GeniePak การก้าวข้ามคำสบประมาท และสิ่งที่อยากขอให้ ‘อยู่ก่อน’

8 ส.ค. 2566 - 06:01

  • GeniePak ศิลปินจากค่าย YUPP! กับเรื่องราวความรักในเสียงดนตรีที่เริ่มขึ้นตั้งแต่จำความได้ สู่การเป็นเด็กฝึกหัดในประเทศเกาหลีใต้ กระนั้นความสามารถทั้งหมดที่มีกลับถูกสบประมาทและลดทอนลงแค่เพราะไม่สวยตามมาตรฐาน

  • การเติบโตของ GeniePak จากเด็กฝึกหัดเกาหลีใต้ กลายเป็นศิลปินในค่าย YUPP! และกำลังมีซิงเกิลที่สอง ‘อยู่ก่อน’

  • GeniePak กับความเชื่อว่า ‘ศิลปิน’ ต้องสามารถทำงานได้ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เธอจึงมีผลงานการเขียนเพลงมากมาย ทั้งให้ตัวเอง และศิลปินท่านอื่น เช่น เพลง BOMB! และ Less is More ของสาวๆ 4EVE เป็นต้น

GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Thumbnail
‘จีนี่-ณภัคกมนตร์ ทวีโรจน์มงคล’ หรือที่หลายคนรู้จักเธอในนาม ‘GeniePak’ ศิลปินสาวเสียงหวานจากค่าย YUPP! ที่เคยมีผลงานผ่านช่องยูทูปส่วนตัว GeniePak มาให้เห็นกันบ้างแล้ว แม้ภาพลักษณ์ของเธอจะดูสวยและแรงไม่แคร์ใคร แต่เบื้องหลังของสาววัย 27 ปีที่ยังคงเต็มไปด้วยความฝันและ Passion กลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดและความล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่การลองสมัครรายการดันดาราในวัยเด็ก ฝึกฝน ฝ่าฟัน จนได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดในประเทศเกาหลีใต้ แต่กลับถูกสบประมาทและลดทอนความสามารถแค่เพราะ ‘ไม่สวย’ ตามมาตรฐาน ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยยอมแพ้ ยังคงยึดมั่น ไขว่คว้า และพยายามจนได้เข้ามาเป็นศิลปินค่าย YUPP! และเพิ่งมีผลงานเพลง ‘อยู่ก่อน’ ซิงเกิลที่สองของตัวเองออกไปเมื่อไม่นานมานี้ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6wqe5KWezZfqXZghcEKvWC/9e1715e900b5b0ddb7de035ccf23a6ad/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo01

ความผูกพันธ์กับเสียงดนตรีที่ทำให้ตกหลุมรัก 

ความชื่นชอบการร้องเพลงของจีนี่เริ่มต้นขึ้นตอนไหน 
เราชอบร้องเพลงตั้งแต่จำความได้เลย เพราะตอนเด็กๆ คุณพ่อร้องเพลงตลอด ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ครอบครัวเรามักจะไปร้านอาหารที่ร้องคาราโอเกะได้ เราจะร้องเพลงเล่นกันเสมอ แล้วคุณพ่อเราเสียงดีมากขนาดที่ทุกวันนี้เวลาถ่ายวิดีโอลงโซเชียลต้องมีคนทักมาตลอดว่าคุณพ่อเป็นนักร้องหรือเปล่า ซึ่งจริงๆ สมัยก่อนคุณพ่อก็อยากมาสายนี้เหมือนกันนะ แต่ว่าคุณย่าไม่สนับสนุน พอมาถึงรุ่นเราที่ซึมซับการร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ก็เลยรู้สึกอยากมาสายนี้ด้วย  

แล้วตอนเด็กๆ ได้มีโอกาสโชว์ความสามารถในการร้องบ้างไหม 
เราเคยไปดูรูปตอนเด็กๆ แม่บอกว่าครูที่โรงเรียนจะชอบให้เราขึ้นไปร้องเพลงมาก เพราะเราจังหวะเป๊ะสุด โน้ตเป๊ะสุด เคยประกวดระดับเขตอะไรแบบนี้ด้วยนะ ประกวดทีไรก็ได้รางวัลตลอด (ยิ้ม) 

