แม้จะจบไปได้สักพักแล้วสำหรับงานเทศกาลดนตรี ร็อกเมาท์เท่น 2023 เทศกาลที่รวบรวมวงดนตรีร็อกชั้นนำระดับประเทศมาร่วมเดินทางสร้างความสุขไปกับแฟนเพลงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งในงานครั้งนี้นอกจากโชว์สนุกๆ ที่ทุกคนได้ดูกันแล้ว สิ่งที่แฟนเพลงหลายคนประทับใจเอามากๆ ก็คือ เวทีคอนเสิร์ตที่ในปีนี้มีการออกแบบให้ดูเข้ากับธีมของงานอย่าง การออกแบบเป็นเวทีเรือลำใหญ่ที่เนรมิตทั้งแสงสีและเสียงแบบจัดเต็ม

ฉะนั้นแล้วไหนๆ ที่เวทีออกแบบสวยงามขนาดนี้ SPACEBAR จึงมีโอกาสได้พบกับผู้จัดงานอย่าง คุณฝากฝัน ศรีสันติสุข ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส-ผลิตและสร้างสรรค์งาน Showbiz แบรนด์ครีเอทีฟ GFest ภายใต้หน่วยงาน GMM SHOW บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นและความตั้งใจที่ต้องการจะถ่ายทอดความยิ่งใหญ่อลังการของร็อกเมาท์เท่น 2023 ให้ทุกคนได้รับรู้ ส่วนเรื่องราวการเกิดขึ้นของเวทีนี้เป็นเช่นไร เชิญมาฟังคุณน้ำเล่าไปพร้อมๆ กันเลยครับ

ทำไมถึงเป็นเวทีเรือ
เราอยากทำให้เป็นเทศกาลดนตรีแห่งจินตนาการ เอาสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาอยู่กลางป่า อยู่ท่ามกลางภูเขา ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เรานึกถึงกันเลยคือ ‘เรือ’ ไม่เคยเห็นเรืออยู่กลางป่า ก็เลยเอาคอนเซปต์ของความเป็นเรือ มาสร้างเวทีเป็นเรือขนาดยักษ์เนี่ยแหละ น่าจะเป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่เคยเห็น คาดไม่ถึง มันจึงเกิดมาเป็นภาพที่ทุกคนได้เห็นกันคือการมีเรือยักษ์อยู่ในงานคอนเสิร์ตครั้งนี้
โจทย์ที่เกิดขึ้นจากการระดมความคิด
โจทย์นี้พวกเราทุกคนระดมความคิดกันแล้วก็ได้มีการปรึกษากับทางพี่กบ Big Ass กับทาง Monday on December ว่า จะทำอะไรได้บ้างในปีนี้ ด้วยความที่ปีแรก งาน Rock Mountain ทำเวทีค่อนข้างยิ่งใหญ่และเป็น Signature ที่ทำให้คนจำได้แล้ว ปีแรกคือปราสาทจึงกลายเป็นโจทย์หนักของเราคือ การทำปีที่สองยังไง ให้คนประทับใจและรู้สึกว่าแบบเวทีมันยิ่งใหญ่อลังการเลยออกแบบกลายมาเป็นคอนเซปคือเรือ ให้ความรู้สึกของความยิ่งใหญ่และมันก็อยู่กับชาวร็อกได้ด้วย โจทย์นี้มันเกิดขึ้นจากทุกคนร่วมมือและคิดเห็นไปในทางเดียวกันเลย
คำปรึกษาจาก กบ Big Ass เรื่องของเรือลำใหญ่กับความสัมพันธ์ของชาวร็อก
