‘เซอร์ไพร์สและมีแต่ความดีงามทั้งผู้จัด วงดนตรีและผู้คน’
นี่คือคำนิยามที่ผมขอมอบให้กับเทศกาล Pelupo International Music Festival 2023 ที่เพิ่งจัดเสร็จสิ้นกันไปเมื่อวันเสาร์ที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นที่ Siam Country Club Pattaya หรือพูดง่ายๆ ก็คือเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นครั้งแรกและเลือกจัดสถานที่ที่ไม่ใช่กรุงเทพมหานครกันไปเลยในหนแรกและถือว่าเป็นงานที่ท้าทายเอามากๆ สำหรับผู้จัดงานในครั้งนี้ แต่ทุกอย่างก็ดูออกมาดีเยี่ยม ชนิดที่หากไม่เขียนรีวิวถึงงานนี้ก็คงจะไม่ได้ ฉะนั้นแล้วก็ขอเข้าเรื่องเลยล่ะกันครับ เพราะต่อจากนี้เราจะทำการรีวิวเทศกาลนี้แบบหมดเปลือก ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้าง ผมได้แบ่งพาร์ทหัวข้อต่างๆ ของเทศกาลครั้งนี้ไว้ดังนี้
สถานที่จัดงาน
อันดับแรกต้องขอเริ่มต้นกันด้วยสถานที่จัดงานที่ Siam Country Club Pattaya ต้องบอกว่า สถานที่แห่งนี้ใช้ในการจัดงานเทศกาลดนตรีมาก่อนหน้านี้แล้วอย่างเทศกาลดนตรี Wonderfruit ทำให้เชื่อว่า งานนี้ผู้จัดน่าจะทำการบ้านมาได้ดีพอสมควรในเรื่องของซาวด์และการดูแลส่วนต่างๆ ของงาน เพราะเมื่อเข้าไปแล้วสิ่งที่น่าสนใจเลยคือ ซาวด์เสียงต่างๆ ในงาน คือ เนี๊ยบและมีมิติพอสมควรมากกว่าหลายๆ เทศกาลดนตรีที่จัดในกรุงเทพมหานครเสียอีก แต่จะติดอยู่ที่การจัดวางแผนผังของงานที่ดูไม่หวือหวาและทำให้เราไม่อยากผจญภัยในงานเท่าที่ควรเพราะ เข้ามาถึงก็เจอเวทีใหญ่เสียแล้ว ฉะนั้นแล้วหากใครที่ไม่ชอบการเดินและไม่ชอบการขยับตัวเท่าไหร่อาจจะไม่จอยเอาได้ในส่วนนี้ แต่รวมๆ ถือว่าโอเค พอเข้าใจได้ที่ต้องตั้งเวทีห่างกันเพราะเรื่องของเสียงและซาวด์ในอากาศที่อยากให้คนฟังเวทีนั้นๆ ได้โฟกัสจริงๆ ยอมได้ครับสำหรับข้อนี้ ส่วนเรื่องของบูธขายอาหารถือว่า ราคาอยู่ในหมวดกลางๆ ไม่ถูกและไม่แพงจนเกินไป ตามราคาเทศกาลดนตรี ถือว่าทำได้ดีเลยตรงนี้ หากอยากให้ปรับในพาร์ทของสถานที่ได้ก็อยากจะให้เพิ่มเรื่องของการผจญภัยในงานเข้าไปหน่อย รวมไปถึงบูธสันทนาการอีกสักนิดจะดีมากๆ เลย (อีกอย่างที่ต้องขอชื่นชมเลยก็คือการมีพื้นที่ให้เด็กวิ่งเล่น ทำกิจกรรมด้วยตรงนี้ถือว่าทำการบ้านมาดีมาก) โดยรวมเรื่องสถานที่จัดงานไม่ติดใจใดๆ เลย เหมาะมากครับไลน์อัพวงดนตรี
เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเฟสติวัลก็คือ การเลือกไลน์อัพวงดนตรีมาเล่นภายในงาน Pelupo International Music Festival 2023 ที่ผสมระหว่าง ดนตรีสายแมส กับ สายอินดี้ ที่เลือกออกมาได้อย่างกลมกล่อมครบรสชาติเอามากๆ จากสายตาของผมที่ไปดูเต็มไปด้วยความหลากหลายที่เข้ากันได้อย่างเหลือเชื่อ ฉะนั้นแล้วในหัวข้อนี้ผมขอรีวิววงดนตรีที่ดูในงานนี้ไปด้วยเลยล่ะกัน-
Summer Salt