บนความเป็นเด็กตอนนั้น เราไม่ตื่นเต้นเหรอ 
เราว่าเราชินจากตอนร้องเพลงแล้ว เพราะตอนนั้นร้องเพลงแล้วได้ตังค์จากญาติๆ ตลอด ตอนเด็กๆ เราเลยเป็นคนมั่นหน้า มั่นใจ ไร้ขีดจำกัดมาก (หัวเราะ) เพราะตอนนั้นเวลาไปร้านอาหารก็จะเจอคนเยอะอยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยรู้สึกตื่นเวที จนกระทั่งเริ่มโตขึ้นมาจริงๆ ถึงได้รู้สึกว่าเราไม่ได้เก่งขนาดนั้น เพิ่งมาเริ่มรู้สึกตื่นเต้นเอาตอนโตแล้ว 

ตอนนั้นได้บอกที่บ้านไหมว่าอยากเป็นศิลปิน 
เราบอกแม่ว่าอยากร้องเพลง 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7tjuBvgjC4B4C38SYDHv3d/ab76ce7a128db1f8c0b4347de25e2356/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo02
แล้วแม่ว่าอย่างไร 
แม่บอกก็ได้นะ ก็เลยลองพาไปตี 10 ดันดาราอะไรแบบนั้น 

เห้ย รายการนานมาก 
นานจริง นานมาก ตอนนั้นเรายังเด็กอยู่เลย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ออกทีวีนะ เพราะเขาบอกว่าถ้ามีเทปที่คอนเซ็ปต์ตรงกับเด็กจะโทรมาเรียก เราก็ไม่ได้อะไร แล้วตอนนั้นเหมือนมีคนมาขอคอนแท็กคุณแม่ไปเพราะว่าเราร้องเสียงดีด้วย แต่ว่ายุคนั้นมันเป็นยุคที่เด็กในโมเดลลิ่งจะได้รับการเลือกก่อนก็เลยไม่ได้มีการติดต่ออะไรมาต่อ 

หมายความว่าจริงๆ แม่ก็สนับสนุนกับความฝันเหมือนกันนะ 
จริงๆ เพราะยังเด็กแหละ ตอนเด็กๆ เหมือนกับอยากทำอะไรก็ให้ลองทำ แต่พอโตขึ้นมาก็จะมีคำว่า ‘แม่ว่ามันไม่มั่นคงนะ’ (หัวเราะ) 

เอ้า แม่ 
เอ้าจริง 

แล้วทำอย่างไรถึงเอาชนะใจแม่ได้ 
เอาจริงๆ จนถึงทุกวันนี้ก็ยังเอาชนะไม่ได้นะ (หัวเราะ)  

แล้วตอนที่ขอไปลองฝึกที่เกาหลี จีนี่ทำอย่างไร 
เราก็บอกเขาตรงๆ แหละ แต่ตอนนั้นแม่น่าจะมองว่ายังเด็กด้วย ยังรู้สึกว่าเพิ่งอายุ 20 ต้นๆ เองก็เลยให้ลองดู ถึงตอนนั้นเขาจะแอบไม่โอเค เพราะเราต้องดร็อปมหาวิทยาลัยเทอมหนึ่งก็ตาม  
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1OKXcD5JjgGeODglCU5Hkg/e72ecf56e80fdcd3d98d67ddea9d7f29/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo03

บ่มเพาะ ผลิบาน จนกลายเป็น ‘ศิลปิน’ 

ชีวิตเด็กฝึกหัดเกาหลีเป็นอย่างไรบ้าง 
ตอนเราฝึกที่เกาหลีเขาจะเข้มงวดมากมีระบบ และตารางจำแนกเด็กฝึกตายตัว อย่างจีนี่ถูกจัดอยู่ในหมวดไดเอ็ท ก่อนจะไปซ้อมก็ต้องตื่นมาออกกำลังกายก่อน เสร็จแล้วก็ไปซ้อม ซ้อมเสร็จก็ไปเรียนร้องเพลง แล้วมันก็จะมีเวลา ‘ชาซึบ’ (자습) ที่เป็นการฝึกซ้อมด้วยตัวเองก่อนจะเต้นรวม ซึ่งทุกๆ เดือนก็จะมีการประเมินรายเดือนด้วย 

