ถ้าพูดถึงชื่อ Emma Stone (เอ็มม่า สโตน) หลายท่านคงคุ้นหูกับชื่อนี้ และหากได้เห็นหน้าคร่าตาก็อาจทำให้คุณร้องอ๋อขึ้นมา ภาพยนตร์ของ เอ็มม่า สโตน นั้นมีหลายเรื่อง หลายบทบาท ส่วนตัวผู้เขียนได้รู้จักเธอเป็นครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง THE HOUSE BUNNY (2008) ภาพยนตร์คอมเมดี้ที่ให้ดูซ้ำกี่รอบก็ไม่เบื่อ จำได้ว่าตอนนั้นสมัยยังเป็นเด็กนักเรียน ต้องซื้อแผ่นมาใส่เครื่องเล่นดีวีดีดูในทีวีจอ LCD ขนาด 26 นิ้ว เราได้รู้จักเอ็มม่าเป็นครั้งแรก ในบทบาทประธานบ้านสุดเนิร์ด แถมเธอยังทำให้เรา ยิ้ม หัวเราะ ให้กับความน่ารัก ความเปิ่น จังหวะตลกอย่างเป็นธรรมชาติของตัวละคร ได้โดยไม่รู้สึกเบื่อหน่าย และสำหรับในวันเราจะพาทุกท่านไปรู้จัก เอ็มม่า สโตน และ 6 ผลงานการแสดงอันยอดเยี่ยมของเธอกันเลย!
Emily Jean หรือ Emma Stone (เอ็มม่า สโตน) นักแสดงสาวสัญชาติอเมริกัน ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในบท เกวน สเตซี่ จากภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่ THE AMAZING SPIDER-MAN (2012,2014) เอ็มม่าเกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1988 เธอมีความฝันอยากเป็นนักแสดงตั้งแต่เด็ก และได้เปิดตัวในฐานะนักแสดงเรื่องแรกด้วยวัย 19 ปี กับภาพยนตร์ coming-of -age เรื่อง SUPERBAD (2007) หลังจากเดบิวต์ เอ็มม่าได้สร้างความประทับใจด้วยเสน่ห์เหลือล้น และการแสดงที่เป็นธรรมชาติจนไม่อยากละสายตา จากผลงานหนังคอมเมดี้กระแสหลักมากมาย พัฒนาไปถึงจุดสูงสุดสู่การคว้ารางวัลออสการ์ในสุดยอดภาพยนตร์แห่งปีอย่าง LA LA LAND (2016) และกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์!
วันนี้เราจะพามาชม 6 อันดับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ Emma Stone กันเลย!
1.LA LA LAND (Damien Chazelle, 2016) เรท PG-13 TOMATOMETER 91%
LA LA LAND ได้รับการกล่าวขานจากนักวิจารณ์ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2016 เอ็มม่า สโตน รับบทเป็น มีอา (MIA) นักแสดงหญิงผู้มุ่งมั่น เธอได้ตกหลุมรักกับ เซบาสเตียน (SEBASTIAN) รับบทโดย ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) นักแสดงคู่บุญ ทั้งคู่ได้รับคำชมจากเคมีที่เข้ากัน และในการแสดงภาพยนตร์สไตล์มิวสิคัล ร้อง เล่น เต้นรำ ที่ครบรส ทั้ง คอมเมดี้ โรแมนติก และ ดราม่า ทำให้เอ็มม่าได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้เรื่องย่อ : เป็นเรื่องราวของ เซบาสเตียน นักเปียโนแจ๊ส และ มีอา นักแสดงสาวผู้มุ่งมั่น ทั้งถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยความปารถนาที่จะทำตามความฝัน แต่แล้วก็ต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่เริ่มทำลายความรักอันแสนเปราะบางให้กลายเป็นความเกลียดชัง ดั่งความฝันที่สวนทางกับความสัมพันธ์ของพวกเขา
2.THE FAVORITE (Yorgos Lanthimos, 2018) เรท R TOMATOMETER 93%
THE FAVORITE ถือว่าเป็นการแสดงที่โดดเด่นที่สุดและยังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมอีกครั้ง เอ็มม่า สโตน ในบทบาท อบิเกล (ABILGAL) สาวรับใช้ผู้มักใหญ่ใฝ่สูง ภาพยนตร์ พีเรียด จักร์ๆวงศ์ๆ กำกับโดยผู้กำกับสายอินดี้อย่าง ยอร์กอส ลานธิมอส (Yorgos Lanthimos) ด้วยสไตล์ ดาร์กคอมเมดี้ ตลกร้าย เสียดสีสังคมชนชั้นสูง ได้แบบเจ็บแสบไปถึงทรวงเรื่องย่อ : ในช่วงต้นศตรวรรษที่ 18 ประเทศอังกฤษกำลังทำสงครามกับฝรั่งเศส ราชินี แอนน์ (Queen Anne) ผู้อ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจได้ขึ้นครองบัลลังก์ ขณะที่มี เลดี้ซาร่าห์ (Lady Sarah Churchill) สหายคนสนิทคอยดูแลเรื่องในประเทศแทนเธอ แต่เมื่อ อบิเกล คนรับใช้ใหม่เข้ามาถึง เรื่องราวที่ชวนปวดหัว การชิงดีชิงเด่น ความสัมพันธ์วุ่นๆ และเล่ห์เหลี่ยมชนิดที่เล่นกันโคตรแรง จึงเกิดขึ้นภายในพระราชวังแห่งนี้