เรื่องของเวทีมันเป็นเรื่องสำคัญสำหรับงานนี้ การทำ Rock Mountain จะเป็นเทศกาลดนตรีหรือจินตนาการยังไง มันจะยังต้องอยู่ในกรอบของความร็อก ไม่ใช่ว่าเหมือนแฟนตาซีเกินไปจนมันอยู่ไม่ได้ เรือมันเป็นความพอดีของความเป็นร็อก แล้วก็ทำให้มันยิ่งใหญ่ได้ เพราะจะเห็นว่าเราทำแบบเรือ หาเวทีที่กว้างมากๆ สูงมากๆ อยู่สถานที่นี้ที่มันแมทช์กับธรรมชาติแล้วมันดูยิ่งใหญ่ ตรงนี้เองก็ได้คำปรึกษาจากพี่กบ Big Ass มาด้วยว่า เออมันอยู่ได้กับงานครั้งนี้จริงๆ นะ เรือลำนี้
ประสบการณ์ของคนดูสำคัญเสมอ แสง สี เสียง ยิ่งสำคัญ
หลักๆ ที่ตั้งใจไว้เป็นงานโปรดักชั่น แสง สี เสียง ประสบการณ์คนดู ต้องมาก่อน เพราะว่ามันคือประสบการณ์ที่อยากให้ทุกคนได้รับและแตกต่างจากงานอื่น เวทีที่อลังการ แสง สี จะเห็นว่ามีพลุ มีแสง สี ที่ค่อนข้างโดดเด่นออกมา รวมถึงเรื่องราวของซาวด์เสียง การฟังดนตรีร็อก เรื่องซาวด์เป็นเรื่องสำคัญ เราให้ความสำคัญเรื่องเสียง ที่ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของเวทีคอนเสิร์ต จะได้ยินคุณภาพเสียงดีและที่ทั่วถึง รวมถึงได้ยินเสียงแบบมวลของความเป็นร็อก นี่เป็น Process ที่ให้ความสำคัญที่สุด ในเรื่องของโปรดักชั่นของงานนี้
ขนาดของเรือลำใหญ่ที่กำลังออกจากฝั่งไปสู่สายตาแฟนเพลง
เวทีเรือใหญ่มากๆ มีขนาดกว้างประมาณ 66 เมตร และสูงมากกว่า 30 เมตร ต่างจากเวทีปราสาทครั้งที่แล้ว ที่จะมีความกว้างประมาณ 55 เมตร สูง 27 เมตร ความกว้างจะต่างจากปีแรกประมาณสิบกว่าเมตร ซึ่งท้าทายงานโปรดักชั่นพอสมควรเลย
ตอนคิดจะทำว่ายาก ตอนลงมือทำยากกว่า
ยากมากตอนลงมือทำ เพราะดีเทลมันเยอะ จากตาเปล่าที่เห็นตอนเสร็จแล้วคือสวย ลงตัว แต่จริงๆแล้ว มันเป็นเรื่องของงานฉากทั้งหมด คือทุกอัน ทุกด้าน มันมีดีเทล ก็จะเห็นว่ามันมีเรื่องของรูปร่าง Shape ของการเป็นเรือ เรื่องของการก่อสร้างใบเรือ ก่อสร้างยังไงให้มันไม่กินลม เรื่องของดีเทลต่างๆ ปัญหาหลักๆ เลยที่ควบคุมยากและต้องทดลองกันอย่างดีที่สุดคือ ลม ต้องระวังให้มากและสร้างให้แข็งแรงในทุกด้าน เรื่องของบันได เรื่องของ Decorations ไฟ การทำเวที คึอดีเทลมันเยอะมาก มันเป็นงานฉากที่มีเลเยอร์ รวมไปถึงงานฉากแล้ว เราก็ทำเวทีเลื่อนที่ทำให้โชว์มันออกมาแบบต่อเนื่อง ดีไซน์เวทีเลื่อนออกมาเพราะอยากให้การดูโชว์มันสมูทที่สุด ให้ประสบการณ์ชมที่เพลิดเพลินอย่างต่อเนื่อง ปกติการไปมิวสิคเฟสติวัล จะต้องมีเรื่องของการเซ็ทวง ระหว่างเปลี่ยนโชว์ของศิลปิน แต่ว่าพอมีเวทีเลื่อนมันทำให้คนดูสามารถดูคอนเสิร์ตได้อย่างต่อเนื่อง บวกกับการไม่ประกาศไลน์อัพและการมีโชว์พิเศษ ก็จะรู้สึกว่ามีความเซอไพรส์ มีความตื่นเต้นตลอดทั้งคอนเสิร์ต