ซึ่งความลำบากก็ไม่ได้มีแค่การฝึกซ้อม เพราะยังโดนบูลลี่เรื่องหน้าตาด้วย 
ใช่ แต่จริงๆ เราโดนตั้งแต่เด็กอยู่แล้ว ตอนเด็กๆ ครั้งแรกที่โดนว่าคือหน้าตาเหมือนปลาดุก ตอนนั้นก็งงว่าเหมือนยังไง เราไม่คิดว่าคนเราจะสามารถหน้าตาเหมือนปลาได้นึกออกป่ะ พอผ่านไปสักพักมีหนัง Avatar ออกมาก็บอกเราหน้าเหมือนอวตาร สักพักบอกเหมือนสติทซ์อีก ผ่านไปบอกเหมือนมังกร เหมือนแมวน้ำ เหมือนนู้น เหมือนนี่ไปเรื่อยๆ ไม่เคยโดนบอกว่าสวยเลย

โห แล้วพอไปอยู่นู้นไม่ยิ่งหนักไปกว่าเดิมหรอ 
หนัก จำได้ว่าโดนแรงที่สุดคือโปรดิวเซอร์เกาหลีบอกว่า ‘เธอแร็ปก็ดี ร้องก็ได้ เต้นก็เก่ง แต่เสียอย่างเดียวคือไม่สวย’ 

เขาพูดแรงมาก 
แรงจริงๆ คนเกาหลีเขาจะมี stereotype ที่ชัดมากว่าต้องเป็นแบบนี้ แบบนี้ แบบนี้ ถึงจะสวย ตอนนั้นที่ไปฝึกมันยังไม่เปิดกว้างเท่านี้ แล้วเขาก็พูดประมาณว่าถ้าไม่สวยก็ต้องพยายามหน่อยนะ เพราะคนไม่เก่งมันฝึกซ้อมได้ แต่คนไม่สวยต่อให้ตายแล้วเกิดใหม่ก็ไม่รู้จะสวยไหม  

แล้วตอนนั้นเราทำอย่างไร 
ตอนนั้นเราแค่รู้สึกว่าเขามีมาตรฐานความสวยที่เข้มมากๆ คนเกาหลีเขาเชื่อว่าคนที่สวยคือคนจิตใจดี เขาถึงให้ความสำคัญกับการศัลยกรรมสุดๆ เราเลยรู้สึกว่าคงไม่สามารถอยู่ในสังคมที่มีค่าชี้วัดคนด้วยหน้าตาได้ 

ตอนนั้นจิตตกกับสิ่งที่เกิดขึ้นบ้างไหม 
นิดนึง แต่เรามีภูมิคุ้มกันจากตอนไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลีตอนม.ปลายแล้ว ตอนที่ไปแลกเปลี่ยนยิ่งกว่านี้อีก ตอนนั้นมันจะมีเพื่อนในห้องแค่ไม่กี่คนที่พูดภาษาอังกฤษได้ เราจำได้เลยว่าคำแรกที่เขาพูดกับเราคือ ‘เธอรู้ไหม ตอนแรกที่ได้ยินว่ามีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาเราตื่นเต้นกันมากเลย คิดว่าเธอจะตัวสูง ผมบลอนด์ ตาสีฟ้า แต่พอได้เจอเธอแล้ว เธอดูไม่ได้เลย’ ตอนนั้นเราก็แบบ เห้ย แต่เราก็เป็นต่างชาตินะ ทำไมเขาเหมือนไม่ได้จะพยายามมาแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับเราจริงๆ เลย แล้วยิ่งมาเจอคำพูดตอนฝึกอีกเลยยิ่งคิดว่าตัวเองไม่เหมาะ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2XnsH0dPeWiC5dYbFnMrVW/a3bf9b37cf5e59ad6e0e32e01e5cb1b3/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo04
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/28qJcnH3iTAb8raTVa92fo/8f9a27b80680ae6abb8df03abbae5c25/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo05
ฝึกไป ฝึกมา อยู่ดีๆ มาเป็นศิลปินที่ค่าย YUPP! ได้อย่างไร 
ตอนนั้นกลับมาสักพักแล้ว เราก็ทำงานฟรีแลนซ์ไปเรื่อยๆ จนมีพี่ที่สนิทเขาก็บอกว่ามีการเปิดออดิชัน YOUNG YUPP! นะ ลองดูไหม แต่ตอนนั้นก็แอบรู้สึกว่าอายุเยอะแล้วนะ แต่ก็ลองส่งไปก่อน เพราะตอนนั้นจีนี่ก็เริ่มเขียนเนื้อเพลงเองแล้วด้วย เริ่มรับทำเบื้องหลังบ้างแล้ว 

