รีวิวเทศกาล Big Mountain Music Festival ผ่านความทรงจำของฉันและเธอ

ปิดฉากลงไปแล้ว สำหรับงานมหกรรมดนตรี Big Mountain Music Festival ครั้งที่ 12 คอนเสิร์ตสุดมันส่งท้ายปี 2022 โดยในปีนี้จัดขึ้นวันที่ 10-11 ธันวาคม 2565  ณ ดิ โอเชี่ยน เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา สถานที่ที่เขาว่ากันว่า พื้นที่ขยายเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่าจากปีก่อนๆ อีกด้วย
 
เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด ทำให้เราห่างหายกับเทศกาลดนตรีที่ใหญ่แบบนี้ไปเกือบ 2 ปีด้วยกัน จนปีนี้เราได้กลับมาอีกครั้ง งั้นมาเริ่มกันเลยดีกว่า เริ่มต้นด้วยการเข้างานตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นเวลาที่เดินเข้างาน เห็นได้ว่า ปีนี้คนเยอะมาก (สงสัยจะอัดอั้นกับการกระโดดแบบทิ้งตัวรถติดกระจาย คนเป็นแสน แซวเล่นๆ นะครับ) ปีนี้จะมีเวทีหลักๆ ให้เราเลือกรับชมกันถึง 9 เวที โดยยังไม่รวมเวทีอื่นๆ แบ่งแยกกันไปตามสไตล์ดนตรี เรียกได้ว่าใครชอบฟังอะไร มีให้ฟังทุกสิ่งที่คุณต้องการเลย
 

สำหรับปีนี้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม เพิ่มเติมคือ สถานที่จัดงานที่เข้าไปแล้ว แค่เดินก็เหนื่อยหอบแล้ว ทั้งเดินหาของกิน เพราะร้านอาหารภายในงานเยอะมาก หมูกระทะก็มีนะงานนี้ นอกจากนั้นเครื่องดื่มก็จัดมาแบบครบทุกสูตรกันเลยทีเดียว ซึ่งจุดนี้ต้องขอแนะนำเพื่อนๆ เลยนะว่าให้ฟิตร่างกายมาให้พร้อม หากครั้งหน้าใครที่จะวางแผนเที่ยวเทศกาลดนตรีนี้อีก ด้วยความที่พื้นที่จัดงานกว้างมาก เวทีแต่ละเวทีอยู่ห่างกันพอสมควร ซึ่งหากใครที่ต้องการฟังศิลปินที่ต่างเวทีกันในแต่ละรอบ  อาจจะต้องทำเวลาในการเดิน (หรือบางทีอาจต้องวิ่งเลยนะ) เพื่อให้ไปทันดูศิลปินที่ชื่นชอบ  เพราะด้วยความที่ศิลปินนักร้องเยอะมาก บางวงเล่นแค่ 30 นาที ซึ่งหากเราอยู่อีกเวทีหนึ่งแล้วต้องการดูศิลปินที่อยู่อีกเวทีหนึ่ง แต่ไกลกันมาก อาจจะต้องใช้เวลาเดินทาง และด้วยอีกปัญหาหนึ่งคือคนเยอะมาก ถึงเรารีบแค่ไหนแต่คนอื่นๆ ไม่ได้รีบด้วยนะ แต่เรื่องแค่นี้ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สักเท่าไหร่ ฉะนั้นแล้วเราก็วิ่งสิครับ
 

ตัวตึง BMMF12
หมายถึง คนไปเที่ยวงาน Big Mountain Music Festival ครั้งที่ 12 นี่แหละ ไม่ใช่ใครที่ไหน ก่อนไปก็วางแผนไว้ดิบดีว่าจะไปฟังวงต่างๆ ยืนดูชิวๆ ยืนคูลๆ เสพเสียงเพลง ที่ไหนได้ ไปโผล่หน้าเวทีหมอลำเฉย ใช่ครับตัวผู้เขียนเองเนี่ยละไปโผล่เวทีหมอลำพร้อมกับแฟนเลย ฮ่าๆ

