SPACE REVIEW: Guardian of the Galaxy Vol.3 งานสั่งลาปิดไตรภาคของผู้กำกับเจมส์ กันน์ กับทีมฮีโร่สายเกรียน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงหลังๆ มานี้ ผลงานฮีโร่ของจักรวาล MCU ค่อนข้างมาตราฐานตกไปเยอะและไม่ดีเท่าที่เคยทำมาจนแฟนคลับผิดหวังไปตามๆกัน แต่ในที่สุดงานกู้หน้าของฮีโร่มาเวลกลับมาสักทีกับ Guardian of the Galaxy Vol.3 งานอำลาการกำกับฮีโร่ฝั่งมาเวลของผู้กำกับ เจมส์ กันน์ ที่จะข้ามค่ายไปเป็นประธานคอยกุมบังเหียนของจักรวาลฮีโร่ DC แทน  
 
ทีม SPACEBAR ได้มีโอกาสร่วมชมในรอบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขอจัดเต็มรีวิวถึงความดีงามของการปิดไตรภาคฮีโร่กลุ่มนี้ที่บอกได้เลยว่า ทัชใจแฟนคลับฮีโร่กลุ่มนี้แน่นอน

Guardian of the Galaxy Vol.3 สานต่อเรื่องราวของเหล่ากลุ่มผู้พิทักษ์จักรวาลที่เริ่มต้นชีวิตใหม่บนดาว Knowhere ขณะเดียวกันปีเตอร์ ควิลล์ หรือ สตาร์ ลอร์ด ที่ยังเสียใจกับการจากไปของกาโมร่า แต่เมื่อเกิดเรื่องที่ทำให้ 1 ในสมาชิกทีมอย่าง ร็อคเก็ต ต้องได้รับบาดเจ็บปางตาย เขาจึงต้องรวมทีมเหล่าสหาย กับภารกิจสุดท้าทายเพื่อช่วยชีวิตของร็อคเก็ต โดยภารกิจในครั้งนี้มีชีวิตของทุกคนเป็นเดิมพันการตามหาอดีตของ ร็อคเก็ต และการปะทะกับวายร้ายสุดโรคจิตที่คิดจะวิวัฒนาการเหล่าสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่อย่าง High Evolutionary

ความรู้สึกหลังชม Guardian of the Galaxy Vol.3 

ถือว่าเป็นผลงานที่กลับมากู้หน้าตาของฮีโร่ฝั่งจักรวาล MCU ได้ถูกจังหวะ หลังจากผลงานในช่วงหลังๆ จะทำออกมาไม่น่าประทับใจเท่าที่เคยเป็น สำหรับ ทีมการ์เดี้ยนในภาคนี้ถือว่าเป็นงานปิดไตรภาคของเจมส์ กันน์ ที่จะกำกับฮีโร่กลุ่มนี้เป็นครั้งสุดท้าย ก็เลยจัดเต็มทุกรสชาติอย่างจุใจ ทั้งสุข ซึ้งรวมถึงน่าจะเป็นภาคนี้มีเนื้อหาที่แสนจะดาร์คเต็มสูบและหดหู่สะเทือนใจที่สุดเท่าที่ MCU เคยทำมา 
 
หลังจาก Vol.1-2 นั้นจะเน้นเรื่องราวไปที่ ปีเตอร์ ควิลล์, แดร็กซ์, กามอร่า, เนบูล่า, เมนทีฟและกรูท โดยที่หนังทั้งสองภาคจะพยายามหยอดบทเรื่องราวในอดีตของ ร็อคเก็ต มานิดๆหน่อยๆ ภาคนี้เราจะได้รู้ถึงอดีตสุดดำมืดของตัวละครนี้ว่าเคยผ่านเรื่อราวอะไรมาบ้าง หนังเลยดำเนินเรื่องเน้นไปที่ตัวละครนี้เป็นหลัก แต่แค่เปิดเรื่องมาก็ทำเอาใจคอแฟนคลับคนดูใจไม่ดีตามไปด้วยเพราะเล่นจั่วหัวที่การบาดเจ็บของร็อคเก็ตที่เข้าขั้นปางตาย  

ภาคนี้จึงให้อารมณ์ความลุ้นระทึกพ่วงมาด้วยเพราะเป็นการสั่งลาปิดไตรภาค มันทำให้เหล่าคนดูต้องมารอลุ้นว่าจะสมาชิกในทีมคนไหนจะอยู่หรือจากไปในภาคนี้หรือเปล่า เพราะบริบทแต่ละตัวละครในภาคนี้ค่อนข้างจะเจอภารกิจที่สุ่มเสี่ยงกับการเอาชีวิตรอด 