ตอนนั้นภาพจำของ YUPP! ที่มีแต่แร็ปเปอร์ทั้งค่ายส่งผลต่อการตัดสินใจบ้างไหม 
ส่งผล ตอนแรกที่พี่ส่งมาให้เราก็ส่ายหัวเหมือนกัน เพราะเราไม่ใช่แร็ปเปอร์นะ แล้วตอนนั้นผู้หญิงคนเดียวในค่ายคือ ‘มิลลิ’ อ่ะ เราแร็ปไม่เป็นนะ แต่พี่เขาก็บอกให้ลองส่งดูก่อน เพราะเขาน่าจะอยากได้สีสันใหม่ๆ พอส่งมาแล้วก็ ‘อ๋อ’ ทุกคนสายร้องหมดเลย (หัวเราะ) 

พอส่งมาแล้วต้องเข้ามาเจอกับกระบวนการฝึกอีกครั้ง ก่อนจะถามว่าเป็นอย่างไร อยากรู้ว่าแม่พูดว่าอย่างไร ลูกสาวมาสายนี้อีกแล้ว 
ความจริงคือแม่ไม่รู้ (หัวเราะ) 

แม่ไม่รู้เลยหรอ 
ไม่รู้เลย จนกระทั่งเราเซ็นสัญญามาแล้วเกือบปี (หัวเราะ) แม่มารู้เอาตอนที่จีนี่จะมีแสดงที่สยามแล้วอ่ะ คือตอนนั้นค่ายให้เราลองเป็นเล่นที่สยามแล้วพี่สาวก็จะมาดู วันนั้นพอจะออกจากบ้านแม่ก็เลยทักว่าจะไปไหนกันแต่เช้า เราก็เลยต้องบอกความจริงแม่ ซึ่งเราว่าเราโชคดีตรงที่ว่าคุณพ่อคุณแม่เราไม่เล่นโซเชียลมีเดียเลย เวลามีข่าวอะไรออกมาเขาก็จะไม่เห็น  

แล้ววันนั้นแม่ได้ไปดูไหม 
ไม่ได้ไปดู แต่ดุตอนเช้าก่อนไป แล้วตอนแรกก็เหมือนจะมา ถามว่ามีที่นั่งไหม เราก็บอกไม่มี ถามร้อนไหม เราก็บอกกลางสยาม คุณแม่ก็เลยบอกงั้นไม่ไปแล้วกัน (หัวเราะ) แต่ว่าพี่สาวก็ถ่ายคลิปมาให้ดู 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3W0EWBHNsn2vFyjLpaNPlc/3c698a30c1251fd9dd96dd1076172279/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo06
พูดถึงพี่สาว เราไปแอบรู้มาว่าพี่สาวดูดวงด้วยใช่ไหม 
ใช่ (หัวเราะ) 

ก่อนเข้าค่ายเขาก็ดูให้ด้วยป่ะ 
จริงๆ เขาดูให้ตั้งแต่เราอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว เพราะว่าเราเหมือนเป็นคนช่วยเขาฝึกมือด้วย เขาก็ดูให้ตลอด ตอนนั้นที่มีค่ายติดต่อมาเขาก็บอกว่าเหมือนไม่ใช่ค่ายนี้นะ เหมือนจะเป็นอีกที่หนึ่ง 