*ระเบียบวาทะศิลป์ ชื่อนี้ ทำไมเราพึ่งเคยได้เจอกันนะ 😬💃🏻  
จากใจแฟนสาวออฟฟิศชาวกรุงเทพของผม ที่นั่งทำงานหลังขดหลังแข็ง รถติดเช้า กลางวันเย็น ผมได้เห็นเขาดูสนุกมากๆ กับเวที Rumwong Bar by Joey Boy x ระเบียบวาทะศิลป์ โดยเป็นเวทีการแสดงสายโจ๊ะ สายสามช่า ที่ศิลปินลูกทุ่งยุคใหม่จะสับเปลี่ยนขึ้นมาโชว์ และทีเด็ดของเวทีคือ วงหมอลำระเบียบวาทะศิลป์ คือไฮไลท์สุดๆ มันสนุกมาก มันเอนจอยที่สุด  

เวทีนี้ทำให้คนแปลกหน้าจากทั่วประเทศ ล้อมวงแดนซ์ด้วยกันอย่างกับสนิทกันมานมนาน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมวงหมอลำที่ชื่อระเบียบวาทะศิลป์ถึงอยู่มาได้ตั้ง 59 ปี ด้วยความที่โชว์การร้องและการเต้นที่อลังการ เหมือนได้ดูโชว์ดีๆ ประกอบกับดนตรีหมอลำพื้นบ้าน สลับจังหวะโจ๊ะๆ เหมือนมันทำให้คนคลายเครียด หายเหนื่อยจากการทำงานแล้วได้มาผ่อนคลายกับดนตรีมันส์ๆ ยกเครื่องดื่มน้ำสีทองมาชนแก้วกัน แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว ระหว่างที่ยืนดูสิ่งนี้อยู่ มันก็ทำให้ผมมันก็ทำให้ผมจินตนาการภาพคนทำงานต่างจังหวัด เสร็จจากการเข้าไร่ เข้านา มาตกเย็น ออกไปงานดนตรี ดูแดนเซอร์ ฟังหมอลำ จิบน้ำสีทองอำพันไปให้หายเหนื่อย ซึ่งจากที่เราจินตนาการเวทีหมอลำต้องที่จะต้องมีแต่คนอายุเยอะ พ่อยก แม่ยกเต็มหน้าเวที แต่ไม่เลย วัยรุ่น หนุ่มสาว วัยทำงาน วัยรุ่นเพียบ ทุกอย่างที่เห็นมันช่างคอนทราสต์กันซะเหลือเกิน แต่ดันเข้ากันได้ดิบดี ยอมให้เวทีนี้เป็นอันดับ 1 ในใจของผมเลยครับ

อบอุ่นทุกครั้งที่เจอกัน Safeplanet 
ก็เหมือนชื่อวงเขาแหละครับ พื้นที่การดูดนตรีตรงนี้ยังเป็นพื้นที่ปลอดภัยของผมเสมอ  
มาดูคอนเสิร์ตทุกครั้งถ้ามี Safeplanet ผมจะพาตัวเองมาอยู่ท่ามกลางเสียงอบอุ่นนี้ให้ได้ ผมคิดว่าการได้ยืนฟังและร่วมร้องเพลง พร้อมโยกตัวเบาๆ ไปกับทุกเพลงของ Safeplanet มันทำให้เรารู้สึกได้รับพลังบวกจากการได้ฟังเพลง และการเสพย์ดนตรี และยิ่งครั้งนี้ แม้อากาศโดยรอบงานจะหนาว แต่เรากลับได้รับความอบอุ่นแปลกๆ อาจจะเพราะเสียงเพลงของ Safeplanet ก็เป็นได้
 
ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะอาบน้ำ ซักผ้า ขับรถ หรือเวลาทำงาน บางครั้ง ถ้าได้มีโอกาสเปิดยูทูบ เพลงของ Safeplanet ทุกเพลงแทบจะอยู่ในเพลลิสท์ที่เราเลือกฟัง มันให้ความรู้สึกดีแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก ยิ่งครั้งนี้ได้ฟังแบบสดมันทำให้เราสบายใจ มันแฮปปี้ มันอบอุ่น เราคิดว่าเพลงแต่ละเพลงของ Safeplanet ไม่ได้ถึงกับเศร้าอะไรมาก ทุกเพลงเหมือนเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนฟังด้วยซ้ำ
 
เราอยากให้คนที่ไม่เคยฟังเพลงของ Safeplanet ลองไปหาฟังกันดูในยูทูบก่อนก็ได้ ถ้าได้ลองฟังจะไม่ผิดหวังแน่นอน ด้วยดนตรีและเสียงร้องที่นุ่ม น่าจะตอบโจทย์หนุ่มสาวคอดนตรี คนที่ชอบฟังเพลงป็อป และผสมผสานไปด้วยกลิ่นอายย้อนยุคนิดๆ ฟังแล้วแฮปปี้อย่างบอกไม่ถูก
 
