ในที่สุดก็มาถึงเมืองไทยแล้วสำหรับ ‘THE WORLD OF STUDIO GHIBLI’S ANIMATION EXHIBITION BANGKOK 2023’ หลังจากสร้างปรากฎการณ์ด้วยผู้ชมนับล้านคนจากนิทรรศการเดียวกันที่เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน เมื่อปี 2017 คราวนี้ ไลฟ์ เนชั่น เทโร เลยจับมือร่วมกับ สตูดิโอจิบลิ ขนเอานิทรรศการมาให้แฟนต่างประเทศสัมผัสกับความอลังการด้วยตาตัวเอง ทำให้งานนี้กลายเป็นนิทรรศการจากสตูดิโอจิบลิที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยงานครั้งนี้เริ่มไปแล้วตั้งแต่ 1 กรกฎาคม และจะมีไปจนถึง 30 กันยายน ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ไลฟ์ ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ บัตรราคา 650 บาท ซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์และเว็บไซต์ หรือบริเวณหน้างานได้เลย
ซึ่ง Spacebar VIBE ก็มีโอกาสได้ไปร่วมสำรวจโลกแห่งจินตนาการครั้งนี้ก่อนวันเปิดจริงด้วย เราเลยอยากเอาบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ มารีวิวให้ทุกคนกันด้วย เผื่อใครไม่มีเวลาไป หรือยังลังเลอยู่ ก็อ่านรีวิวของเราประกอบการตัดสินใจได้เลย จะมีเรื่องไหน และแต่ละเรื่องมีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามไปพร้อมกันได้เลยครับ
ซึ่ง Spacebar VIBE ก็มีโอกาสได้ไปร่วมสำรวจโลกแห่งจินตนาการครั้งนี้ก่อนวันเปิดจริงด้วย เราเลยอยากเอาบรรยากาศเล็กๆ น้อยๆ มารีวิวให้ทุกคนกันด้วย เผื่อใครไม่มีเวลาไป หรือยังลังเลอยู่ ก็อ่านรีวิวของเราประกอบการตัดสินใจได้เลย จะมีเรื่องไหน และแต่ละเรื่องมีอะไรน่าสนใจบ้าง ติดตามไปพร้อมกันได้เลยครับ
สำหรับนิทรรศการในครั้งนี้จะมีกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ของงานด้วยก็คือให้เราเก็บตัวปั๊มของแอนิเมชันเรื่องต่างๆ ที่นำมาจัดแสดงให้ครบ ซึ่งจะอยู่ตามจุดต่างๆ เริ่มตั้งแต่ทางเข้างาน และตามโซนของแต่ละเรื่อง โดยจุดต่อแถวเข้าสู่นิทรรศการก็จะเป็นเหมือนกับ Poster Wall ที่รวมโปสเตอร์ของภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ทางสตูดิโอจิบลิสร้างมาทั้งหมด และก็จะมีเครื่องบินของนาชิกา จากเรื่อง Nausicaä of the Valley of the Wind รอต้อนรับแฟนๆ อยู่ด้วย
Howl's Moving Castle
เรื่องแรกที่เราได้เจอหลังจากเข้างานเลยก็คือ ปราสาทเวทมนตร์ ขยับได้สุดอลังการจากเรื่อง Howl's Moving Castle ที่บอกเลยว่าใหญ่แบบน่าตื่นตาตื่นใจมากๆ นอกจากนี้ก็ยังมีการจำลองฉากอื่นๆ เช่น ร้านขายหมวกที่ โซฟี ทำงานอยู่, บรรยากาศภายในของปราสาทเวทมนตร์ และ ยังมีภูตไฟ Calcifer สุดน่ารักกระพริบส่องแสงอยู่ได้
Laputa: Castle in the Sky
เรื่องถัดมาคือ Laputa: Castle in the Sky ที่มี ชีต้า สาวน้อยแห่งเมืองลอยฟ้า รอต้อนรับอยู่ในโซนแรก รวมไปถึงฉากสวยๆ อีกหลายฉากไม่ว่าจะเป็น ปราสาทลอยฟ้า, ฉากที่ ปาซู และ ชีต้า โดนไล่ล่าจากเหล่าโจรสลัด ทหาร และหน่วยสายลับ และฉากของ Robot Soldier ที่ทั้งเมืองกลายเป็นทะเลเพลิง
Kiki’s Delivery Service
ต่อด้วยแอนิเมชันแนว Coming of Age เรื่องโปรดของใครหลายๆ คนจากสตูดิโอจิบลิอย่าง Kiki’s Delivery Service หรือ แม่มดน้อยกิกิ ที่มีฉากน่ารักๆ ของ กิกิ กับ จิจิ น้องแมวดำตัวโปรดนั่งในร้านขนมปังที่เธอทำงานอยู่, ฉากห้องแล็บของ โคกิริ แม่มดผู้เป็นแม่ของ กิกิ ที่เป็นคนเอาต้นไม้ต่างๆ มาปรุงเป็นยาแจกจ่ายให้กับหมู่บ้าน, จักรยานลอยฟ้าของ ทอมโบะ, จดหมายจาก กิกิ ที่เขียนถึงที่บ้านน และ มีให้เราถ่ายรูปกับฉากโหนบอลลูนในเรื่องด้วย