แล้วตอนที่ YUPP! ติดต่อมา อยากรู้ว่าวันนั้นดวงออกมาว่าอย่างไร 
ถ้าอันนี้จะไม่ได้ดูกับพี่สาว แต่ไปดูกับอาจารย์ (หัวเราะ) คำทำนายอะเมซิ่งมากเลยนะ เพราะเขาบอกว่าถ้าที่ที่ติดต่อมาเร็วๆ นี้ยังไม่ใช่ แต่จะมีอีกที่หนึ่งเข้ามา จะได้เซ็นสัญญาประมาณใกล้ๆ วันเกิดเรา และเจ้านายเป็นผู้ชาย 3 คน 

แล้วตอนนั้นเราว่าไงบ้าง 
ตอนนั้นเราก็งง แบบค่ายไรวะ เพราะตอนนั้นยังไม่มี YOUNG YUPP! เลย แต่ที่อะเมซิ่งเลยคือจีนี่เกิดเดือนกันยายน แล้วตอนนั้นที่เซ็นสัญญาก็คือเดือนกันยายน ตกใจเลยอ่ะ ขนลุกเลย 

พอฟังคำทำนายเสร็จ ได้เข้าไปจริงๆ การฝึกของ YUPP! เป็นอย่างไร ต่างจากเกาหลีไหม 
ต่างกันมากๆ ของ YUPP! จะเหมือนเป็นการหาจุดเด่นของแต่ละคนและเอาจุดนั้นไปพัฒนาต่อ แต่ของเกาหลีจะเป็นการหาคนที่ทำได้ทุกด้านเพื่อที่จะสามารถเอาไปวางไว้ตำแหน่งไหนก็ได้ พอเราผ่านระบบแบบนั้นมาแล้ว เราเลยรู้สึกชิวมาก 

หลายคนอาจจะรู้จักจีนี่จากการร้องเพลง แต่หนึ่งสิ่งที่คนไม่ค่อยรู้คือ ‘เต้น’ เก่งมาก 
ใช่! ตอนเข้ามาเราประกาศเลยว่าเราเป็นเมนแดนซ์ (หัวเราะ) จริงๆ เราเต้นมานานมากแล้ว เต้นก่อนไปเกาหลีอีก แล้วพอไปเกาหลีปุ๊บคนที่นู้นซ้อมเต้นกันหนักมาก ถึงจะเต้นแก้เบื่อก็ยังซ้อมกันถึง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน ซ้อมรวมเสร็จก็ซ้อมเต้นฟรีสไตล์ต่ออีก ซ้อมกันเบอร์นั้นเลย 

ซึ่งจีนี่ก็เป็น 1 ในนั้นด้วยไหม 
เราก็อยู่ (หัวเราะ) เพราะตอนนั้นกลุ่มเพื่อนเราอยู่ตรงนั้นด้วย แล้วภาษาเราก็ยังไม่ค่อยได้ พอได้ทำกิจกรรมเต้นที่ใช้การสื่อสารภาษากายเป็นหลัก มันก็เลยทำให้เราใช้เวลาอยู่กับกิจกรรมนี้เยอะที่สุดเลย 

พอได้มาเข้าค่าย ทักษะนี้มันทำให้เราได้เปรียบไหม 
ได้ เพราะ YUPP! จะมีประเมินเหมือนกัน เราก็จะได้รับคำชมตลอดว่าเป็นคนที่จัดการร่างกายได้ดีที่สุด การเคลื่อนไหวดูดีที่สุด 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/47PGKlpjtydnZxxnpv2vjZ/73d8e1de92776dfb258fbbe6078611a3/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo07
ฝึกไปเรื่อยๆ ตอนนั้นจำได้ไหมว่าใช้เวลานานเท่าไรกว่าจะมีซิงเกิลแรก 
อืม...มากกว่าการฝึกซ้อม เราว่ามันคือการหาสไตล์ที่ใช่และชอบมากกว่า เพราะก่อนเข้าค่ายไปพี่โจ้ (ศวิชญ์ สุวรรณกุล; ผู้บริหารค่าย YUPP!) พูดกับเราคำแรกเลยว่า ‘ศิลปินค่าย YUPP! แต่งเพลงเองทุกคนนะครับ’  

