ทุกคนรู้ว่าการหัวเราะทำให้รู้สึกดี แต่รู้หรือไม่ว่าการหัวเราะยังมีผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของเราในแต่ละวันด้วย แม้การหัวเราะจะไม่ได้ช่วยให้หายขาดจากความเจ็บป่วยต่างๆ ได้ แต่มันช่วยในการบรรเทาและลดอาการแทรกซ้อนของสิ่งต่างๆ ช่วยผ่อนคลายความเครียดและมีความสุขจนเกิดเป็น World Laughter Day หรือวันแห่งการหัวเราะโลก
วิธีการเฉลิมฉลองของแต่ละที่อาจแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่เกิดการรวมตัวกันเป็นชมรม เป็นสโมสรที่เรียกว่า “สโมสรหัวเราะ” โดยมีการจัดโปรแกรมสร้างความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ เช่น ร้องเพลง , การเต้นและการแข่งขันหัวเราะเพื่อหาผู้ชนะที่หัวเราะติดต่อกันนานที่สุด นอกจากนั้นสมาชิกในสโมสรหัวเราะยังเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสันติภาพต่างๆ โดยใช้การหัวเราะเป็นเครื่องมือ
ประวัติของวันแห่งการหัวเราะโลก
เป็นวันประจำปีที่ฉลองทั่วโลกเพื่อตระหนักถึงประโยชน์ของการหัวเราะ โดยมักถูกจัดขึ้นในเมืองใหญ่ๆ โดยมีการรวมตัวกันของผู้คนจำนวนมากในวันนั้นเพื่อหัวเราะร่วมกัน วันหัวเราะถูกฉลองครั้งแรกในลอสแอนเจลิสเมื่อปี 2005 และแพร่หลายไปทั่วโลกเพื่อแสดงความรักในความตลกและการมอบเสียงหัวเราะให้แก่กันของผู้คนวิธีการเฉลิมฉลองของแต่ละที่อาจแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่เกิดการรวมตัวกันเป็นชมรม เป็นสโมสรที่เรียกว่า “สโมสรหัวเราะ” โดยมีการจัดโปรแกรมสร้างความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ เช่น ร้องเพลง , การเต้นและการแข่งขันหัวเราะเพื่อหาผู้ชนะที่หัวเราะติดต่อกันนานที่สุด นอกจากนั้นสมาชิกในสโมสรหัวเราะยังเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อสันติภาพต่างๆ โดยใช้การหัวเราะเป็นเครื่องมือ
ประโยชน์ของการหัวเราะ
การหัวเราะไม่เพียงสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ที่เราสนทนาด้วย แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้- สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น : เมื่อคุณหัวเราะ คุณจะรู้สึกดีขึ้นและวิธีมองโลกของคุณก็จะเป็นไปในแง่บวกมากขึ้นทำให้ภาพรวมความเป็นอยู่ดีขึ้นตามไปด้วย
- เพิ่มประสิทธิภาพของ T-cells (ทีเซลล์) : ทีเซลล์คือเซลล์พิเศษในระบบภูมิคุ้มกันที่ช่วยต่อสู้กับโรคต่างๆ ได้ การหัวเราะจะกระตุ้นให้ทีเซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ปรับปรุงสุขภาพของหัวใจให้ดีขึ้น : การหัวเราะช่วยให้หัวใจของคุณเต้นเร็ว คล้ายกับการออกกำลังกายแบบคาดิโอ ซึ่งจะช่วยให้คุณเผาผลาญพลังงานได้เท่ากับพลังงานที่คุณจะเผาผลาญขณะที่เดินอยู่
- กล้ามเนื้อท้องแข็งแรงขึ้น : การหัวเราะทำให้กล้ามเนื้อท้องแข็งแรงขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อได้ขยายตัวและหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเหมือนการออกกำลังกล้ามเนื้อหน้าท้อง
- ลดระดับฮอร์โมนความเครียด : การหัวเราะช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลที่มีผลต่อร่างกายและยังสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันได้
- ลดความดันโลหิต : การหัวเราะช่วยลดความดันโลหิตได้ และช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจหรืออัมพฤกษ์ได้
อายุก็ส่งผลต่อการหัวเราะนะ !
การหัวเราะเป็นทางหนึ่งในการหลบหนีความเครียดและความเหนื่อยล้า มนุษย์เริ่มหัวเราะตั้งแต่อายุ 17 วันหลังจากเกิด โดยการหัวเราะจะเพิ่มขึ้นเมื่อค่อยๆ เข้าสู่วัยผู้ใหญ่และค่อยๆ ลดลงจนถึงวัยผู้ใหญ่
โดยผลวิจัยกล่าวว่าผู้ใหญ่มักเก็บความเครียดไว้ภายในและจัดการกับความวิตกกังวลต่างๆ โดยการใช้ยารักษา ,ดื่มแอลกอฮอล์หรือดูทีวี แต่เมื่อเทียบกับเด็กแล้วมีแต่วิธีการหัวเราะเท่านั้นที่จะช่วยลืมความรู้สึกแย่ๆ ต่างๆ ได้ โดยเด็กปฐมวัยหัวเราะได้มากถึง 400 ครั้งต่อวัน ในขณะที่ผู้ใหญ่เฉลี่ยก็แค่ยิ้มเบา ๆ ได้เพียง 7 ถึง 15 ครั้งต่อวันเท่านั้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผู้ใหญ่ในปัจจุบันมีความเครียดสูงและหัวเราะได้ยากขึ้นโดยเร็วๆ นี้ มีการวิจัยเพิ่มขึ้นเรื่องการเพิ่มอารมณ์ขบขันในชีวิตของผู้คน เป็นการศึกษาเกี่ยวกับอารมณ์ขบขันและการหัวเราะและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายมนุษย์ โดยการวิจัยยังคงดำเนินต่อไปเพื่อจะมีการผลักดันให้มีอารมณ์ขบขันในสังคมมากขึ้นในอนาคต
การแสดงอารมณ์ขันบนโลกอินเทอร์เน็ต
สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับการหัวเราะคือการแสดงอารมณ์ขันบนโลกอินเทอร์เน็ท การใช้โซเชียมีเดียและช่องทางต่างๆ ในการติดต่อสื่อสารที่คนรุ่นใหม่มักใช้อีโมจิในการแสดงอารมณ์มากกว่าการใช้อักษรย่อหรือคำที่แสดงถึงการหัวเราะ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมการหัวเราะใหม่ที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน
