เฉลยได้หรือยัง !? ตอนจบ Inception จากปากของ คริสโตเฟอร์ โนแลน

29 กรกฎาคม 2566 - 04:20

Inception-Nolan-Ending-SPACEBAR-Thumbnail
  • หลังจากเป็นที่ถกเถียงกันในหมู่คอภาพยนตร์มากว่าทศวรรษ ล่าสุด คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ได้เอ่ยปากเกี่ยวกับตอนจบของภาพยนตร์ขึ้นหิ้งอย่าง Inception (2010) อีกครั้ง

Inception (2010) หรือ “จิตพิฆาตโลก” คือภาพยนตร์แนวแอคชั่น ไซ-ไฟ เล่าเรื่องราวของเหล่าอาชญากรที่มีความสามารถพิเศษสุดล้ำคือการเข้าไปในฝันของเหยื่อเพื่อโจรกรรมข้อมูล ด้วยไอเดียที่สดใหม่นี้เอง ประกอบกับงานสร้างสุดตื่นตา บทอันชาญฉลาด ภายใต้ฝีมือของผู้กำกับอย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ทำให้ตัวภาพยนตร์ประสบความสำเร็จถล่มทลายทั้งในด้านรายได้ และด้านคำวิจารณ์การันตีด้วยรางวัลออสการ์ถึง 4 รางวัล ขึ้นแท่นภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาล 
 
  
และนอกจากคุณภาพอันลือลั่น อีกสิ่งหนึ่งที่ตัวภาพยนตร์ได้ทิ้งเอาไว้ คือตอนจบอันค้างคา ก่อให้เกิดการถกเถียงกันมานับทศวรรษ หลังจากที่ภารกิจของตัวเอกอย่าง คอบบ์ (ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) เสร็จสิ้นลงและได้กลับมาหาลูกๆ ของเขา ฉากสุดท้ายในขณะที่อะไรๆ กำลังจะแฮปปีเอนดิง ภาพก็ได้โฟกัสไปยัง “โทเทม” อุปกรณ์สำคัญในเรื่อง ที่ใช้เพื่อบอกว่าตัวละครเจ้าของโทเทมนั้นกำลังอยู่ในโลกความฝันหรือโลกแห่งความจริง โดยการหมุนมัน ถ้าหากตัวโทเทมทรงตัวได้ไปตลอดมันคือความฝัน แต่ถ้าหากโทเทมหยุดหมุนตามความน่าจะเป็นปกติ แสดงว่าเจ้าของโทเทมตื่นอยู่ในโลกแห่งความจริง แล้วตัวเอกของเราที่คลี่คลายภารกิจจนกลับมาหาครอบครัวสำเร็จแล้วเนี่ย เขายังติดอยู่ในโลกความฝันหรือเปล่าล่ะ ? ซึ่งท่ามกลางความลุ้นระทึกของผู้ชม โนแลนก็ค่อยๆ ซูมไปยัง โทเทม ของ คอบบ์ ที่หมุนอยู่ที่โต๊ะ โดยมีฉากหลังที่ตัวเอกเล่นกับลูกๆ อยู่ด้านหลัง และในขณะที่โทเทมทำท่าจะโยกเยกเล็กน้อย ภาพยนตร์ก็ตัดดำ และจบลงทันทีพร้อมดนตรีประกอบสุดอลังการของ ฮาน ซิมเมอร์  
 
  
ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ตอนจบในแบบของโนแลน ก็ได้สร้างข้อถกเถียงเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ขึ้นมาให้คอหนังหาคำตอบกันตั้งแต่บัดนั้นจนวันนี้ ขนาดที่ว่าเวลาผ่านไป 13 ปี การเดินสายโปรโมทภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ โนแลน อย่าง Oppenheimer ก็ยังมีการถามคำถามเกี่ยวกับตอนจบนี้กับเขาอีกครั้ง ซึ่งตัว โนแลน ก็ได้ฝากความเห็นของเขาไว้กับรายการพ็อดแคสต์ที่ชื่อ “Happy Sad Confused” ไว้ว่าการถกเถียงครั้งนี้ บางทีอาจทำให้ผู้ชมจะละเลยบางสิ่งที่ตัวภาพยนตร์ตั้งใจนำเสนอในตอนจบไป 
 
“ผมถูกถามเรื่องนี้บ่อยมากจริงๆ” โนแลนกล่าวเมื่อมีท่าทีว่าบทสนทนากำลังจะพูดคุยเรื่องตอนจบของ Inception  
“ผมคิดว่าคำตอบของ เอมม่า โทมัส (โปรดิวเซอร์) นั้นถูกต้องที่สุดนะ ที่ว่าประเด็นหลักของฉากนั้น คือการที่ในจุดๆ นั้นตัวละครของ ลีโอนาร์โด ไม่ได้สนใจอีกต่อไปแล้ว (ว่าตัวเองอยู่ในความจริงหรือฝัน)” 
“จริงๆ มันเป็นคำถามที่ผมไม่สบายใจจะตอบเท่าไหร่”    
“มันมีมุมมองที่ลดคุณค่าของตอนจบนั้น แต่จริงๆ ประเด็นคือการที่ตัวเอกมูฟออนไปแล้ว กับการที่เขาได้กลับมาหาลูกของเขา” โนแลนได้กล่าวไว้เพิ่มเติมกับ Wired สื่อดังเมื่อต้นเดือน  
“ความคลุมเครือที่เกิดขึ้นนี้ หาใช่ความกำกวมทางอารมณ์ แต่มันเป็นความคลุมเครือทางปัญญาสำหรับผู้ชม” 
 
และนั่นคือสิ่งที่ตัวของ โนแลน ในฐานะผู้กำกับต้องการจะสื่อสารให้กับผู้ชม เพราะไม่ว่าสุดท้ายแล้วโทเทมของ คอบบ์ จะหยุดหมุนหรือไม่ ก็ไม่มีผลต่อบทสรุปทางอารมณ์ของ Inception ซึ่งสำหรับ โนแลน สิ่งนี้คือหัวใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้ คอบบ์ ทำสำเร็จ และได้กลับบ้านมาหาลูกๆ เท่ากับว่าการเดินทางทางอารมณ์ของตัวละครมันจบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น คอบบ์ จึงไม่ได้สนใจจะตรวจสอบว่าลูกข่างของเขาจะล้มลงหรือไม่อีกต่อไป สาระสำคัญของซีนไม่ใช่การที่จะบอกกับคนดูว่าตัวเอกกำลังฝันหรือตื่นอยู่ในโลกแห่งความจริง แต่มันคือการที่ตัวเอกได้กลับไปหาครอบครัวซึ่งเป็นความสุขที่แท้จริง จนเขาไม่ได้สนใจหาคำตอบอีกต่อไปแล้วต่างหาก มันจึงส่งผลให้ โนแลน ไม่เคยฟันธงเลยว่าตอนจบของ Inception เป็นฝันหรือเป็นความจริง เพราะการเฉลยคำตอบออกไปมันก็อาจจะเป็นการลดทอนเมสเสจในฉากสุดท้ายของภาพยนตร์ลงนั่นเอง  

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์