ได้ยินแบบนั้นแล้วรู้สึกอย่างไร 
กดดัน แต่กดดันนิดเดียว เพราะตอนนั้นเราเริ่มแต่งเพลงแล้ว แต่เริ่มได้ไม่นานเท่าไร 

แต่ก่อนหน้านั้นจีนี่ก็ทำเพลงของตัวเอง 
ก็มีเพลงที่ทำเล่นๆ ช่วงโควิด-19 แล้วมันก็ดันเกิดไวรัล ถึงขนาดมีเพจเฟซบุ๊กมาขอสัมภาษณ์ มีคนเชิญไป Song Camp ด้วย พอไปเราก็ได้รับการติดต่อจากพี่ที่เวิร์คพอยท์ทำให้มีโอกาสได้เริ่มเขียนเพลง ‘BOMB!’ ให้ 4EVE หลังจากนั้นพี่โฟร์ (ประทีป สิริอิสสระนันท์) ก็มาชวนเขียนเพลงอีกครั้ง เลยทำให้ได้วนกลับมาเขียนเพลง ‘Less is More’ ให้ 4EVE อีกครั้ง 

ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ อย่างนี้ก็ไม่ยากกับการเขียนซิงเกิลแรก ‘ไม่ปลื้ม’ 
จริงๆ กว่าจะได้ก็ยากเหมือนกัน ก่อนที่จะได้ไม่ปลื้มออกมาเราส่งเดโม่ไปเยอะมาก แต่ไม่ได้สักที ส่วนหนึ่งเพราะเราไม่ได้ทำเพลงตัวเองเป็นหลัก เลยยังไม่เจอสไตล์ที่ใช่ แล้วตอนแรกเพลง ‘อยู่ก่อน’ ที่เพิ่งปล่อยไปจะเป็นเพลงซิงเกิลแรกด้วย แต่รู้สึกว่าคาแร็กเตอร์มันยังไม่ชัดสำหรับการเปิดตัวก็เลยเขียนมาเรื่อยๆ จนมาจบที่ ‘ไม่ปลื้ม’ เป็นเพลงแรก 

ซึ่งเราก็เขียนขึ้นมาจากเรื่องราวของตัวเอง 
ใช่ มันเป็นวัฒนธรรมลูกคนจีนที่ลูกคนจีนจะเข้าใจได้ดี 

แล้วปล่อยออกมาพอแม่ได้ฟังแล้วว่าอย่างไรบ้าง 
จริงๆ แม่มีส่วนช่วยแต่งเพลงด้วย ตรงช่วงท่อน verse ที่มีภาษาจีนแต้จิ๋ว เราให้แม่พูดภาษาจีนแล้วเขียนภาษาไทยตาม แต่สำเนียงที่พูดกับภาษาเขียนอ่ะมันไม่เหมือนกัน (หัวเราะ) แม่ก็ยังหันมาถามว่ามันเอาไปใส่ในเพลงได้จริงหรอ 

นอกจากมีส่วนช่วย รีวิวของแม่เป็นไงบ้าง 
แม่ฟังไม่รู้เรื่อง (หัวเราะ) แม่บอกว่าแม่ฟังเพลงที่เราทำไม่เข้าใจสักเพลง ทำไมไม่ร้องเพลงแบบพุ่มพวง ดวงจันทร์ แม่ว่ามันทัชใจผู้คน มันคลาสิก แต่เราก็บอกเขาไปว่าเราไม่ได้เป็นสายนั้น 

แล้วในมุมของจีนี่ รู้สึกอย่างไรบ้างกับการออกซิงเกิลแรกอย่างเป็นทางการ 
รู้สึกแปลกๆ ด้วยเพลงมันคอนเซ็ปจ๋ามาก ฟีลมันเป็นเหมือนคอนเท็นต์เลย ซึ่งต่างจากเพลงที่เราฟังทั่วไป ปกติมันจะต้องเป็นเพลงที่ฟังได้ทุกวันทุกสถานการณ์ แต่เพลงนี้ที่ทำดันเป็นเพลงคอนเซ็ปต์ ก็เลยฉุกคิดว่าหรือเพลงแนวนี้เหมาะกับเรามากกว่า แต่ก็ยังพยายามค้นหาแนวทางอยู่เรื่อยๆ 

