ในวันที่ 8 ตุลาคมของทุกๆ ปีจะถือเป็นวันครบรอบการจากไปของพระเอกตลอดกาลของแฟนๆ หนังชาวไทยในยุคเฟื่องฟูของวงการภาพยนตร์ อย่าง คุณ มิตร ชัยบัญชา พระเอกจอเงิน ที่เขามีผลงานทางการแสดงรวมๆ กันไปแล้วทั้งสิ้นเกือบ 300 กว่าเรื่อง
ในปีนี้ก็จะมีภาพยนตร์ที่จะพาเราย้อนเวลากลับไปในช่วงยุคหนังกลางแปลงหรือหนังขายยานั้นมีบทบาทสำคัญ รวมถึงการพากย์เสียงสด กับ Original Netflix เรื่อง มนต์รักนักพากย์ งานในการกำกับของ อุ๋ย-นนทรีย์ นิมิบุตร ที่จะเข้าฉายในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ซึ่งในเรื่องนี้ยังทำเพื่อระลึกถึงพระเอกตลอดกาลอย่างคุณ มิตร ชัยบัญชา อีกด้วย
และจากตัวอย่างเราจะีได้เห็นซีนที่โชว์ถึงบทบาทของคุณมิตรที่แฟนหนังไทยทุกคนนั้นจดจำกันได้เป็นอย่างดีกับบทบาท ฮีโร่ใต้หน้ากากนกอินทรีสีแดง ที่ออกปะทะกับเหล่าร้ายในสมญานาม อินทรีแดง ฮีโร่พันธุ์ไทยคนแรกๆ ที่ดัดแปลงมาจากบทประพันธ์สุดอมตะของ เศก ดุสิต เจ้าพ่ออาชญานิยาย
อินทรีแดง คืองานในการประพันธ์ของ เริงชัย ประภาษานนท์ หรือ ‘เศก ดุสิต’ หรือ ‘ศ. ดุสิต’ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี พุทธศักราช 2562 ที่จะมีผลงานเขียนนวนิยายแนวบู๊ ที่มีชื่อเสียงเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่อง สี่คิงส์ ครุฑดำ มีตัวละครที่เป็นที่รู้จักกันดี อย่าง ‘คมน์ พยัคฆราช’ และ ‘โรม ฤทธิไกร’ ตัวละครสำคัญจากนิยายชุด อินทรีแดงและ อินทรีทอง
โดยบทบาทของ อินทรีแดง บทจอภาพยนตร์นั้นก็เกิดจากการที่ คุณ มิตร ชัยบัญชา ได้อ่านนิยายเรื่องนี้ ที่บ้านรังสรรค์ ตันติวงศ์ จึงชอบและแจ้งความจำนงค์ว่าต้องการแสดงเป็นอินทรีแดง เพราะมีสองบุคลิก เมื่อผู้สร้างและผู้กำกับเห็นความตั้งใจของพระเอก จึงตัดสินใจพามิตร ชัยบัญชา ไปพบ เศก ดุสิต เพื่อขอซื้อนิยายอินทรีแดง ตอน จ้าวนักเลง ให้มิตร ชัยบัญชา รับบทอินทรีแดงครั้งแรก กับภาพยนตร์เรื่อง จ้าวนักเลง ออกฉายครั้งแรกวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2502 ทำรายได้เกินล้านบาท ซึ่งทำให้มิตร ชัยบัญชามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่ว นับตั้งแต่นั้นมา
จากนั้นบทบาทของ อินทรีแดง ก็กลายเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซของคุณมิตรชัยบัญชา ที่ถูกสร้างภาคต่อออกมาอีกถึง 5 ภาค นั้นก็คือ
อินทรีแดง ภาค ทับสมิงคา ในปี 2505 ภาพยนตร์มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับอินทรีแดงที่ตามล่าทำลายล้างแก๊งงูทับสมิงคลา ไปพร้อมกับ ร.อ. เทอด ธรรมรักษ์ (อนุชา รัตนมาลย์) และนักสืบสาวจากฮ่องกง ลี่หยิน โดยมี พร ไพโรจน์ รับบทหมวดชาติเหมือนเดิม แต่ผู้รับบทเป็นสารวัติมนตรีคือ จรูญ สินธุเศรษฐ์
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ในภาพยนตร์ชุดอินทรีแดง หลังจากเรื่อง จ้าวนักเลง (2502) เรื่องแรกบนจอเงินประสบความสำเร็จก็ห่างหายไปอีกหลายปี ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จในด้านรายได้เกินกว่าหนึ่งล้านบาท
ตามมาด้วย อวสาน อินทรีแดง ในปี 2506 เป็นภาพยนตร์ไทย ถ่ายทำด้วยฟิล์ม 16 มม. พากย์สด จากบทประพันธ์ของเศก ดุสิต โดย ดุสิตภาพยนตร์ แดน กฤษดา อำนวยการสร้าง ครูเนรมิต กำกับการแสดง มิตร ชัยบัญชา รับบท อินทรีแดง คู่กับ เพชรา เชาวราษฎร์ ฉายครั้งแรกวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2506 ที่โรงภาพยนตร์ ศาลาเฉลิมกรุง
