นับว่าเป็นประเด็นเดือดมากพอสมควรสำหรับโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในคอมมูนิตี้แฟนคลับศิลปินเกาหลี เมื่อล่าสุด เหล่าเลิฟลี่ (10vely) แฟนคลับของศิลปินหนุ่มชาวไทย ที่ดังไกลระดับโลกอย่าง เตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ไอดอลนุ่มจากวงบอยกรุ๊ปขนาดใหญ่อย่าง NCT ที่มีศิลปินในวงมากถึง 20 คน และยังอยู่ในวงยูนิตย่อยอย่าง WayV ซึ่งเป็นวงยูนิตที่สร้างขึ้นมาเพื่อโปรโมตผลงานในประเทศจีนมีสมาชิกทั้งหมด 6 คน รวมถึงยังได้เป็นหนึ่งในสมาชิกวง SuperM วงที่ได้รับขนานนามว่าเป็นวงอเจนเจอร์ของค่าย SM Entertainment ที่มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน ซึ่งเป็นการรวมตัวของเหล่าไอดอลตัวท็อปในแต่ละวงของค่าย
เตนล์ ได้เดบิวต์กับทางค่าย SM Entertainment อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปี 2016 กับยูนิต NCT U – 7Senses และหลังจากนั้น ก็ได้มีการเดบิวต์อีกครั้งในปี 2019 กับวง WayV ต่อมาในปีเดียวกัน เตนล์ได้เดบิวต์อีกครั้งในวง SuperM ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เตนล์ยังคงสร้างสรรค์ผลงานออกมาเรื่อยๆ รวมถึงล่าสุด ที่ได้เป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ทางด้านแฟชั่น กับการร่วมงานกับทางแบรนด์ YSL และได้สร้างชื่อเสียงอย่างถล่มทลาย
แต่หารู้ไม่ว่า การโปรโมทของเตนล์เกือบจะทุกอย่างที่เป็นผลงานเดี่ยว ไร้เงาทางค่ายออกมาทำโปรโมทเพื่อสนับสนุนผลงาน และมีเพียงเหล่าแฟนคลับเท่านั้น ที่ช่วยกันโปรโมทผลงานให้กับศิลปินหนุ่มผ่านทางช่องทางออนไลน์ นั่นจึงทำให้แฟนๆ เกิดความไม่พอใจอย่างมาก
ล่าสุดเหล่าแฟนๆ ได้ออกมารวมตัวกันทั่วโลก เพื่อเรียกร้องให้ทางค่าย SM Entertainment ออกมาเทคแอ็กชันเกี่ยวกับการโปรโมทผลงานของเตนล์ โดยทางแฟนคลับ ได้ออกเอกสารแถลงการณ์จุดยืนของแฟนคลับที่สนับสนุนเตนล์อย่างต่อเนื่องออกมาถึง 10 ภาษา ประกอบด้วย ไทย อังกฤษ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ดัตช์ สเปน โปรตุเกส อาราบิก และ เวียดนาม
ในเนื้อความของคำแถลงการณ์ได้กล่าวถึงความไม่เป็นธรรมของการดูแลศิลปินที่ชื่อ เตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ทั้งในเรื่องของการโปรโมทผลงาน รวมไปถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะล่าสุดมีข่าวว่า เตนล์ ถูกแฟนคลับต่างชาติรายหนึ่ง ถ่ายภาพข้อมูลส่วนตัวในหน้าพาสปอร์ต ที่สนามบินในขณะเช็กอินเพื่อเดินทางด้วย
โดยสำหรับแนวทางปฏิบัติในการบอยคอตค่าย SM Entertainment ขั้นแรกของเหล่าแฟนคลับ ประกอบด้วย...
