‘Beauty Standard’ ความงามที่สร้างจากมายาคติของใคร?

3 ต.ค. 2566 - 10:41

  • ‘Beauty Standard’ ค่ามาตรฐานความงานถูกกำหนดขึ้นมาโดยใคร? แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นมาอย่างไรแต่เรากลับวิ่งไล่ตามความคาดหวังนั้นของสังคมไปอย่างรู้ตัวและไม่รู้ตัว แต่แท้จริงความหมายของ ‘ความงาม’ คืออะไร?

What-is-beauty-standard-SPACEBAR-Hero.jpg

เมื่อพูดถึง ‘บิวตี สแตนดาร์ด - Beauty Standard’ หรือมาตรฐานความงาม ที่มักจะตกเป็นประเด็นถกเถียงอยู่ในสังคมทุกยุคสมัย ความอึดอัดและความกดดันถูกสร้างขึ้นแม้ไม่รู้ว่าความสวยที่ว่านั้นกำหนดขึ้นมาโดยใคร แต่รู้ตัวอีกทีเราก็กำลังอยู่ในเส้นทางเหล่านั้นไปเสียแล้ว ทำไมเราถึงวิ่งไล่ตามความงาม ทั้งที่แท้จริงแล้วความหมายของ ‘ความงาม’ ยังคงเป็นสิ่งที่นักปรัชญาสุนทรียศาสตร์ (Aesthetics) ก็ยังไม่สามารถนิยามได้? 

ผิวขาว ตาโต สันกรามที่รับกับหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ หรือหุ่นที่เพรียวบาง เป็นการกำหนดมาตรฐานด้านร่างกายและความงาม ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างสูงในศตวรรษที่ 21 มีเพียงส่วนน้อยในสังคมเท่านั้นที่ชื่นชมสิ่งที่ผู้คนมองว่าล้มเหลว แม้ว่าเวลาผ่านไปอีกกี่นาน สังคมก็ยังคงกระหายการปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานที่หมุนวนไปรอบโลกและไม่มีวันสิ้นสุด

What-is-beauty-standard-SPACEBAR-Photo V01.jpg

มาตรฐานความงามเป็น ‘ค่านิยม’ ที่ใช้กับรูปลักษณ์ของทั้งชายและหญิง โดยให้ถือว่าสวยและหล่อเพื่อให้เข้ากับสังคมได้อย่างเหมาะสม ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้เกี่ยวข้องกับผิว ผม เสื้อผ้า และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย 

ภาพยนตร์ ซีรีส์ หนังสั้น และโฆษณาทุกเรื่องจึงถูกถ่ายทอดออกมาโดยผู้หญิงที่เราคิดกันว่ามีหน้าตาสะสวย และหนุ่มที่เรามองว่าหล่อเพื่อดึงดูดผู้คน ยิ่งไปกว่านั้นโซเชียลมีเดียในปัจจุบันยังสนับสนุนเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ในการสร้างสรรค์เนื้อหาเพื่อส่งต่อไปยังผู้คนทั่วโลก ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็น ‘วัฒนธรรม’ ในสังคมทั่วโลกไปแล้ว  

มีอีกหลายคนที่ยังคงเชื่อมั่นในบิวตีสแตนดาร์ด ตราบใดที่สังคมนี้ยังยึดมั่นในวัตถุนิยม คนที่ทำรายได้สูงสุดคือคนหน้าตาดี รวมถึงการมอบสิทธิพิเศษมากมายให้กับพวกเขาเหล่านั้น สิ่งนี้เป็นความจริงแม้ว่ามันจะฟังดูขมขื่นก็ตาม

View post on Facebook

แต่ถึงอย่างนั้น ประวัติศาสตร์ก็แสดงให้เห็นว่ามาตรฐานความงามมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทุกคนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่าผู้หญิงบางคนมีความงามอย่างแท้จริง แต่สิ่งที่ประกอบขึ้นเป็นความงามในยุคนั้นจริงๆ ซับซ้อนมาก 

ไดอานา วีแลนด์ (Diana Vreeland) ที่ปรึกษาพิเศษของสถาบันเครื่องแต่งกายแห่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิแทนในนิวยอร์กกล่าวว่า ‘ใบหน้าเปลี่ยนไปตามแฟชัน’ แต่ความเชื่อมโยงระหว่างแฟชันและการเมืองดูเหมือนจะเป็นตัวกำหนดมาตรฐานความงาม 

เช่นเดียวกับ บรูซ เอฟ. นอร์ตัน (Bruce F. Norton) ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยอเมริกันกล่าวว่า ใบหน้าที่สวยงามมักได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ตัวอย่างเช่น การมองโลกในแง่ดีหลังสงครามในทศวรรษ 1950 ทำให้เกิดดารานักร้องอย่าง ดอริส เดย์ (Doris Day) และ เดปบี้ เรย์โนลด์ (Debbie Reynolds)

ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบเป็นกุญแจสำคัญในการมีใบหน้าที่สวยงามของผู้หญิง แน่นอนว่าพวกเขาคงไม่ยกย่องความงามที่แปลกตาของดาราภาพยนตร์สมัยใหม่ ขณะที่ชาววิกตอเรียเองก็คิดว่าการมีริมฝีปากเล็กๆ เป็นองค์ประกอบสำคัญของความงาม และคงจะตกตะลึงเมื่อได้ริมฝีปากที่อวบอิ่มของคนในปัจจุบัน

What-is-beauty-standard-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: Photo by Wikipedia

เมื่อหลายพันปีก่อน ประติมากรรมและงานศิลปะแสดงให้เห็นภาพเงารูปร่างผู้หญิงที่มีความโค้งมน และอวบอัด แต่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 นางแบบหุ่นผอมเพรียวก็ไปปรากฏอยู่ในหน้านิตยสารแฟชั่น สิ่งนี้บ่งบอกถึง ‘อุดมคติ’ ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และก่อให้เกิดประวัติศาสตร์อันซับซ้อนตลอดทั้งงานศิลปะและแฟชัน โดยส่งผลกระทบเสียหายต่อผู้หญิงที่พยายามจะปฏิบัติตามในแต่ละยุคสมัย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกของโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลกับเรามากขึ้นในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนก็ออกมาเตือนถึงเรื่องนี้ เพราะเกรงว่าสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อร่างกายผู้คนในการใช้ชีวิตประจำวัน การละเว้นการพูดเชิงลบถึงตัวเองและคนอื่น เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการปฏิบัติในสังคม เพราะสิ่งเหล่านี้ หากเราพูดออกไปอาจทำให้คนฟังแม้กระทั่งตัวเราเองเห็นคุณค่าในตัวเองลดลงก็เป็นได้  

แม้ว่าสุดท้ายแล้วเราไม่อาจรู้ว่า ‘บิวตีสแตนดาร์ด’ ที่แท้จริงนั้นคืออะไร และการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่ใครก็ไม่รู้เป็นคนกำหนดมันขึ้นมายังคงหมุนวนไป คำพูดที่ว่า ‘เธอสวยในแบบของตัวเอง’ คือการ ‘เพิ่มความมั่นใจ’ ที่สังคมสมัยใหม่พยายามสร้างขึ้นมา ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราควรนำเอามาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยไร้อคติได้หรือยัง?

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์