แล้วเจอหรือยัง 
ยัง แต่ว่าที่พอจับทางได้นิดหน่อยคือฟังง่ายไว้ก่อน แต่ต้องติดหู 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/76lRi9A1YhyIjjVQep5j5m/60f8050f09629e7576a7b25dd57b4bf0/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo08
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4InBafK5JEOTamfLAeJ4mo/f23db38783b31b605f420394d8d65ecc/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo09

ความรักสดใสในหน้าฝนกับหนึ่งสิ่งที่อยากขอให้ ‘อยู่ก่อน’ 

‘อยู่ก่อน’ เรื่องราวความรักสดใสในหน้าฝนของซิงเกิลใหม่ที่เพิ่งปล่อยไป 
เราทำเพลงนี้ตอนหน้าฝนปีก่อน ตอนนั้นฝนตกปรอยๆ ด้วย แล้วเราบังเอิญไปเจอบีทหนึ่งพอดี เราเลยเกิดไอเดียอยากลองทำเพลงหน้าฝนที่ไม่เศร้า เพราะปกติประเทศเราเพลงเกี่ยวกับฝนมักจะเศร้าเสมอ แต่เพลงนี้ไม่เลย ไม่เศร้า แต่เสียวแทน (หัวเราะ) 

เนื้อเพลงออดอ้อนแบบนี้ เขียนขึ้นมาจากเรื่องของตัวเองเหมือนเดิมไหม 
เพลงนี้ไม่เลย เพราะเราไม่มีเรื่องแบบนี้ แม่ตามตลอด (หัวเราะ) จีนี่โสดมานานมากเลย แต่เราก็พยายามจินตนาการขึ้นมา เราว่ามันดูน่ารักมากเลย และมันก็ดูน่าจะเป็นข้ออ้างที่ง่ายในการขอให้ใครสักคนอยู่ต่อกับเราในหน้าฝน เหมือนการชวนไปดูแมวที่ห้อง 

นอกจากเรื่องราวที่เล่า อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือพระเอก MV อย่าง ‘NAMEMT’ 
จริงๆ เราเคยทำ ‘รักนะเว้ย’ กับพี่เนมเป็นภาษาเกาหลีมาก่อน พอมีเพลงแบบนี้ออกมาเราก็เลยรู้สึกว่ามันดูเข้าทีดีนะ เลยลองชวนเขามาเล่นด้วยดู ซึ่งเอาจริงๆ เขาก็ดูเหมาะกับเพลงรักนะ 

แล้วผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง 
สำหรับเรา เราว่ามันดีมาก เพราะเพลงนี้ไม่ได้ลงช่องค่ายด้วย ลงช่องเราเอง แล้วโครงเรื่องก็ขึ้นมาจากภาพในหัวเราเอง พอมันออกมาเหมือนภาพในหัวเราเป๊ะๆ ก็เลยแฮปปี้มาก และที่ดีใจมากกว่าคือมีคนอินกับสตอรี่ในเอ็มวีไปพร้อมกับเราด้วย 

นอกจากเรื่องราวใหม่ๆ ในอนาคตคิดไว้ไหมว่าอยากทำเพลงแนวไหนอีก 
มีความตั้งใจว่าอยากทำเพลง ‘แร็ป’ สักเพลง เรารู้สึกว่านี่จะเป็นการทลายกำแพงและทดลองอะไรใหม่ๆ แบบ 100% เลย แล้วเราก็รู้สึกว่าในเมื่อมีสิ่งแวดล้อมที่สามารถช่วยเราได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้ก็ควรจะลองดูสักหน่อย 

ในค่ายมีใครเป็นคุณครูให้ไหม 
ถ้าแบบสับๆๆๆ ก็คงต้องเป็นกร (AUTTA) กับมิลลิ (MILLI) แต่ถ้าช้าลงหน่อยก็อาจจะเป็นพี่เนม 