3. BIRDMAN (Alejandro González Iñárritu, 2014) เรท R TOMATOMETER 91%
สำหรับ BIRD MAN OR (THE UNEXPEXTED VIRTUE OF IGNORANCE) เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ด้วยเทคนิคการถ่ายทำ ที่หนังทั้งเรื่องดูเหมือนถ่าย Long Take เพียงช็อตเดียว เอ็มม่า สโตน ทำได้ดีมากในบท แซม (SAM) ลูกสาวที่พึ่งเลิกยาผู้แสนเกรี้ยวกราด ของ ริกแกน ทอมป์สัน (RIGGAN THOMPSON) ดาราหนังฮีโร่ตกประป๋องที่อยากกลับมายิ่งใหญ่โดยการสร้างละครบรอดเวย์ เอ็มม่าได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วยเรื่องย่อ : ริกแกน ทอมป์สัน อดีตนักแสดงหนังซูเปอร์ฮีโร่ กำลังทะเยอทะยานสร้างผลงานละครบรอดเวย์ หวังจะสร้างชีวิตใหม่ให้กับอาชีพนักแสดงของเขาที่กำลังซบเซา แม้จะเสี่ยงแต่เขาเดิมพันด้วยความสร้างสรรค์และหวังจะพิสูจน์ว่าเขาเป็นศิลปินตัวจริงไม่ใช่แค่ดาราหนังซูเปอร์ฮีโร่หมดสภาพ ในขณะเดียวกันเขาต้องรับมือกับ ไมค์ ไชเนอร์ (MIKE SHINER) นักแสดงเจ้าอารมณ์ และ แซม ลูกสาวพึ่งเลิกยาที่ทำตัวเกลียดพ่อตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่แวะเวียนมาให้ปวดกระบานกันเป็นพักๆ รับรองงานนี้มีคลั่งแน่นอน
4. BATTLE OF THE SEXES (Valerie Faris, Jonathan Dayton, 2017) เรท PG-13 TOMATOMETER 84%
BATTLE OF THE SEXES ถือเป็นไฮไลท์ในอาชีพการแสดงของ เอ็มม่า เพราะเธอต้องแสดงนักเทนนิสที่มีตัวตนจริงๆ โดยงานนี้เธอแสดงเป็น บิลลี จีน คิง (BILLIE JEAN KING) และได้แสดงร่วมกับ สตีฟ คาเรล (STEVE CARELL) นักแสดงมากฝีมือ รับบทเป็น บ๊อบบี้ ริกส์ (BOBBY RIGS) แม้เอ็มม่าจะไม่ได้เล่นกีฬาแต่เธอสามารถเปลี่ยนทักษะการเต้นของเธอเป็นบทบาทอดีตนักเทนนิสอันดับหนึ่งของโลกได้อย่างงดงามเรื่องย่อ : เหตุการณ์จริงของการแข่งขันเทนนิสที่ถูกจับตามองมากที่สุดในปี 1973 ระหว่าง บิลลีจีน คิง แชมป์หญิงอันดับหนึ่งของโลก และ อดีตแชมป์ชายปากร้าย บ๊อบบี้ ริกส์ กลายเป็นการแข่งขันระหว่างเพศ ที่รางวัลเป็นมากกว่าชัยชนะ แต่คือการต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียม
5. THE HELP (Tate Taylor, 2010) RATE PG-13 TOMATOMER 76%
THE HELP เป็นภาพยนตร์ย้อนยุคที่สร้างจากหนังสือนวนิยาย เอ็มม่ารับบทเป็น ยูจีเนีย สกีตเตอร์ ฟรีแลน (EUGENIA ‘SKEETER’ PHRLAN) นักข่าวสาวที่มีความทะเยอทะยานสูงในการจะเขียนหนังสือเปิดโปงอภิสิทธิ์ชนคนขาวที่ปฏิบัติต่อสาวใช้ผิวดำอย่างทารุณ โดยการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวกับสาวใช้ผู้ถูกดขี่ ซึ่งทุกคนต่างมีเรื่องราวที่ทำให้เรารู้สึกจุกอกไม่น้อย THE HELP กวาดรายได้ทั่วโลกไปกว่า 211 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 4 สาขาเรื่องย่อ : ย้อนไปยุค 60s ทางตอนใต้ ที่มีการเหยีดสีผิวอย่างรุนแรง นักข่าวสาวไฟแรง ยูจีเนีย สกีตเตอร์ ผู้มีความทะเยอทะยานจะนำเสนอเรื่องราวแสนโหดร้ายนี้ เธอเริ่มโครงการเขียนเปิดโปงโดยการสัมภาษณ์ตัวต่อตัวกับสาวใช้ผิวดำ ถึงเรื่องการทารุณกรรมอย่างเป็นระบบโดยน้ำมือคนผิวขาวชนชั้นสูง และเธอต้องต่อสู้อย่างหนักในการจะเขียนข่าวเปิดโปงนี้
