หากเราจะเลือกดูหนังสักเรื่อง เราคงอยากเลือกดูหนังที่มีอะไรพิเศษแบบ CG อลังการณ์ ตระการตา ระเบิดลง ไฟลุกท่วม แต่เบื้องหลังเทคนิคเหล่านี้ จริงๆ แล้วถูกริเริ่มขึ้นโดย Georges Méliès (ฌอร์ฌ เมลิแยร์ / เมเลียส ) บิดาด้าน Special Effect ก่อนจะวิวัฒนาการมาเป็น Visual Effect ที่หนังฟอร์มยักษ์แทบทุกเรื่องต้องมี และเนื่องจาก วันที่ 9 ธันวาคมนี้ เป็นวันเกิดของ ฌอร์ฌ เมลิแยร์ เพื่อเป็นการสดุดีแด่ความกล้าริเริ่มสร้างสรรค์ ให้เราได้มีเทคนิคพิเศษมาเพิ่มอรรถรสให้กับภาพยนตร์ วันนี้เราจึงหยิบภาพยนตร์อมตะที่โด่งดังสุดๆของเขา ที่เด็กฟิล์มต้องรู้จัก เรื่อง A Trip to the Moon มาเล่าให้ฟังกัน!
“ถ้าหากคุณนั้นเคยสงสัยว่า ความฝันคุณมาจากไหน คุณลองมองไปรอบๆ สิ นี่แหละคือที่ที่ความฝันถูกสร้างขึ้น”
ฌอร์ฌ เมลิแยร์
ฌอร์ฌ เมลิแยร์
A TRIP TO THE MOON (1902) เป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังที่สุดของ ฌอร์ฌ เมลิแยร์ มีความยาวประมาณ 14 นาที (16 เฟรมต่อวินาที) ด้วยการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์เงียบ หัวใจหลักคือการเสียดสีประชดประชัดสังคมด้านวิทยาศาสตร์หัวโบราณในสมัยนั้น โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากนิยายของ จูลส์ เวิร์น (Jules Verne) เรื่อง FROM THE EARTH TO THE MOON (1865) และ จูลส์ เวิร์น (H. G. Wells) เรื่อง THE FIRST MEN IN THE MOON (1901) ฌอร์ฌ เมลิแยร์ ได้เขียนบทภาพยนตร์ สร้างเอง เล่นเอง อีกทั้งยังออกแบบฉาก รวมถึงเครื่องแต่งกาย กำกับถ่าย และ ถ่ายภาพ เองด้วย
เป็นเรื่องราวของมนุษย์ที่ขึ้นไปผจญภัยบนดวงจันทร์ โดยการใช้เทคนิค Special Effect อันแพรวพราว
A Trip to the Moon ได้รับการยกย่องให้เป็นภาพยนตร์ ไซไฟเรื่องแรกของโลก โดยมีฉากที่เป็นตำนานก็คือ ฉากจรวดของนักบินอวกาศบินเข้าไปทิ่มลูกตาของดวงจันทร์ สร้างความตกตะลึกและมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับคนดูในยุคนั้นเป็นอย่างมาก จนประสบความสำเร็จไปทั่ว และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถือว่าเป็น บล็อกบัสเตอร์ (Blockbuster) เรื่องแรกของโลกอีกด้วย
เป็นเรื่องราวของมนุษย์ที่ขึ้นไปผจญภัยบนดวงจันทร์ โดยการใช้เทคนิค Special Effect อันแพรวพราว
A Trip to the Moon ได้รับการยกย่องให้เป็นภาพยนตร์ ไซไฟเรื่องแรกของโลก โดยมีฉากที่เป็นตำนานก็คือ ฉากจรวดของนักบินอวกาศบินเข้าไปทิ่มลูกตาของดวงจันทร์ สร้างความตกตะลึกและมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับคนดูในยุคนั้นเป็นอย่างมาก จนประสบความสำเร็จไปทั่ว และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถือว่าเป็น บล็อกบัสเตอร์ (Blockbuster) เรื่องแรกของโลกอีกด้วย
ปัจจุบันผลงานชิ้นโบว์แดงของ ฌอร์ฌ เมลิแยร์ อย่าง A Trip to the Moon ยังคงหลงรอดอยู่ในปัจจุบันในเวอร์ชั่นสีแค่หนึ่งก็อปปี้ โดยถูกค้นพบเมื่อปี 1993 ในสภาพเน่าเปื่อยเกือบใช้การไม่ได้ และได้ถูกนำมาบูรณะใหม่อีกครั้ง ฉบับปรับปรุงใหม่ถูกนำออกมาฉายในเดือนพฤษภาคม ปี 2011 ณ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ (109 ปี หลังจากการฉายครั้งแรก) และทำเสียงประกอบภาพยนตร์ใหม่อีกด้วย
ถ้าหากชมเรื่องราวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ฌอร์ฌ เมลิแยร์ และ A Trip to the Moon สามารถรับชมได้ในภาพยนตร์เรื่อง HUGO ที่กำกับโดยตัวพ่ออย่าง มาร์ติน สกอร์เซซี่ (Martin Scorsese)