Summer Salt กับประสบการณ์การเล่นเฟสติวัลของไทยหนที่ 2 หลังจากที่เคยดูพวกเขามาแล้วเมื่อสมัยที่มา Maho Rasop Festival ครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมกับประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น ความนิ่งและความเก๋าที่สัมผัสได้ทำให้โชว์ของ Summer Salt สามารถหล่อเลี้ยงแฟนเพลงให้อยู่กับพวกเขาไปตั้งแต่ต้นจนจบโชว์ ถือว่า ซาวด์ดีมากๆ สำหรับ Summer Salt แถมเพลงที่เอามาเล่นก็ขนเพลงฮิต เพลงดังมาเอาใจแฟนครบในโชว์นี้
-
Ginger Root

ความมหัศจรรย์ของการจัดงานดนตรีแบบเฟสติวัลก็คือ การที่เราจะได้พบกับวงที่อาจจะไม่เคยฟังมาก่อนในชีวิตและได้เห็นพวกเขาตั้งแต่วินาทีแรกตั้งแต่ขึ้นไปบนเวทีจนถึงการทำความรู้จักผ่านโชว์ของพวกเขาจนเกิดความประทับใจ Ginger Root ให้ความรู้สึกกับเราแบบนี้อีกครั้ง หลังจากไม่ได้รู้สึกมานานกับโชว์วงดนตรีต่างๆ ในรอบหลายปี พวกเขาพกพาความสนุกและความเกรียนมาด้วยในโชว์นี้ ซึ่งจากที่ลองไปฟังเพลงแบบปกติกับแสดงสด ต้องยอมรับเลยว่า ต่างกันมาก แถมเสน่ห์การนำเข้าเพลงแต่ละครั้งก็ไม่ธรรมดาอีกด้วย มีลูกเล่นทั้งเอาเพลงธีมจากการ์ตูนมาใส่, เอาเสียงจากการกดหมายเลขโทรศัพท์มาเริ่มต้นเพลง หรือจะเป็นการกินน้ำเพื่อกล่าวขอบคุณงานนี้กับสปอนเซอร์แบบเกรียนๆ ชนิดที่กินแบบไหนให้จดจำพวกเขาก็ทำมาแล้ว หากจะยกให้วงไหนอยู่ในระดับท็อปของโชว์ครั้งนี้ที่ผมได้ดี วงนี้คือหนึ่งในนั้น
-
Ezra Collective

นี่คือหนึ่งในโชว์ที่ดีที่สุดของงานครั้งนี้กับ Hidden Gem ของไลน์อัพ Pelupo ที่เชื่อว่าหลายคนที่ไปงานครั้งนี้จะรู้สึกเหมือนกันกับความสนุกที่ Ezra Collective วงดนตรีคนผิวสีสัญชาติอังกฤษที่ขนความสนุกในรูปแบบของแจ๊สผสมผสานแนวดนตรีอื่นๆ อาทิเช่น ฮิปฮอป เร็กเก้ โซล เรียกได้ว่าขนมาหมดทุกรูปแบบบนโลกใบนี้ แถมโชว์ของพวกเขามีเพียงแค่เสียงดนตรีที่ล่อเลี้ยงเราให้อยู่ดูจนจบอีกด้วย บอกเลยว่า ตั้งแต่ Ezra Collective ขึ้นจนจบ ทุกคนเต้นและสนุกไปด้วยกับพวกเขาชนิดที่เต้นกันลืมตายไปเลย แนะนำให้ทุกคนฟังครับสำหรับวงนี้ ของดีเด็ดแน่นอน
-
MEN I TRUST

อีกหนึ่งวงที่เพิ่งมาไทยไปไม่นานมานี้ แต่คุณภาพและการแสดงไม่เคยลดลงเลยในการแสดงแต่ละครั้งของ Men I Trust ที่ยิ่งเล่นยิ่งดี แม้เพลงจะมีบีทอยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็เอาผู้คนอยู่ทุกครั้งที่พวกเขาโชว์ ในงานครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ระยะเวลาเล่นจะอยู่ในระดับของงานเฟสติวัลแต่งานนี้ก็เอาคนดูอยู่หมัด แถมยิ่งพอมีคนดูที่เติมเต็มฟีล ยิ่งทำให้วงขับพลังแห่งความสุขออกมาชนิดที่ฟังเพลงแล้วลอยตามได้เลยก็ว่าได้ มาตรฐานดีเสมอครับสำหรับ Men I Trust
-
King Of Convenience