6. EASY A (Tate Taylor, 2010) เรท PG-13 TOMATOMER 85%
EASY A เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่วัยรุ่นชื่นชอบ เอ็มม่า สโตน ได้แจ้งเกิดและประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจากภาพยนตร์เรื่องนี้ EASY A พูดถึงวัฒนธรรมของโรงเรียนมัธยมปลาย มีกลิ่นคล้ายหนัง High School อย่าง MEAN GIRL เอ็มม่า รับบทเป็น โอลีฟ (Olive) นักเรียนมัธยมปลายที่ไม่มีใครสนใจ จนกระทั่งเธอมีข่าว ‘ฉาว’ จึงได้กลายเป็นคนป๊อปปูล่า เธอตัดสินใจยอมรับในชื่อเสียนี้เพื่อที่จะได้โด่งดังเรื่องย่อ : เพื่อนซี้ผู้โด่งดังของ โอลีฟ เล้าหลือให้เธอเปิดเผยรายละเอียดของวันหยุดสุดสัปดาห์แสนน่าเบื่อ โอลีฟจึงตัดสินใจสร้างสีสันด้วยการโม้ถึงการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ข่าวลือเรื่องการเสียตัวของเธอกระจายไปทั่วโรงเรียน ทำให้โอลีฟมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นจากข่าวฉาวนี้
จบไปแล้วกับ 6 ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของเธอ เป็นอย่างไรบ้างเพื่อนๆ เคยดูเรื่องไหนกันมาบ้างหรือไม่?
จริงๆ แล้วการจัดอันดับการแสดงของเอ็มม่านั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนหนึ่งของผู้เขียน ที่อ้างอิงมาจากความชอบส่วนตัว และรีเสิร์ชข้อมูลต่างๆเพียงเท่านั้น เพราะความจริงคือการแสดงของเธอนั้นล้วนดีหมด แต่อาจจะดีในแต่ละด้าน แต่ละมุมแตกต่างกันไป อยู่ที่ท่านจะมอง แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถสังเกตุเห็นเหมือนกันในหนังทุกเรื่องของเธอคือ ‘ความตั้งใจ’ เธอเป็นนักแสดงที่ทำการบ้านมาดี ความตั้งใจนั้นออกมาผ่านทางสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง การได้เห็นวิธีการบ่มเพาะสกิลการแสดงของเธอเป็นอะไรที่แสนจะวิเศษ
เรายังคงติดตามหนังของเธอมาเรื่อยๆ จากผลงานการแสดงบทบาทประธานสาวเนิร์ดในเรื่องนั้น จนในวันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เรายังคงเห็นเธอเฉิดฉายอย่างเป็นธรรมชาติอยู่บนจอ ไม่ว่าจะบทบาทอะไร เธอก็ยังคงทำได้ดี ในฉบับเอมม่า สโตน ที่กล้าได้ กล้าเสีย กล้าเล่น พร้อมจะทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพร์สกับความมหัศจรรย์ของเธอคนนี้อย่างไม่รู้จบ
จริงๆ แล้วการจัดอันดับการแสดงของเอ็มม่านั้นเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนหนึ่งของผู้เขียน ที่อ้างอิงมาจากความชอบส่วนตัว และรีเสิร์ชข้อมูลต่างๆเพียงเท่านั้น เพราะความจริงคือการแสดงของเธอนั้นล้วนดีหมด แต่อาจจะดีในแต่ละด้าน แต่ละมุมแตกต่างกันไป อยู่ที่ท่านจะมอง แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถสังเกตุเห็นเหมือนกันในหนังทุกเรื่องของเธอคือ ‘ความตั้งใจ’ เธอเป็นนักแสดงที่ทำการบ้านมาดี ความตั้งใจนั้นออกมาผ่านทางสีหน้า ท่าทาง น้ำเสียง การได้เห็นวิธีการบ่มเพาะสกิลการแสดงของเธอเป็นอะไรที่แสนจะวิเศษ
เรายังคงติดตามหนังของเธอมาเรื่อยๆ จากผลงานการแสดงบทบาทประธานสาวเนิร์ดในเรื่องนั้น จนในวันนี้ วันที่เธอประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เรายังคงเห็นเธอเฉิดฉายอย่างเป็นธรรมชาติอยู่บนจอ ไม่ว่าจะบทบาทอะไร เธอก็ยังคงทำได้ดี ในฉบับเอมม่า สโตน ที่กล้าได้ กล้าเสีย กล้าเล่น พร้อมจะทำให้เรารู้สึกเซอร์ไพร์สกับความมหัศจรรย์ของเธอคนนี้อย่างไม่รู้จบ