อีกส่วนที่ค่อนข้างจะแตกต่างและโดดเด่นสำหรับภาคนี้คือเนื้อหาที่ถูกนำเสนออาจจะพูดได้เลยว่าเป็นหนังฮีโร่ของ MCU ที่เนื้อหาแสนจะหดหู่และมืดหม่นที่สุดแล้วในตอนนี้ แม้สองภาคที่แล้วจะมีความดราม่าให้เห็นแต่ก็ยังไม่ดำดิ่งเท่าภาคนี้ บอกไว้ก่อนเลยว่าใครที่ไม่ชอบเรื่องการนำสัตว์มาทดลองหรือการทรมานสัตว์ อาจจะต้องทำใจก่อนที่จะดูเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่นำเสนอในภาคนี้ค่อนข้างน่าหดหู่ รวมถึงการที่มีวายร้ายเป็นพวกคลั่งการสร้างและวิวัฒนาการเผ่าพันธุ์อย่าง High Evolutionary เราจะได้เห็นความโหดร้ายทารุณแบบโรคจิตสุดขั้ว ถือว่าเป็นวายร้ายอีกตัวที่ทำออกมาได้ดีและแสนน่ารังเกียจในเวลาเดียวกัน ยิ่งคนรักสัตว์เตรียมเกลียดวายร้ายตัวนี้ได้เลยครับ 

แม้จะบอกว่าเป็นภาคที่หดหู่แต่ก็ยังไม่ทิ้งเอกลักษณ์ทั้งการใส่บทเพลงช่วงปี 80-90 ที่หลังดูจบยังไงเราก็ต้องไปหาซาวด์แทร็คประกอบที่มีในหนังมาฟังเช่นเคย รวมถึงงานขายความคอมเมดี้สุดเกรียน เราก็ยังคงขำกับพาร์ทตลกแบบบ้าบอตลกหน้าตายสไตล์แดร็กซ์ และเพิ่มเติมความอ่อนโยนให้เห็นในภาคนี้ น่าจะเป็นภาคที่เราได้เห็นมุมความเป็นมนุษย์ที่มีหัวจิตหัวใจของสมาชิกแต่ละคนในทีมมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา พร้อมกับตัวขโมยซีนที่ตอนโผล่แม้จะเท่แค่ไหนไปๆ มาๆ ดันขายฮามากกว่าเหล่าทีมการ์เดี้ยนอีกกับตัวละครที่หลายคนรอการปรากฏตัวอย่าง อดัม วอร์ล็อค ที่มากี่ฉากก็โดดเด่นพร้อมขโมยซีนแม้บทบาทอาจจะไม่เยอะในภาคนี้แต่อนาคตโดดเด่นแน่นอน

ในส่วนของซีนแอ็กชันที่หลังๆ มารู้สึกว่าหนังฮีโร่มาเวลจะไม่ค่อยมีความโดดเด่นและไม่ค่อยว้าวกับช่วงฉากแอ็กชันสักเท่าไร แต่สำหรับเรื่องนี้ เจมส์ กันน์ ปล่อยของให้เราว้าวในซีน Long Take โชว์งานบู๊ช่วงรวมตัวทีมการ์เดี้ยนไฝว้กับกลุ่มวายร้ายคือว้าวจนไม่อาจจะละสายตา แม้บทบาทในภาคนี้จะโดดเด่นไม่กี่ตัวเพราะตัวละครเยอะ แต่พอเข้าฉากซีนแอ็คชันเท่านั้นแอร์ไทม์โชว์เท่ของตัวละคนไม่น้อยหน้ากันเลย เป็น Long Take ที่ดีงามที่สุดในตอนนี้สำหรับฮีโร่มาเวล ส่วนที่ดีอีกส่วนของเรื่องนี้คือการเดินเรื่องที่โฟกัสไปที่แฟรนไชส์ของตัวเองเป็นหลักโดยไม่เน้นการเชื่อมโยงจักรวาลแบบเรื่องอื่นๆ ที่ MCU ทำจนหลังๆ ค่อนข้างเละเทะในการดูแลความเชื่อมโยงของเนื้อหาในอนาคต แต่เรื่องนี้คนดูสามารถดูแค่สองภาคที่แล้วและมาดูภาคนี้ก็อินตามได้ไม่ยาก

ภาพรวมอาจจะไม่ได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับ MCU แต่เป็นงานปิดไตรภาคในการกำกับของ เจมส์ กันน์ ในการกลับมาอำลาทีมลูกรักที่ตั้งต้นกันมาได้แบบทำคนดูซึ้งและมีน้ำตากันถ้วนหน้า และคงถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับทีมฮีโร่เรื่องนี้ ส่วนตัวเรื่องนี้กลายเป็นอีกงานขึ้นหิ้งถัดจาก IRON Man  และ Captain America เป็นอีกไตรภาคของมาเวลที่ทัชใจคนดูแบบครบรส รวมถึงกลับมากู้หน้า MCU และส่งท้ายเจมส์ กันน์ ได้อย่างสวยงาม 
 
หนังเข้าฉาย 3 พฤษภาคมนี้ (มีฉากท้ายเครดิต 2 ตัวครับ)