ฉลองวันฮาโลวีนในย่านเก่าตามหาตรอกผีดิบตรอกที่มีชื่อเป็น ผี แต่ไม่มีผี ไม่มีตั้งแต่โบราณถึงตอนนี้ก็ยังไม่มี
ก่อนเล่าต้องขออภัยต่อคนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่เคยเป็นตรอกผีดิบแต่วันนี้ไม่มีดอกผีดิบแล้วแต่เอาเรื่องมาเล่าเพื่อบันทึกอดีต ตรอกผีดิบวันนี้ยังพอมีเรื่องราวอันน่าน่ากลัวแอบแฝงอยู่ในย่านเก่าใจกลางเมืองที่เราคุ้นเคยกันดี “ตลาดน้อย” กรอบผีดิบเป็นชื่อเรียกบริเวณที่เดิมเคยเป็นตอบแคบๆอยู่หลังโรงฝิ่นพูดถึงโรงฝิ่นก็คงต้องย้อนไปถึงรัชกาลที่สามรัชกาลที่สี่อะไรประมาณนั้น

เรื่องนี้จนเกิดขึ้นมานานแล้ว ในสมัยที่ประเทศไทยยังมีโรงฝิ่นถูกกฎหมาย ถึงจะบรรไม่มีความผิดที่ไปโรงฝิ่นแต่ไม่มีคนสรรเสริญยาเสพติด บรรยากาศมืดทึม ลึกลับ มีคนแอบเข้าออกเป็นที่รวมของ ขี้ยา นักเลง และกรรมกร
ธรรมดาของโรงฝิ่นจะมีผู้มาสูบฝิ่นอยู่ตลอดทั้งวันเมื่อสูบเสร็จก็จะเดินตัวเบาออกจากโรงไป แต่คนที่อยากฝิ่น ติดฝิ่น แต่ไม่มีเงินสูบฝิ่น จะมาอาศัยอยู่บริเวณหลังโรงฝิ่น คอยแอบดอมดมกลิ่นควันของพืชอันชวนฝันแต่อันตรายถึงชีวิต ภาพของคนจีนที่เป็นกรรมกรตัวผอมซีดเดินหมดแรงมานั่งเฝ้ารออยู่หลังโรงฝิ่นเพื่อหวังจะได้สัมผัสกับกลิ่นของยาที่ตัวเองต้องการความยากจนจึงทำให้เป็นอุปสรรคไม่สามารถที่จะเข้าไปสู่ฟีได้อย่างเสรีทั่วไปต้องอดอยาก สภาพจึงเหมือนคนที่เป็นผีดิบหมดแรงใกล้ตายอย่าว่าแต่คนจิ้งจกหรือตุ๊กแกสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่อยู่บริเวณโรงฝิ่นก็ติดฝิ่น ไปพร้อมกับคนที่อยู่ในโรงฝิ่นนั่นแหละ

สภาพตรอกที่อยู่ตรงนั้น ถูกเรียกขาน ตั้งนามนับแต่นั้นมาว่าตรอกผีดิบตรอก ที่รวมกรรมกรติดฝิ่นแต่ไม่มีเงินสูบต้องมานั่งคอยดมฟิน บ้างก็จะเจ็บป่วยไม่สบายสภาพเหมือนคนใกล้ตาย สภาพเหมือนผีดิบนั่นเอง ความเป็นตรอกผีดิบหายไปเมื่อวันหนึ่ง เมื่อเกิดไฟไหม้ใหญ่ผู้คนล้มตายมากมาย ประจวบราชการให้เลิกสูบฝิ่นความเป็นโรงฝิ่น จึงจบลงเพียงเท่านี้ต่อมาพื้นที่ที่เป็นโรงฝิ่น ถูกนำมา ใช้งานหลายอย่างจนล่าสุดถูกสร้างเป็นที่พักให้ผู้คนสามารถเข้ามาจับจอง ชื่อของแฟลตทรัพย์สินจึงเกิดขึ้นตอนนั้นและชื่อตรอกผีดิบจึงเปลี่ยนเป็นตรอกแฟลตทรัพย์สินนั่นเอง
พิกัดของอดีตตรอกผีดิบหาได้ไม่ยากแต่ไม่มีสภาพเดิมเหลืออยู่แล้วจุดที่จะเดินไปสู่ตรอกผีดิบคือ หากเดินผ่านถนนเส้นกลางที่ลัดเลาะ โบสถ์กาลหว่า ถนนเส้นเล็กๆแคบๆที่พาเราไปสู่วัดปทุมคงคา เดินจาก วัดกาลหว่าไม่ไกลจะเห็นซอยตรอกแฟลตทรัพย์สินอยู่ทางขวามือหน้าปากตอกมีบ้านเหลียวแล หากเดินเข้าไปในตรอกก็เป็นที่พักบ้านเรือนของผู้คนตามปกติ
เรื่องนี้อาจจะไม่ได้เล่าเรื่องผีแต่เป็นการย้อนเวลาไปหาตรลึกลับที่สอนเราคนรุ่นหลังว่ายาเสพติดไม่เคยทำให้คนดีมีชีวิตรุ่งเรืองรุ่งโรจน์น่ามองแต่อย่างใดคนที่อยู่ในบริเวณนั้นในเวลานี้ก็ไม่ได้ชื่นชมกับอดีตที่มันเคยเกิดขึ้นดังนั้นใครจะห่างไกลจากสิ่งเหล่านี้ได้เสียคงเป็นเรื่องดีไม่น้อย