เล่าเหตุการณ์เมื่อ โรม ฤทธิไกร หนุ่มเจ้าสำราญผู้เบื้องหลังเป็น อินทรีแดง วีรบุรุษนอกระบบที่ออกจัดการเหล่าร้ายอย่างลับ ๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดมีกลุ่มโจรที่ชื่อว่า โบว์ดำ ออกมาอาละวาด ในขณะที่ตัวเขาเองก็ถูกตามล่าโดยบรรดาตำรวจ จากการทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย
และมาต่อกันในตอนที่ 4 ในภาพยนตร์ชุดอินทรีแดง กับตอน ปีศาจดำ ในปี 2509 ครั้งนี้ได้ ส.อาสนจินดา มาทำหน้าที่กำกับ มิตร ชัยบัญชา สวมบทบาทอินทรีแดงออกปฏิบัติการไล่ล่าเหล่าร้าย โดยมีวาสนาที่รับบทโดยเพชราอีกครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จด้านรายได้
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์อินทรีแดงเรื่องเดียวที่มี กิ่งดาว ดารณี อดีตคู่ชีวิตของ มิตร ชัยบัญชา ร่วมแสดง
และก็เข้าสู่ภาคที่ 5 ของภาพยนตร์ชุดนี้กับ อินทรีแดง ตอน จ้าวอินทรี ในปี เป็นหนังอินทรีแดงเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่มีพิศมัย วิไลศักดิ์เป็นนางเอก จึงทำให้ตอนนี้เป็นตอนที่นางเอกมีบทบาทเข้มข้นมากกว่าตอนอื่นๆ
ในภาคนี้ โรม ฤทธิไกร (มิตร ชัยบัญชา) ชายหนุ่มผู้แปลงตัวเองเป็นอินทรีแดงเพื่อกวาดล้างเหล่าอาชญากร โดยในภาคนี้อินทรีแดงต้องปลอมตัวเข้าไปเป็นลูกสมุนของนักธุรกิจวายร้าย ผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมและพัวพันกับแก๊งภูตมรณะ กลุ่มอาชญากรที่กำลังออกอาละวาด โดยมีคู่หูคือนางแมวป่า (พิศมัย วิไลศักดิ์)
และการสานต่องานที่อาจจะถือว่าเป็นผลงานครั้งสุดท้ายของทั้งคุณมิตร ชัยบัญชาและบทบาทสุดที่รักของเขาอย่างอินทรีแดงก็มาถึงช่วงสุดท้ายกับ ผลงาน อันดับที่ 6 ของแฟรนไชส์ อย่าง อินทรีทอง ในปี 2513
ในภาคนี้ โรม ฤทธิไกร (มิตร ชัยบัญชา) อินทรีแดงตัวจริง ต้องเป็นอินทรีทอง เพื่อตามไล่ล่า ภูวนาท อินทรีแดงตัวปลอม (ครรชิต ขวัญประชา) ที่ออกมาสร้างความสับสนให้กับบ้านเมืองและโรมยังต้องกวาดล้างเหล่าร้ายไผ่แดงที่มีบาคิน (อบ บุญติด) เป็นหัวหน้าโดยมีวาสนา (เพชรา เชาวราษฏร์) เป็นผู้ช่วย
โรม ฤทธิไกร ผู้ใช้ชีวิตปกติอย่างสำราญในช่วงที่บ้านเมืองอยู่ในความสงบ จนไม่ต้องเปลี่ยนตนเองเป็นอินทรีแดงอีกต่อไป ทว่า หลังการปรากฏตัวของอินทรีแดงตัวปลอม ที่ออกปล้นฆ่าผู้คนอย่างโหดเหี้ยมต่อเนื่อง เขาจึงจำต้องกลับมาสืบหาความจริงอีกครั้ง ด้วยการสวมหน้ากากอินทรีทอง
โดยเรื่องนี้คือผลงานที่คุณ มิตร ชัยบัญชา ทุ่มพลังและชีวิต กำกับการแสดง แบบ 35 ม.ม. รวมถึงซีนไฮไลท์ของเรื่องคุณมิตรก็เลือกที่จะแสดงเองกับฉากจบที่ อินทรีแดงจะต้อง โหนบันไดลิงที่ห้อยมาจากเฮลิคอปเตอร์ แต่เหตุการณ์ ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อคุณมิตรพลัดตกมาจากเครื่องเฮลิคอปเตอร์ ณ หาดดงตาล พัทยาใต้ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2513 สร้างความสะเทือนใจและโศกเศร้าแก่แฟนๆและคนที่รักพระเอกสุดโด่งดังในขณะนั้นเป็นอย่างมาก
เพราะคุณมิตร ถือเป็นบุคลากรคนสำคัญในวงการภาพยนตร์ไทยในเวลานั้นเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่แฟนๆร้องไห้เสียใจ ที่ไปร่วมงานนั้นก็ต่างไม่เชื่อว่าคุณมิตรได้เสียชีวิตลงจริงๆแล้ว จนต้องมีการเปิดฝาโลงเพื่อให้เห็นว่าคุณมิตรนั้นเสียชีวิตลงแล้วจริงๆ สามารถชมภาพบรรยากาศ ภาพงานศพของคุณมิตร ชัยบัญชาในคลิปด้านล่างได้
คงจะพูดได้ว่าบทบาทของฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมอย่าง อินทรีแดง นั้นสำคัญและมีความหมายต่อชีวิตคุณมิตรขนาดไหน ที่ยอมทุ่มเทให้กับบทบาทนี้จนวาระสุดท้ายของชีวิตเขา แม้จะจากไปในบทบาทที่ตัวเองรักมากที่สุดอย่าง อินทรีแดง แต่ก็ยังสร้างความทรงจำให้แก่แฟนๆ ของเขาไว้ไม่รู้ลืม
