โดยซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ในด้านการเล่าเรื่อง ถือว่าเรียบเรียงเอาฉากสำคัญหรือประเด็นคมๆ จากเวอร์ชั่นการ์ตูน มารวบรัดอัดลงใน 7 ตอนได้อย่างพอดิบพอดี จังหวะจะโคนในการเล่าก็แม่นยำ การแสดงของตัวละครในเรื่องก็โดดเด่น โดยเฉพาะตัวละครหลักอย่าง คิมโมมี ที่นักแสดงทั้ง 3 คน ที่เล่นเป็นตัวละคร คิมโมมี ทั้ง 3 วัย ได้อย่างไรที่ติ น่าเสียดายที่คาแรคเตอร์อันจัดจ้านตามแบบฉบับเว็บตูนที่แต่ละนางแต่ละนายเลวแบบแทบจะสุดขั้วทุกตัวละคร ถูกปรับมาให้กลมขึ้น มีมิติขึ้น แม้จะเสียดายเรื่องราวอันดาร์กดิ่งสุดกูกว่านี้ แต่ก็เข้าใจได้ในวิถีทางของการเป็นซีรีส์เพื่อดึงดูดให้ผู้ชมเอาใจช่วยตัวละครไปจนตลอดรอดฝั่ง และในอีกทางก็เป็นการคงเอาไว้ซึ่งประเด็นที่ผู้สร้างเวอชั่นซีรีส์เลือกหยิบมันขึ้นมาและเกาะเอาไว้เป็นสำคัญ
ไม่ว่าใครก็ตามที่มีโอกาสได้เกิดมามีชีวิตครั้งหนึ่งบนโลกใบนี้ ต่างก็อยากจะใช้ชีวิตตามที่ตัวเองฝันกันทั้งนั้น แต่โลกอันโหดร้ายใบนี้ไม่ได้มีพื้นที่ให้ทุกคนได้ทำตามความอยากของตัวเองขนาดนั้น ตัวเอกของเราอย่าง คิมโมมี ก็เช่นกัน เธอมีความฝันอยากเป็นสตาร์บนเวทีที่ถูกแสงสปอตไลท์จับจ้องตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยหน้าตาของเธอที่ไม่ได้ตรงตามมาตรฐานความงามตรงนั้น แม้เธอจะดั้นด้นสักเท่าไร สุดท้ายสปอตไลท์ที่เธอได้รับในชีวิตจึงมีเพียงแค่แสงแฟลชจากนักบรรดานักข่าวอาชกรรม และเวทีของเธอคือหน้าโรงพักที่เธอถูกควบคุมตัวจากคดีฆาตกรรมที่เธอก่อ
นอกจากตัวเอกอย่าง คิมโมมี ตัวซีรีส์ได้เลือกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครต่างๆ นาๆ ที่เกิดมาพร้อมความไม่เท่าเทียม โดยหยิบยกประเด็นของ “บิวตี้ พริวิเลจ” ซึ่งก็เป็นประเด็นสุดคลาสสิคที่ไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา มงกุฏ ที่เรียกว่าความสวยงามตามอุดมคติ ที่คุณเลือกมันไม่ได้ ใครเกิดมามีหน้าตาที่ตรงตามอุดมคติในสังคมขณะนั้น ก็เหมือนคุณแข่งวิ่งในลู่ที่ใกล้เส้นชัยมากกว่าคนอื่น ดูได้จากตัวละคร พูยง เด็กฝึกไอดอลนักเลงที่ทำตัวเลวทรามยังไงก็ได้รับโอกาสที่ดีกว่าผู้อื่นเพราะหน้าตาดี ส่วน คิมชุนแอ ที่ไม่ว่าเธอจะขยันอย่างไรก็กลายเป็นแค่เพียงหมากตัวนึงในสังคม แม้ชุนแอกับโมมีจะพากันไปศัลยกรรมจนหน้าตาสะสวยแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอไปไกลกว่าเดิมซักเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายผู้คนก็ยังเชยชมในความสวยงามตามธรรมชาติที่ฟ้าประทานมาให้มากกว่า อาทิเรือนร่างสุดเพอร์เฟ็คของโมมีที่ถูกชมเชยทั้งเรื่อง นอกจากนี้ความไม่เท่าเทียมถูกขับเน้นออกมาอย่างชัดเจนในอีกรูปแบบหนึ่ง คือพาร์ทของตัวละครลูกของ คิมโมมี อย่าง คิมมีโม ใครจะอยากเลือกเกิดมาอยู่ในสถานะของลูกฆาตกร ที่ต้องมีชีวิตเลวร้ายจากความผิดที่ตนไม่ได้ก่อ
