รีวิวร้อนๆ จากผลงานภาพยนตร์รักโรแมนติก,คอมเมดี้ รับช่วงเดือนแห่งเทศกาลความรัก ที่ทีมงาน SPACEBAR การันตีได้เลยว่าถูกใจเหล่าสมาคมคนแอบรัก และจะกลายเป็นอีกหนึ่งในลิสต์หนังที่ต้องดูให้ได้ ซึ่งหนังจะทำให้เรานึกถึงบรรยากาศและช่วงเวลาที่จังหวะความรักของเราอาจไม่ตรงใจกับใครสักคนในช่วงชีวิตนึงกับ OMG!(Oh My Girl) รักจังวะ..ผิดจังหวะ
หนังได้เล่าถึง ‘กาย’ (สกาย-วงศ์รวี) ที่ดันพลาดจังหวะบอกรักกับ ‘จูน’ (จูเน่-เพลินพิชญา) ซึ่งพอพลาดก็คลาดกันยาว...และแล้วมหากาพย์แห่งการรอคอยก็เริ่มต้นขึ้น!ดูเหมือนว่าจังหวะของทั้งคู่จะเป็นได้แค่ความรักที่ถูกคน...แต่ผิดที่ผิดเวลาเสมอ
ทั้งสองห่างกันไปหลายปี กายคิดว่าตัวเองทำใจได้แล้ว จนกระทั่งได้พบจูนอีกครั้ง ถึงรู้ว่าจริงๆ แล้ว ตัวเองนั้นมูฟออนเป็นวงกลมเสมอมา แถมจูนก็มี ‘พี่พีท’ (พีช พชร) แฟนที่แสนดีอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะกลั่นแกล้งให้จังหวะรักของทั้งสองไม่ตรงกันอีกครั้ง.....
แต่คราวนี้ กายตัดสินใจเดินหน้าสู้กับพระเจ้า แม้ว่าจะโดนพระเจ้าสู้กลับ! ช่างแม่งโชคชะตา! ช่างแม่งกติกา! ผิดที่ผิดเวลาแล้วไง! น้อตติงแฮปเพนอันทิวซัมติงมูฟเว้ย!!!
ทั้งสองห่างกันไปหลายปี กายคิดว่าตัวเองทำใจได้แล้ว จนกระทั่งได้พบจูนอีกครั้ง ถึงรู้ว่าจริงๆ แล้ว ตัวเองนั้นมูฟออนเป็นวงกลมเสมอมา แถมจูนก็มี ‘พี่พีท’ (พีช พชร) แฟนที่แสนดีอยู่แล้ว และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะกลั่นแกล้งให้จังหวะรักของทั้งสองไม่ตรงกันอีกครั้ง.....
แต่คราวนี้ กายตัดสินใจเดินหน้าสู้กับพระเจ้า แม้ว่าจะโดนพระเจ้าสู้กลับ! ช่างแม่งโชคชะตา! ช่างแม่งกติกา! ผิดที่ผิดเวลาแล้วไง! น้อตติงแฮปเพนอันทิวซัมติงมูฟเว้ย!!!
ความรู้สึกหลังรับชม OMG! (Oh My Girl) รักจังวะ..ผิดจังหวะ
นี้คือหนังจังหวะนรก(ไม่ใช่คำด่านะครับ บอกไว้ก่อน) มาร้อยเรียงให้เป็นมหกรรมยำรวมจังหวะผิดพลาดแบบที่ไม่น่าให้อภัยในชีวิตมนุษย์คนนึงที่มันจะผิดพลาดอะไรได้ทุกรอบขนาดนี้ ‘ถูกที่ ผิดเวลา’ คือคำนิยามที่หนังนำเสนอออกมาได้ชัดเจนที่สุดแต่เพราะแบบนั้นมันจึงสร้างความสนุกและมุกตลกให้เราขำได้ตลอดทั้งเรื่อง
ชอบการปูเนื้อหาของให้รีเลทกับคนดูด้วยช่วงชีวิตของพระเอกและนางเอกตั้งแต่วัยเรียนมหาลัยลากยาวมาจนถึงวัยทำงานทำให้เราอินตามกับความสัมพันธ์นี้ ที่รอว่าเมื่อไรทั้งสองคนจะลงตัวกันสักที ถ้าบอกว่านี้คือ เพื่อนสนิท เวอร์ชัน 2022 ก็ไม่ผิดเพราะสถานการณ์ปรับเปลี่ยนให้เข้าที่สื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ของคนในยุคนี้
ส่วนตัวละครสมทบทั้งด้านครอบครัว เพื่อนสนิท ยันแฟนแต่ละคนของนางเอก ถือว่ากระจายบทความสำคัญมาผูกโยงให้เข้าเรื่องได้ลงตัว หลายซีนเลือกใช้ตัวละครได้ลงตัวกับสถานการณ์ถูกจังหวะเวลา
หนังสามารถใส่ความเป็น Loser ให้กับตัวละครเรื่องนี้ที่แม้จะดูดีแค่ไหนแต่อีกด้านก็มีข้อเสียในเวลาเดียวกัน ทั้งการปูเรื่องราวของฝั่งพระเอกที่ทั้งบ้านมีแต่พี่สาวกับน้องสาวที่ช่วยซัพพอร์ตและเป็นที่ปรึกษาชีวิตรักของพระเอก ดูเป็นครอบครัวที่มีฐานะ และพระเอกก็ดูไม่มีเรื่องลำบากในชีวิต เว้นแต่ชีวิตรักที่ไม่รอดเอาซะเลย ด้านฝั่งนางเอกที่มีดีคือความสวย น่ารัก แต่ชีวิตก็ถูกรายล้อมด้วยคนที่ไม่ชอบขี้หน้า และคำนินทาต่างๆนานา จนกลายเป็นคนเพื่อน
