“เปล่งประกาย” ความหมายของ “ดาวเรือง”
ในสากลโลกดอกดาวเรืองหรือ “Marigold” มีความหมายเชื่อมโยงกับพระอาทิตย์ เป็นตัวแทนของความทรงพลัง ความแข็งแกร่ง และแสงสว่างที่เปล่งประกายอยู่ภายในตัวของบุคคล ส่วนทางฝั่งเอเชียดอกดาวเรืองก็ถูกจัดว่าเป็นดอกไม้สิริมงคลเช่นกัน โดยเฉพาะในไทยที่เชื่อว่าสีเหลืองเรืองรองของดอกดาวเรืองจะนำเงินทองมาให้ผู้ปลูก ส่งเสริมด้านความเจริญรุ่งเรือง และช่วยให้ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นอกจากนี้ยังมีความหมายลึกซึ้งที่เชื่อว่าดาวเรืองเป็นดอกไม้แห่งจิตวิญญาณอีกด้วย
ทำให้ดอกดาวเรืองมักถูกใช้ในเชิงศาสนาความเชื่อในหลายๆ ประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย ที่มักจะนำดอกดาวเรืองมาร้อยเป็นมาลัยเพื่อใช้ในพิธีกรรมต่างๆ ทั้งดีและร้าย ไปจนถึงนำมันมาถวายบูชาเทพเพื่อขอพรให้ชีวิตรุ่งเรืองด้วยโชคลาภ อุดมด้วยความมั่งคั่ง และ เสริมบารมี
ซึ่งความหมายเชิงบวกเหล่านี้ก็ย่อมส่งต่อมาถึงประเทศไทย การเลือกตั้งที่เป็นการแข่งขันเผื่อสรรหาตัวแทนผู้ที่จะเข้าไปบริหารประเทศ และยิ่งเป็นประเทศไทยที่ผู้คนมีความเชื่อ และความศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่แพ้ใคร ก็ไม่แปลกที่จะมีชาวบ้านซักคนริเริ่มนำสิ่งของมงคลอย่างดอกไม้ที่แสดงถึงความรุ่งเรือง พลังอำนาจ บารมี ไปมอบให้กับบุคคลที่เขาเหล่านั้นเชื่อมั่นว่าจะเข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาได้ และด้วยความสวยงามของดอกดาวเรืองที่เมื่อแขวนอยู่บนคอของเหล่านักการเมือง ก็คล้ายกับว่าจะส่งเสริมให้นักการเมืองคนนั้นๆ ดูมีอำนาจมากขึ้น
สุดท้ายเมื่อการให้เริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นวัฒนธรรมความเชื่อที่ส่งผลไปถึงตัวนักการเมืองรุ่นเก่าๆ เองก็เชื่อกลมกลืนไปเพราะไม่มีอะไรเสียหาย เชื่อกระทั่งว่ายิ่งดอกดาวเรืองพวงใหญ่ดอกใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงถึงความมีอำนาจ ซึ่งในขณะเดียวกันถ้าบนตัวบนคอพวกเขา มีจำนวนมาลัยดาวเรืองเหลืองอร่ามมากมายหลายพวงเท่าไหร่ ก็แสดงให้เห็นว่านักการเมืองคนนั้นมีผู้คนนิยมชมชอบมากเท่านั้นนั่นเอง
และเนื่องจากความนิยมของดอกดาวเรืองที่มักใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น ก็ส่งผลให้ในตลาดดอกไม้ไทยมีการผลิตดอกดาวเรืองออกมาขายอยู่มากมาย ทำให้ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ดูที่ใหญ่สวยงาม แต่ราคาถูกกว่าถ้าเทียบกับดอกไม้อื่นๆ ในปริมาณเท่ากัน และจำนวนผลิตหลายล้านดอกในแต่ละวัน ก็ทำให้ถ้าคิดง่ายๆ คิดเร็วๆ ในตอนนี้ ถ้าจู่ๆ ก็มีเทศกาลที่ต้องการดอกไม้จำนวนมากขึ้นมากระทันหันในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก็คงไม่มีดอกไม้ชนิดไหนที่จะเหมาะสมสำหรับคล้องคอนักการเมืองมากกว่าดอกดาวเรืองอีกแล้ว
สุดท้ายเมื่อการให้เริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ มันก็กลายเป็นวัฒนธรรมความเชื่อที่ส่งผลไปถึงตัวนักการเมืองรุ่นเก่าๆ เองก็เชื่อกลมกลืนไปเพราะไม่มีอะไรเสียหาย เชื่อกระทั่งว่ายิ่งดอกดาวเรืองพวงใหญ่ดอกใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงถึงความมีอำนาจ ซึ่งในขณะเดียวกันถ้าบนตัวบนคอพวกเขา มีจำนวนมาลัยดาวเรืองเหลืองอร่ามมากมายหลายพวงเท่าไหร่ ก็แสดงให้เห็นว่านักการเมืองคนนั้นมีผู้คนนิยมชมชอบมากเท่านั้นนั่นเอง
และเนื่องจากความนิยมของดอกดาวเรืองที่มักใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้น ก็ส่งผลให้ในตลาดดอกไม้ไทยมีการผลิตดอกดาวเรืองออกมาขายอยู่มากมาย ทำให้ดอกดาวเรืองเป็นดอกไม้ดูที่ใหญ่สวยงาม แต่ราคาถูกกว่าถ้าเทียบกับดอกไม้อื่นๆ ในปริมาณเท่ากัน และจำนวนผลิตหลายล้านดอกในแต่ละวัน ก็ทำให้ถ้าคิดง่ายๆ คิดเร็วๆ ในตอนนี้ ถ้าจู่ๆ ก็มีเทศกาลที่ต้องการดอกไม้จำนวนมากขึ้นมากระทันหันในช่วงเวลาไม่กี่เดือน ก็คงไม่มีดอกไม้ชนิดไหนที่จะเหมาะสมสำหรับคล้องคอนักการเมืองมากกว่าดอกดาวเรืองอีกแล้ว