ส่วนในเรื่องคำแถลงการณ์ทั้งหมดฉบับภาษาไทย สามารถกดเข้าไปอ่านฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยค่ะ
เตนล์ ได้เดบิวต์กับทางค่าย SM Entertainment อย่างเป็นทางการเมื่อช่วงปี 2016 กับยูนิต NCT U – 7Senses และหลังจากนั้น ก็ได้มีการเดบิวต์อีกครั้งในปี 2019 กับวง WayV ต่อมาในปีเดียวกัน เตนล์ได้เดบิวต์อีกครั้งในวง SuperM ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เตนล์ยังคงสร้างสรรค์ผลงานออกมาเรื่อยๆ รวมถึงล่าสุด ที่ได้เป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์ทางด้านแฟชั่น กับการร่วมงานกับทางแบรนด์ YSL และได้สร้างชื่อเสียงอย่างถล่มทลาย
แต่หารู้ไม่ว่า การโปรโมทของเตนล์เกือบจะทุกอย่างที่เป็นผลงานเดี่ยว ไร้เงาทางค่ายออกมาทำโปรโมทเพื่อสนับสนุนผลงาน และมีเพียงเหล่าแฟนคลับเท่านั้น ที่ช่วยกันโปรโมทผลงานให้กับศิลปินหนุ่มผ่านทางช่องทางออนไลน์ นั่นจึงทำให้แฟนๆ เกิดความไม่พอใจอย่างมาก
ล่าสุดเหล่าแฟนๆ ได้ออกมารวมตัวกันทั่วโลก เพื่อเรียกร้องให้ทางค่าย SM Entertainment ออกมาเทคแอ็กชันเกี่ยวกับการโปรโมทผลงานของเตนล์ โดยทางแฟนคลับ ได้ออกเอกสารแถลงการณ์จุดยืนของแฟนคลับที่สนับสนุนเตนล์อย่างต่อเนื่องออกมาถึง 10 ภาษา ประกอบด้วย ไทย อังกฤษ เกาหลี จีน ญี่ปุ่น ดัตช์ สเปน โปรตุเกส อาราบิก และ เวียดนาม
ในเนื้อความของคำแถลงการณ์ได้กล่าวถึงความไม่เป็นธรรมของการดูแลศิลปินที่ชื่อ เตนล์-ชิตพล ลี้ชัยพรกุล ทั้งในเรื่องของการโปรโมทผลงาน รวมไปถึงการดูแลเรื่องความปลอดภัย เพราะล่าสุดมีข่าวว่า เตนล์ ถูกแฟนคลับต่างชาติรายหนึ่ง ถ่ายภาพข้อมูลส่วนตัวในหน้าพาสปอร์ต ที่สนามบินในขณะเช็กอินเพื่อเดินทางด้วย
โดยสำหรับแนวทางปฏิบัติในการบอยคอตค่าย SM Entertainment ขั้นแรกของเหล่าแฟนคลับ ประกอบด้วย...
- งดสตรีมเพลงที่มาจากวง WayV, NCT, SuperM รวมไปถึงผลงาน ดูโอ้ และผลงานจากทุกยูนิต ทุกวง ที่เตนล์อาจจะมีส่วนร่วม และผลิตออกมาในอนาคต
- หยุดการเชิญชวนให้แฟนคลับและคนที่ไม่ใช่แฟนคลับ ซื้อหรือสนับสนุนอัลบั้มของวง รวมไปถึงสินค้าต่างๆ ที่ผลิตออกมาเพื่อจัดจำหน่ายในนามวง เว้นแต่อัลบั้มหรือสินค้านั้นๆ จะผลิตออกมาในนามของ เตนล์ คนเดียวเท่านั้น
- จะไม่สนับสนุนในด้านการโปรโมท ทั้งการโพสต์หรือกระจายข่าวสารในช่องทางต่างๆ รวมถึงบทความจากสื่อที่กล่าวถึงวง โดยที่เตนล์ไม่ใช่ประเด็นหลัก และในกรณีที่มีภาพหรือวิดีโอที่เป็นงานรวมที่มาจากแอคเคาท์ของวง หรือของค่าย ทางแฟนคลับจะโปรโมทในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเตนล์เพียงนั้น
- แฟนคลับพร้อมที่จะสนับสนุนผลงานจากแอคเคาท์ของทางวงและทางค่ายเช่นเดิม เมื่อคอนเทนต์นั้นๆ จะเป็นงานเดี่ยวของเตนล์เท่านั้น
ส่วนในเรื่องคำแถลงการณ์ทั้งหมดฉบับภาษาไทย สามารถกดเข้าไปอ่านฉบับเต็มได้ที่ลิงก์ด้านล่างเลยค่ะ