ไม่ว่าใครก็ตามที่มีโอกาสได้เกิดมามีชีวิตครั้งหนึ่งบนโลกใบนี้ ต่างก็อยากจะใช้ชีวิตตามที่ตัวเองฝันกันทั้งนั้น แต่โลกอันโหดร้ายใบนี้ไม่ได้มีพื้นที่ให้ทุกคนได้ทำตามความอยากของตัวเองขนาดนั้น ตัวเอกของเราอย่าง คิมโมมี ก็เช่นกัน เธอมีความฝันอยากเป็นสตาร์บนเวทีที่ถูกแสงสปอตไลท์จับจ้องตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยหน้าตาของเธอที่ไม่ได้ตรงตามมาตรฐานความงามตรงนั้น แม้เธอจะดั้นด้นสักเท่าไร สุดท้ายสปอตไลท์ที่เธอได้รับในชีวิตจึงมีเพียงแค่แสงแฟลชจากนักบรรดานักข่าวอาชกรรม และเวทีของเธอคือหน้าโรงพักที่เธอถูกควบคุมตัวจากคดีฆาตกรรมที่เธอก่อ
นอกจากตัวเอกอย่าง คิมโมมี ตัวซีรีส์ได้เลือกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครต่างๆ นาๆ ที่เกิดมาพร้อมความไม่เท่าเทียม โดยหยิบยกประเด็นของ “บิวตี้ พริวิเลจ” ซึ่งก็เป็นประเด็นสุดคลาสสิคที่ไม่เคยจางหายไปตามกาลเวลา มงกุฏ ที่เรียกว่าความสวยงามตามอุดมคติ ที่คุณเลือกมันไม่ได้ ใครเกิดมามีหน้าตาที่ตรงตามอุดมคติในสังคมขณะนั้น ก็เหมือนคุณแข่งวิ่งในลู่ที่ใกล้เส้นชัยมากกว่าคนอื่น ดูได้จากตัวละคร พูยง เด็กฝึกไอดอลนักเลงที่ทำตัวเลวทรามยังไงก็ได้รับโอกาสที่ดีกว่าผู้อื่นเพราะหน้าตาดี ส่วน คิมชุนแอ ที่ไม่ว่าเธอจะขยันอย่างไรก็กลายเป็นแค่เพียงหมากตัวนึงในสังคม แม้ชุนแอกับโมมีจะพากันไปศัลยกรรมจนหน้าตาสะสวยแต่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอไปไกลกว่าเดิมซักเท่าไหร่ เพราะสุดท้ายผู้คนก็ยังเชยชมในความสวยงามตามธรรมชาติที่ฟ้าประทานมาให้มากกว่า อาทิเรือนร่างสุดเพอร์เฟ็คของโมมีที่ถูกชมเชยทั้งเรื่อง นอกจากนี้ความไม่เท่าเทียมถูกขับเน้นออกมาอย่างชัดเจนในอีกรูปแบบหนึ่ง คือพาร์ทของตัวละครลูกของ คิมโมมี อย่าง คิมมีโม ใครจะอยากเลือกเกิดมาอยู่ในสถานะของลูกฆาตกร ที่ต้องมีชีวิตเลวร้ายจากความผิดที่ตนไม่ได้ก่อ
นำมาสู่การที่เวอร์ชันซีรีส์ตัวละครแทบจะทุกตัวในเรื่องล้วนมีความเกี่ยวข้องกับศาสนาคริสต์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และนั่นมันก็เป็นการเล่าเรื่องที่ชาญฉลาดมากของผู้สร้าง จะมีการตั้งคำถามใดที่จะเหมาะกับความเท่าเทียมตั้งแต่เกิดอย่างการตั้งคำถามต่อพระเจ้า ที่เชื่อกันว่าเป็นผู้กำหนดทุกอย่าง ในขณะที่ตัวละครในเรื่องที่มีชีวิตเลวร้ายใช้พระเจ้านำทางเพื่อพยายามหลุดพ้นจากความทุกข์ที่ตนกำลังเผชิญอยู่ แต่มันก็ดูย้อนแย้งเสียเหลือเกินเมื่อความทุกข์ที่พวกเขาต้องเผชิญส่วนหนึ่งก็มาจากการกำหนดของพระเจ้าตั้งแต่แรกเริ่ม เราต้องพิสูจน์ตัวเองมากมายขนาดไหนกันเพียงเพื่อจะได้ใช้ชีวิตที่เราต้องการ และในโลกแห่งความเป็นจริงจะมีซักกี่คนที่เกิดมาติดลบและได้ใช้ชีวิตแบบที่ฝันไว้
ปิดท้ายด้วยประเด็นที่มีมาตั้งแต่เว็บตูนเวอร์ชั่นดั้งเดิมและถูกขับเน้นในช่วงท้าย ซึ่งมันก็ตอบสนองได้ดีต่อเมสเสจความเท่าเทียมที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อ นั่นคือการเล่าเรื่อง “พลังของความเป็นแม่” จะสังเกตุได้ว่าในช่วงท้ายของเรื่องมันคือการต่อสู้กันระหว่างแม่ทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น คิมคยองจา ยายแก่สุดอึดที่ตั้งเป้าเพื่อจะล้างแค้นแทนลูกชายสุดที่รัก คิมโมมี ที่แหกคุกออกมาเพื่อช่วยมีโมเป็นครั้งสุดท้ายแม้ว่าเธอจะรู้ว่ามันอาจจำให้เธอเผชิญหน้ากับจุดจบของชีวิต หรือ ตัวละครยองฮี