เคมีของพระเอกนางเอกอย่าง จูเน่-เพลินพิชญา กับ กาย-วงศ์รวี ลงตัวมากๆ จูเน่ ที่มารับบทเป็นางเอกเรื่องแรกก็สามารถแสดงได้มีเสน่ห์ที่แพรวพราว เป็นใครก็ต้องตกหลุมรักแบบมูฟออนไม่ได้แบบเดียวกับพระเอกแน่นอน
ส่วนสกายกับแสดงบทพระเอกขี้แพ้และตลกหน้าตายได้ถึง จังหวะคอมเมดี้ในเรื่องนี้สกายสอบผ่านได้แบบที่เล่นหนังแนวนี้ได้อีกสบายๆ
และด้วยความที่ได้ผู้กำกับหน้าใหม่ที่เคยผ่านงานสายเอ็มวีอย่าง พงศ์ - ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ที่เคยผ่านงานกำกับเอ็มวีเพลงฮิตอย่าง ขอ - Lomosonic หรือ ซ่อนกลิ่น - ปาล์มมี่ มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรก เราจึงได้รับกลิ่นอายความเป็นเอ็มวีจากหนังเรื่องนี้ในหลายต่อหลายซีน รวมถึงการใส่เพลงประกอบและเสียงบรรยายสุดกวนที่เพลินอรรถรสความแหวกเพิ่มความกาวให้กับหนังไปในตัว
ส่วนสกายกับแสดงบทพระเอกขี้แพ้และตลกหน้าตายได้ถึง จังหวะคอมเมดี้ในเรื่องนี้สกายสอบผ่านได้แบบที่เล่นหนังแนวนี้ได้อีกสบายๆ
และด้วยความที่ได้ผู้กำกับหน้าใหม่ที่เคยผ่านงานสายเอ็มวีอย่าง พงศ์ - ฐิติพงศ์ เกิดทองทวี ที่เคยผ่านงานกำกับเอ็มวีเพลงฮิตอย่าง ขอ - Lomosonic หรือ ซ่อนกลิ่น - ปาล์มมี่ มากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลงานเรื่องแรก เราจึงได้รับกลิ่นอายความเป็นเอ็มวีจากหนังเรื่องนี้ในหลายต่อหลายซีน รวมถึงการใส่เพลงประกอบและเสียงบรรยายสุดกวนที่เพลินอรรถรสความแหวกเพิ่มความกาวให้กับหนังไปในตัว
ด้านพาร์ทดราม่าถือว่าทำได้จี้ใจคนเคยผ่านประสบการณ์แอบรักแบบขยี้ให้เจ็บแต่หนังก็ไม่ทำให้เราเศร้ามากเพราะยังมีแอร์ไทม์ของความตลกผสมปนๆ ไม่ให้เรารู้สึกหน่วงจนเกินไป ส่วนตัวรู้สึกชอบเรื่องนี้มากๆ เพราะมีความคล้ายเรื่อง 500 Day of Summer ที่เป็นผลงานแนวอกหักแอบรักอันดับท็อปๆ ในดวงใจ แต่เราค่อนข้างเสียดายช่วงพาร์ทท้ายของเรื่องไปสักหน่อยที่หนังขยี้ดราม่าหนักหน่วงในกับพระเอกและนางเอก แต่หาทางจบได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร จากบริบทที่เป็นจุดเปลี่ยนของตัวละครที่ทั้งเรื่องทำให้เราเอาใจช่วยกันมาตลอด แต่เมื่อหนังเลือกที่จะใส่ดราม่าท้ายเรื่องเพื่อเพิ่มความเรียลมาเรียกน้ำตาคนดูสักนิด
นั้นคือช่วงที่หนังผิดจังหวะมากที่สุด เพราะความไม่สมเหตุสมผลในช่วงท้ายและเร่งจังหวะจบเกินไปหน่อย เลยทำให้เราไม่รู้สึกอินช่วงของพาร์ทก่อนจบและบทสรุปของเรื่องนี้เท่าที่ควร ค่อนข้างน่าเสียดายมากๆ
นั้นคือช่วงที่หนังผิดจังหวะมากที่สุด เพราะความไม่สมเหตุสมผลในช่วงท้ายและเร่งจังหวะจบเกินไปหน่อย เลยทำให้เราไม่รู้สึกอินช่วงของพาร์ทก่อนจบและบทสรุปของเรื่องนี้เท่าที่ควร ค่อนข้างน่าเสียดายมากๆ
ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ก็ยังตรงตามคอนเซปค่าย GDH ที่ตอบโจทย์หนังรักตลกที่ดูง่ายๆ ใครดูก็ต้องยิ้มหัวเราะอินไปตามๆ กัน ส่วนตัวแม้จะเสียบทสรุปของเรื่องนี้ แต่เรื่องนี้ก็ถือว่าน่า 1 ลิสต์หนังแนวแอบรัก ที่อยากแนะนำให้ไปดูกัน ยิ่งใครเคยมีประสบการณ์ร่วมในเรื่องการรอคอยหรือมูฟออนเป็นวงกลม เรื่องนี้คุณไม่ควรพลาดครับ สามารถรับชมได้แล้วผ่าน Netflix แล้ววันนี้