สุดท้ายแล้วเราอยากจะให้กำลังใจวง Safeplanet ให้ได้สร้างผลงานเพลงดีๆ แบบนี้ออกมาให้เราได้รับชมและรับฟังเรื่อยๆ เพราะวันนี้สิ่งหนึ่งที่เราได้ยินจาก เอ นักร้องนำได้พูดกล่าวขอบคุณทุกๆ คนที่มาให้กำลังใจ  “ขอบคุณทุกๆ คนจริงๆ ที่มาให้กำลังใจเรา ตั้งแต่เริ่มเล่นที่เวทีกระท่อม จนมาปีนี้เราได้มาเล่นเวทีที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม” 

Anatomy Rabbit 
 
ผมชอบเพลงของ Anatomy Rabbit ทุกเพลงเลยนะ ตามดูคอนเสิร์ต ที่มี Anatomy Rabbit มาหลายครั้ง ครั้งล่าสุดตามไปฟังที่งาน Cat Expo 9  หวังว่าสักครั้งหนึ่งจะได้ยินเพลง ‘ธรรมดาแสนพิเศษ | Extraordinary’ แบบสดๆ สักครั้ง เพราะผมค่อนข้างชอบและรู้สึกดีกับเพลงนี้มาก เป็นเพลงที่ผมชอบเปรียบเปรยเพลงนี้ให้กับแฟนว่า ทุกอย่างในเพลงนี้คือเขา 
  
แต่วันนี้ที่งาน Big Mountain Music Festival ครั้งที่ 12 แทบช็อกมาก เขาเล่นเพลง ‘ธรรมดาแสนพิเศษ | Extraordinary’  ซึ่งตัวผมในขณะนั้นยืนอยู่ข้างๆ แฟน ก็ได้แต่อมยิ้มแล้วคิดในใจว่า ตอนนั้นได้ยินแค่เสียง Intro ก็รู้แล้วว่า ต้องเป็นเพลงนี้แน่ๆ ในใจก็คงไม่มีคำพูดไหนที่จะบอกนอกจากคำว่า ‘ดีใจมาก’ เราเคยมอบเพลงนี้ให้แฟน แล้วตอนนี้แฟนยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินเพลงนี้ไปพร้อมกัน มันเซอร์ไพรส์มาก เพราะผมตั้งใจพาแฟนมาฟังเพลงนี้โดยที่ไม่รู้เลยว่า Anatomy Rabbit จะเล่นเพลงนี้หรือไม่ ? 
 
เมื่อผมและแฟนได้ยินเพลงนี้ทั้งสองก็ได้แต่อมยิ้มให้กันไม่หยุด เราทั้งคู่ร้องเพลงนี้ไปพร้อมๆ กับ Anatomy Rabbit ด้วยแหละ มันสร้างความประทับใจให้กับเราทั้งสองมาก 
ถ้าถามว่า ทำไมเพลงนี้ถึงมีความสำคัญสำหรับผมและแฟน ก็เพราะว่าเธอคือความธรรมดาที่แสนพิเศษ  
ความธรรมดาที่เธอมอบให้ แต่มันพิเศษที่สุดในใจผม  เพลงนี้จึงเปรียบเสมือนความรักของเราทั้งคู่ อย่าเพิ่งอ้วกกันครับท่านผู้อ่าน แต่มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ นะ  
จริงๆ ผมอยากให้เพื่อนๆ ที่ไม่เคยฟังเพลงของ Anatomy Rabbit ไปลองฟังกันนะครับ เพลงน่ารักทุกเพลงและทุกอัลบั้มเลย ก็ไม่แน่คุณไปฟังอาจจะมีสักเพลงที่คุณรู้สึกดีกับเพลงๆ นั้นเหมือนผมก็ได้ 
 
สุดท้ายนี้เราอยากบอกเล่าความรู้สึก Big Mountain Music Festival ครั้งที่ 12 จากใจเราว่า สนุกและมันสุดๆ ไปเลยถึงจะเดินไกลหน่อย แต่ก็โอเคนะ ได้ดูวงที่ชอบไปกับคนที่ใช่ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบไปกว่านี้แล้ว