แล้วไม่คิดจะทำเพลงเต้นๆ บ้างหรอ 
เราแอบคิดว่าแร็ปกับเต้นไปพร้อมกันได้ จริงๆ แอบคิดเพลงเต้นตลอดเลย แต่ส่วนตัวเป็นคนถนัดเพลงกลางๆ มากกว่า มันก็เลยเหมือนยังหาส่วนผสมที่ลงตัวไม่เจอ 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6myuFHvr5iIRbwEjgnUmMJ/972235b90ce09bb6454cc574803e6494/GeniePak-Special-Interview-And-New-Single-SPACEBAR-Photo10
มองทิศทางการเป็นศิลปินในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง 
จีนี่อยากเป็นศิลปินที่ทำงานอยู่ในวงการเพลงเรื่อยๆ ไม่ว่าจะในตำแหน่งไหนก็ถาม เราเชื่อว่าการเป็นศิลปินมันต้องสามารถทำได้ทั้ง 2 ทาง เพราะมันคืองานสร้างสรรค์ศิลปะอย่างหนึ่ง วันหนึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าการทำเบื้องหน้ามันเหนื่อยมากๆ แล้วหนีมาทำเบื้องหลังอย่างเดียวก็ได้ 

แล้วมีสิ่งที่คาดหวังในอนาคตไหม 
เราอยากได้รับการยอมรับว่าเก่งและสวยด้วย (หัวเราะ) เรารู้สึกว่าเราพิสูจน์ความสามารถมาให้คนเห็นมาตลอดตั้งแต่ช่วงทำยูทูปแรกๆ แล้ว ตอนนี้เลยอยากให้คนมองเห็นความสวยเราด้วย  

ผ่านเรื่องราวมาเยอะขนาดนี้ สิ่งที่ได้เรียนรู้คืออะไร 
ตั้งแต่ตอนเด็กๆ จนถึงตอนนี้ เราว่ามันไม่มีขีดจำกัดของการเรียนรู้เลย ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่ไหน หรืออายุเท่าไร มันมีหลายอย่างให้เราเรียนรู้เสมอ และเราไม่เคยเก่งที่สุดเลย เราเรียนรู้ว่าเราไม่มีทางที่จะเป็นที่ 1 ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยไปแบบนั้นได้นะ เราก็ต้องคอยระวังไม่ให้ตัวเองรั้งท้ายด้วย 

สิ่งที่ภูมิใจกับการเป็นจีนี่หล่ะ 
รู้สึกว่ารู้จักตัวเองดีขึ้นมาก มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็ก แต่การรู้จักตัวเองมันเป็นเรื่องยากมาก การรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้ และต้องพัฒนาด้านอะไรได้มันเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ 

จากทุกเรื่องราวที่ผ่านมา ถ้าให้ขอพร 1 ข้อ ให้สิ่งนั้น ‘อยู่ก่อน’ กับเราจะขออะไร 
ขอให้ YUPP! อยู่ก่อน (หัวเราะ) เพราะมันเป็นที่ๆ เราทำงานกันเหมือนครอบครัว เราคุยกันได้ตลอด อยากปรับเปลี่ยนอะไรไหม อยากได้คำปรึกษาเรื่องนี้ไหม หรือไม่เห็นด้วยก็ค้านได้เลย มันเลยทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่เหมือนที่อื่นๆ ที่เราแสดงความคิดเห็นไม่ได้เลย ที่นี่เต็มไปด้วยการซัพพอร์ตกันจริงๆ ซึ่งมันช่วยพัฒนาตัวเราขึ้นมาก 

ตลอดการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เราได้สัมผัสถึงเสน่ห์และมุมมองที่มีต่อโลกของจีนี่ที่ให้พลังบวกมากๆ แม้พร 1 ข้อที่เราให้ไปเธอจะตอบว่าค่าย YUPP! แต่สำหรับเราและแฟนๆ คงอยากจะขอให้ศิลปินมากความสามารถอย่าง ‘เธอ’ ช่วย ‘อยู่ก่อน’ กับพวกเราไปนานๆ สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานของเธอก็สามารถค้นหา GeniePak และติดตามได้ทุกช่องทาง 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์