ทุกคนรอคอยที่จะได้เจอพวกเขา ทุกคนรอคอยที่จะได้ดูพวกเขาสดๆ กับสายตาของตัวเองกับ King Of Convenience ที่แฟนเพลงหลายคนรอคอยกันมานานมากกว่าจะมาเล่นสดๆ ที่ประเทศไทยให้เราได้ดูเสียที ซึ่งในงานครั้งนี้ก็ไม่ทำให้การรอคอยของทุกคนต้องผิดหวัง วงจัดเต็มทั้งซาวด์ ทั้งลูกเล่นต่างๆ ที่แฟนเพลงคาดหวังจะได้ดูมาอย่างครบถ้วน ชนิดที่วงเล่นจบแล้วอารมณ์ไม่จบลงเวทีมาถ่ายรูปกับแฟนเพลงอย่างเป็นกันเองอีกด้วยในงานครั้งนี้ หากจะบอกว่าวงไหนคือตัวท็อปของงานอีกวง โชว์ของ King Of Convenience ตอบคำถามทุกอย่างเป็นอย่างดีครับ
-
Phoenix

วงปิดงานที่ขึ้นเล่นในห้วงเวลาตี 1.15 น. กับสภาพของผู้ชมที่พร้อมเอาแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ในใส่ในโชว์นี้ของพวกเขากับ Phoenix ที่ทำทุกอย่างได้สมศักดิ์ศรีวงปิดจริงๆ ในงาน Pelupo ครั้งนี้ โชว์ของพวกเขา 90 นาทีสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคนดูได้ตลอด ทั้งเพลงฮิต เพลงจากอัลบั้มใหม่ เพลงที่หลายคนอยากฟัง Phoenix ขนมาหมด อีกทั้งในแง่ของวิชวลต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนเวทีพวกเขาก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่รู้จะหาคำไหนมาบอกนอกจากดีมาก ดีจริงๆ ดีได้อีก และควรดูสักครั้งในชีวิตก่อนตาย

ผู้ชมที่น่ารักทำให้งานนี้สนุกเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับงานนี้และทำให้เรารู้สึกสนุกเพิ่มขึ้นก็คือ ผู้คนในงานที่ไม่ได้มีจำนวนมากเกินไปและน้อยจนเกินไปแถมเจอผู้คนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่างมากมายเต็มไปหมด ทำให้ไวป์การดูคอนเสิร์ตเต็มไปด้วยคนที่พร้อมจะมาสนุกและสุดเหวี่ยงกับดนตรีใน Pelupo และยิ่งทำให้รู้ว่า ถ้าคนที่สนุกสร้างพลังและมวลความสนุกไปพร้อมกัน มีแต่พลังงานที่ดีเกิดขึ้นมากมายในงานนี้
สิ่งที่ต้องแก้ไขและปรับปรุงอีกนิด Pelupo จะแจ่มแน่นอน
แม้โดยรวมจะมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นมากมายในงานครั้งนี้ แต่ Pelupo ก็มีจุดที่ต้องแก้ไขอยู่นิดนึงเหมือนกัน เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบกว่านี้ ทั้งในเรื่องของระยะเวลาในการจัดเฟสติวัลที่เมื่อลองเอาวงดนตรีมาเรียงไลน์อัพดูแล้ว เวลาจบของวงสุดท้ายคือ 2.45 น. ทำให้มันลากยาวเกินไปสำหรับแฟนๆ ที่มาตามดูจะสังเกตได้ว่า วงสุดท้ายทุกคนก็ตาปรือพร้อมนอนกันหมดแล้ว (แต่เราเห็นการแก้ไขแล้วเพราะใน Pelupo 2024 จะมี 2 วันด้วยกัน เย้!) รวมไปถึงเรื่องของพื้นที่การดูดบุหรี่ที่อาจจะต้องมีการจัดโซนอย่างเป็นทางการอีกนิดนึง เพราะนั่งอยู่มีทั้งกลิ่นบุหรี่และกัญชาเต็มไปหมดเลยในงานครั้งนี้ หากมีโซนได้จะดีมากๆ เรื่องสุดท้ายก็คือ ระยะทางในการเดินและการสร้างประสบการณ์ในการดูเทศกาลนี้ว่า ทำอย่างไรจะทำให้คนเข้าไปได้ทุกส่วนของงานแบบอัตโนมัติ ตรงนี้ถ้าสร้างได้บอกเลยว่า งาน Pelupo จะเป็นงานที่ผมปักหมุดไปทุกปีอย่างแน่นอนสุดท้ายนี้แม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่จัดงานนี้ขึ้นมา แต่ Pelupo International Music Festival ก็สร้างมาตรฐานการจัดงานครั้งแรกออกมาได้ดีมากๆ และเป็นอีกงานที่ทุกคนควรไปสัมผัสประสบการณ์ดีๆ แบบนี้ครับ แม้จะเป็นการจัดที่ต่างจังหวัด แต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหา หากเทศกาลดนตรีนั้นดีจริง ใครๆ ก็อยากไป
ขอสนับสนุนผู้จัดให้มีงานนี้ต่อไปในปีข้างหน้าอีกยาวนานเลย เอาใจช่วยนะครับ