Porco Rosso
ถัดมาเป็นฉากของภาพยนตร์แอนิเมชันที่น่าจะตลกสุดในจักรวาลของสตูดิโอจิบลิแล้วอย่าง Porco Rosso ที่เป็นการผจญภัยเหินเวหาเหนือทะเลเอเดรียติกของ พอร์โค รอสโซ กัปตันในร่างหมูที่ช่วยเหลือคนจากโจรสลัด ซึ่งก็มีฉากที่ พอร์โค รอสโซ นั่งพักร้อนอยู่ที่ชายหาด และ เครื่องบินคู่ใจอย่าง Savoia S-21 ของเขาที่ได้ ฟิโอ วิศวกรการบินสาว และ มาดามจีน่า เพื่อนสนิทของพอร์โค ที่ช่วยกันสร้างเครื่องบินให้เขาได้กลับไปสู้อีกครั้ง
My Neighbor Totoro
ต่อด้วยแอนิเมชันยอดฮิตที่สุดเรื่องหนึ่งตลอดกาลของสตูดิโอจิบลิอย่าง My Neighbor Totoro ที่เด็กๆ ต่างคลั่งไคล้ในตัวของ โทโทโร่ ภูตตัวยักษ์แห่งผืนป่า และ รถบัสแมว กันแบบสุดๆ โดยฉากไฮไลท์ที่เอามาจัดแสดงก็เริ่มตั้งแต่ทางเดินเข้าโซนที่จำลองให้เป็นเหมือนป่า, ฉากป้ายรถเมล์ในตำนาน, จดหมายที่น้อง ซะสึกิ เขียนไปบอกแม่ว่าเธอเจอ โทโทเร่ และ ฉากที่ ซะสึกิ กับ เม สองพี่น้องนั่งรถบัสแมวเอาข้าวโพดไปส่งให้แม่ของพวกเธอ
Pom Poko
ถัดมาก็เป็นเรื่อง Pom Poko อีกหนึ่งภาพยนตร์แอนิเมชันของสตูดิโอจิบลิที่เคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ถ่ายทอดเรื่องราวของเหล่า ทานูกิ ที่โดนรุกรานจากการสร้างสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ เลยต้องเรียนรู้วิธีรับมือกับมนุษย์ ด้วยการฝึกฝนตัวเองให้กลายร่างเป็นผี มังกร และสิ่งเหนือธรรมชาติ เพื่อให้มนุษย์กลัวและยุติโครงการก่อสร้างนี้ โดยฉากไฮไลต์ที่ยกมาก็คือบ้านของเหล่าทานูกิ ที่บอกเลยว่าเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังมากๆ
Princess Momonoke
ต่อด้วยอีกหนึ่งผลงานชิ้นเอกของสตูดิโอจิบลิ และ ฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้ก่อตั้ง กับเรื่อง Princess Momonoke เรื่องราวของ อะชิทากะ นักรบหนุ่มที่เดินทางไปหาวิธีรักษาคำสาปมรณะ และได้พบกับ เจ้าหญิงโมโนโนเกะ เด็กสาวที่ถูกเทพหมาป่าเก็บมาเลี้ยง ที่คอยต่อสู้กับมนุษย์ที่จะมาทำลายบ้าน วิญญาณแห่งป่าและสัตว์เทพที่อาศัยอยู่ที่นั่น ซึ่งฉากไฮไลท์ก็คือผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ในแอนิเมชันเรื่องนี้
Spirited Away
ปิดท้ายกันด้วยผลงานระดับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม อย่างเรื่อง Spirited Away ที่ครองใจใครหลายคนทั่วโลก และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์แอนิเมชันที่ได้รับเสียงวิจารณ์ชื่นชมมากที่สุดตลอดกาลของสตูดิโอจิบลิ โดยแต่ละฉากที่ยกมาแสดงก็ต้องบอกเลยว่าอลังการมากๆ อย่างเช่น ฉากยืนหน้าโรงอาบน้ำสุดยิ่งใหญ่ของ จิฮิโระ และ ฉากคาโอนาชิและรถไฟแห่งวิญญาณเป็นอย่างไรกันบ้างครับกับความน่าสนใจและความน่ารักของงาน ‘THE WORLD OF STUDIO GHIBLI’S ANIMATION EXHIBITION BANGKOK 2023’ นิทรรศการจากสตูดิโอจิบลิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกเลยว่าคุ้มมากๆ สำหรับราคาบัตร 650 บาท ยิ่งใครเป็นแฟนบอยของจิบลิบอกเลยว่าได้หอบความฟินแบบใจฟูกลับบ้านไปแบบเต็มๆ แน่นอน… อ้อ แล้วก็อีกเรื่องอย่าง โปเนียว Ponyo on the Cliff by the Sea ไม่ได้อยู่ในตัวงาน แต่จัดแสดงอยู่ที่หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งถนนพระราม 1 และ อย่าลืมไปตามหา Easter Egg ของไทยอย่าง ทุเรียน น้ำแดง และ ข้าวเหนียวมะม่วง ในงานด้วยนะครับ ถ้าใครที่เจอแล้วก็อย่าลืมมาคอมเมนต์อวดพวกเรากันด้วยนะ
