photo: @玄青古美術/Weibo
แต่สิ่งที่ทำให้ชาวโซเชียลจีนต้องทึ่งก็คือความเหมือนจริงของหุ่นตัวนี้ เพราะคนส่วนใหญ่มักเห็นแต่หุ่นในสภาพที่สีสันหลุดลอกไปหมดแล้วเหลือแต่ผิวสีดำเทา ศีรษะของหุ่นตัวนี้เมื่อเต็มไปด้วยสีสันแล้ว มันเหมือนใบหน้าคนจริงๆ ทั้งการให้สี เส้นผม โดยเฉพาะดวงตาที่เป็น “หน้าต่างของวิญญาณ” ดูสมจริงจนบางคนบอกว่าเมื่อคลิปซูมเข้าไปใกล้ๆ กลัวว่าศีรษะนี้จะกระพริบตาขึ้นมา 
 
ณ เวลาที่เขียนบทความนี้ มีคนดูคลิปไปแล้ว 6.85 ล้านวิว มีความเห็นกว่า 5,000 ความเห็น และกดไลค์ 1.26 แสนครั้ง กลายเป็นไวรัลครั้งสำคัญในวงการคนชอบศิลปะโบราณของจีน 
 
หลายความเห็นออกไปในทำนองที่ว่าพวกเขาไม่เคยเห็นหุ่นทหารดินเผามีสีสันมาก่อน บางความเห็นแสดงอาการตาสว่างในทันทีว่าเพราะมันหมือนจริงอย่างนี้เอง พวกชาวนาที่ค้นพบพวกมันในตอนแรกถึงได้ตกใจกลัวจนแทบสิ้นสติ เพราะตอนพบใหม่ๆ มันคงมีสีแบบจัดเต็มแบบนี้และสภาพคงเหมือนศีรษะคนเป็นๆ มากกว่าเครื่องปั้นดินเผา 
  
คลิปนี้จึงเป็นการเปิดหูเปิดตาครั้งสำคัญให้กับคนจีน แต่จริงๆ แล้วคนจีนล้วนทราบดีว่าหุ่นทหารดินเผาสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้มีสีสันตั้งแต่ตอนแรก แต่เมื่อถูกขุดออกมาสัมผัสกับอากาศ มันจะเกิดปฏิกริยาออกซิไดซ์ทำให้สีสันหายไปอย่างรวดเร็วเหลือแต่ผิวดินเผาที่ไร้ชีวิตชีวา 
 
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมกองทัพหุ่นทหารดินเผา หรือที่คนจีนเรียกกันโดยทั่วไปว่า "ปิงหมาหย่ง" จึงไม่ถูกขุดขึ้นมาจนหมดทั้งกองทัพ (ปิงหมา/兵马 หมายถึงกองทัพ คำว่า หย่ง/俑 หมายถึงหุ่นกงเต๊กที่บรรจุเอาไว้ในสุสานให้วิญญาณคนตายเอาไว้ใช้งาน) เพราะเทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้าพอที่จะรักษษสีสันเอาไว้ได้นั่นเอง
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/45tRLJZgPrpLTL2yvFeE2w/34446a0de107a23b815568d2967d3223/Culture-the-true-color-of-terracotta-army-SPACEBAR-Photo02
Photo: @玄青古美術/Weibo
คนจีนและผู้สนใจประวัติศาสตร์จีนรู้ดีว่ามันเป็นแบบนี้ แต่น้อยคนนักที่จะเห็นกับตาว่ามันมีสีสันเหมือนจริงแค่ไหน หุ่นบางตัวยังสามารถรักษาสีสันเอาไว้ได้บ้างด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ แต่สีที่เหลือก็ยังไม่เหมือนคนเท่ากับในคลิปนี้ นอกจากนี้ การตั้งสมมติฐานสีสันของหุ่นทหารดินเผาที่ผ่านๆ มายังดูไม่ค่อยจะสมจริงนัก เป็นแค่สีที่กำหนดไว้คร่าวๆ ตามหน้าหนังสือหรือกราฟฟิกอินโฟ ยิ่งทำให้ดูหลอกตา  
 
และเทคนิคการใช้วัตถุดิบผลิตสีและการลงสีในสมัยราชวงศ์ฉินยังมีความซับซ้อนอย่างมาก เอาแค่วิธีการลงสีนั้น โจวเถี่ย ผู้เชี่ยวชาญด้านการการอนุรักษ์หุ่นทหารดินเผา กล่าวว่า ช่างฝีมือในสมัยนั้นทา “รักดิบ” (ยางไม้สีดำ) หนึ่งชั้นบนนักรบดินเผาที่เผาแล้ว แล้วจึงทาสีบนรักดิบ เพราะรักดิบจะช่วยเป็นรองพื้นทำให้สีติดได้ดีกว่าพื้นผิวดินเผา 
 
แต่ยางรักมีราคาแพงมากและหายากมาก การใช้ยางรักกับกองทัพหุ่นดินเผานับพันนับหมื่นตัวแสดงถึงการใช้งบประมาณมหาศาลและการช่างที่อุตสาหะเพียงใด 
 
อย่างไรก็ตาม รักดิบจะถูกออกซิไดซ์ได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ และจะแห้งและหลุดออกเร็วมาก 
 
ปัจจุบันมีการขุดพบนักรบและม้าดินเผามากกว่า 6,000 ตัว แต่มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่สามารถรักษาสีเดิมไว้ได้ เป้าหมายของนักโบราณคดีจึงไม่ใช่การค้นพบกองทหารเพิ่มเติม เพราะรู้แล้วว่าพวกมันอยู่ที่ไหนบ้างและน่าจะมีจำนวนเท่าไรบ้าง แต่เป้าหมายก็คือจะรักษาสีสันให้คงเดิมเอาไว้อย่างไร

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์