แม่ของโมมีเองที่พยายามจะช่วยหลานเพื่อไถ่บาปในสิ่งที่ตัวได้กระทำกับลูกสาวลงไป แม้ทั้งสามคนอาจจะมีจุดจบที่ไม่ได้สวยงามนัก แต่ท่ามกลางโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และมองย้อนไปยังต้นเรื่อง มันก็ทำให้เราได้เข้าใจอย่างใหญ่หลวงว่า ในโลกใบนี้ที่ไม่ว่าคุณจะเกิดมาเป็นใคร ติดลบขนาดไหน แม่หรือผู้ปกครองคือคนที่จะตัดสินเส้นทางชีวิตของคุณไม่มากก็น้อย ความคิดเห็นของเขาหรือเธอจะส่งผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตในโลกที่โหดร้ายใบนี้ เพราะถ้าหากคุณยังมีโชคดีอยู่บ้าง คุณอาจจะได้เจอแม่ที่รักคุณโดยไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าคุณจะเกิดมาเป็นอย่างไร เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางวิทยาศาตร์หรืออะไรก็ตาม แต่แม่คือคนที่มีโอกาสมากที่สุด ในการจะมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเป็น และรักคุณทั้งหัวใจ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใด ถ้าหากเป็นผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่ง พึงระลึกไว้เสมอว่าพลังของคุณนั้นยิ่งใหญ่ และมันยิ่งใหญ่มากพอที่จะสร้างเกราะป้องกันให้มนุษย์คนหนึ่ง เติบโตขึ้นมาเพื่อเอาชนะอุปสรรคบ้าๆ บอๆ ที่พระเจ้ามอบให้เขาหรือเธอได้ในที่สุด
ปิดท้ายด้วยประเด็นที่มีมาตั้งแต่เว็บตูนเวอร์ชั่นดั้งเดิมและถูกขับเน้นในช่วงท้าย ซึ่งมันก็ตอบสนองได้ดีต่อเมสเสจความเท่าเทียมที่ผู้สร้างต้องการจะสื่อ นั่นคือการเล่าเรื่อง “พลังของความเป็นแม่” จะสังเกตุได้ว่าในช่วงท้ายของเรื่องมันคือการต่อสู้กันระหว่างแม่ทั้ง 3 คน ไม่ว่าจะเป็น คิมคยองจา ยายแก่สุดอึดที่ตั้งเป้าเพื่อจะล้างแค้นแทนลูกชายสุดที่รัก คิมโมมี ที่แหกคุกออกมาเพื่อช่วยมีโมเป็นครั้งสุดท้ายแม้ว่าเธอจะรู้ว่ามันอาจจำให้เธอเผชิญหน้ากับจุดจบของชีวิต หรือ ตัวละครยองฮี แม่ของโมมีเองที่พยายามจะช่วยหลานเพื่อไถ่บาปในสิ่งที่ตัวได้กระทำกับลูกสาวลงไป แม้ทั้งสามคนอาจจะมีจุดจบที่ไม่ได้สวยงามนัก แต่ท่ามกลางโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และมองย้อนไปยังต้นเรื่อง มันก็ทำให้เราได้เข้าใจอย่างใหญ่หลวงว่า ในโลกใบนี้ที่ไม่ว่าคุณจะเกิดมาเป็นใคร ติดลบขนาดไหน แม่หรือผู้ปกครองคือคนที่จะตัดสินเส้นทางชีวิตของคุณไม่มากก็น้อย ความคิดเห็นของเขาหรือเธอจะส่งผลอย่างมากต่อการใช้ชีวิตในโลกที่โหดร้ายใบนี้ เพราะถ้าหากคุณยังมีโชคดีอยู่บ้าง คุณอาจจะได้เจอแม่ที่รักคุณโดยไม่มีเงื่อนไขไม่ว่าคุณจะเกิดมาเป็นอย่างไร เพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางวิทยาศาตร์หรืออะไรก็ตาม แต่แม่คือคนที่มีโอกาสมากที่สุด ในการจะมองข้ามทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเป็น และรักคุณทั้งหัวใจ ดังนั้นไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะใด ถ้าหากเป็นผู้ปกครองของเด็กคนหนึ่ง พึงระลึกไว้เสมอว่าพลังของคุณนั้นยิ่งใหญ่ และมันยิ่งใหญ่มากพอที่จะสร้างเกราะป้องกันให้มนุษย์คนหนึ่ง เติบโตขึ้นมาเพื่อเอาชนะอุปสรรคบ้าๆ บอๆ ที่พระเจ้ามอบให้เขาหรือเธอได้ในที่สุด
