กลิ่นหอมแกงกระหรี่สูตรอินโดนีเซีย ที่ให้น้ำแกงเข้มข้นรสชาติน้ำแกงรสเด็ดเผ็ด ผสมเนื้อสามชั้นที่ตุ๋นจนได้ที่ ราดลงบนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก เมื่อเวลาผ่านมา น้ำแกงถูกผสมผสานเครื่องแกงไทย จนเป็นรสชาติก๋วยเตี๋ยวแกงของคนสยาม
“ก๋วยเตี๋ยวแกงต้องมีเนื้อสะเต๊ะนุ่มๆ หมักให้เครื่องเข้าเนื้อ ปิ้งจนหอม กับข้าวที่บ่งบอกว่า เป็นของคนยะวา มาจากเมืองชวา อินโดนีเซีย เวลาที่ผ่านมาก๋วยเตี๋ยวแกงผสมผสานกับรสชาติแบบไทย แต่เรายังยึดมั่นในศาสนาของบรรพบุรุษ เราคือยะวา “ ท่านผู้ใหญ่เชื้อสายยะวาเล่า
ยะวา เป็นคำเรียก เเขกชวา หรือคนอินโดนีเซีย คนยะวา เดินเข้ามาในประเทศไทยที่เมืองบางกอก เมืองท่าเก่าแก่ ยะวามาตั้งแต่สมัยอยุธยา เรารู้จัก อิเหนา นิยายรักที่มีบทรัก บทบู๊ บทโศก ครบรส ตั้งแต่นั้นจนอิเหนาเป็นบทละครไทย ยะวา มาเมืองครั้งใหญตั้งแต่ ในช่วงรัชกาลที่ 3 ถึง รัชกาลที่ 5 มาค้าขาย มาทำงาน มาจัดสวน มาเพราะหนีภัยสงคราม มาเพราะพิษเศรษฐกิจ
คนยะวา มาเมืองบางกอก ได้ตั้งบ้านเรือนในย่านเจริญกรุง สี่พระยา สาทร บางรัก เพราะ เป็นย่านการค้าที่ติดต่อกับคนต่างประเทศมากที่สุด คนยะวา ฝากฝีมือในการจัดสวนอย่างฝรั่งมาตั้งแต่รัชกาลที่ 5 สวนสราญรมย์ สนามหลวง สวนในพระราชวังดุสิต นั้นก็ฝีมือยะวา

ชุมชนสี่พระยาหมดไปเหลือแต่ ชุมชนคลองกระบือหรือมัสยิดยะวา และชุมชนมัสยิดบาหยัน นอกเส้นเจริญกรุงคือชุมชนมัสยิดซอยโปโล ใกล้สวนลุมพินีคลองเตย และอดีตที่เคยมีชาวอินโดนีเซียจากเมืองปอนเตนัก เกาะกลิมันตัน มาลงหลักปักฐาน จนเป็นชุมชนใหญ่แล้วเบนเข็มหันออกไปกับการที่ชาวอินเดียใต้เข้ามาอยู่แทน คือชุมชนมัสยิดฮารูณก็ทียะวา

คำบอกเล่า ของ คุณทนงศักดิ์ ตุลยธำรง ผู้จดจำความทรงจำชุมชนมุสลิม เล่าว่า มัสยิดฮารูณ มัสยิดเดิมอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในชื่อชุมชนต้นสำโรง ย้ายเข้ามาบนแผ่นดินร่วมร้อยเมตร และในสมัยร.5 ช่วงหลังกรณีรศ.112 ก็มีการสร้างมัสยิดเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนโดยใช้โครงสร้างจากหลังเดิมเป็นหลัก ส่วนรั้วของสุสานหรือกุโบร์ตรงโคมไฟเป็นโคมแบบศิลปแบบเกาหลี และช่องผนังรั้วมัสยิดด้านหน้าเป็นลวดลายแบบธงชาติเกาหลีโบราณ สร้างในยุคที่มีการนำทหารผ่านศึกเกาหลี เป็นงบจากประเทศเกาหลีและกระทรวงกลาโหมอีกส่วน นอกจากนั้นก็ มัสยิดบาหยัน ชุมชนคนจากเกาะบายันในอิโดนีเซียมาสมัยร.3-5 มีภาษาของตัวเอง เข้ามาทำงานช่วงที่ยังมีท่าเรือและโกดังสินค้า เอเซียติค ย่านถนนตก

บทบาทของ ยะวา ต่อเมืองไทยมีมาช้านาน ถ่ายทอดกลมกลืนกับวัฒนธรรมไทย ทั้ง ศาสนา ภาษา วิถีชีวิต วรรณกรรม และสิ่งที่เราคุ้นเคยที่สุด สิ่งที่เราอาจสัมผัสดับ ยะวา บ่อยที่สุด “กับข้าว”
ก๋วยเตี๋ยวแกงเนื้อสะเต๊ะ เป็นของกินของคนยะวา ที่เจอที่ไหนใช่แน่คนทำต้องมีเชื้อสายยะวา อย่างที่ย่านบางลำพูก็เคยมีคนยะวามาตั้งกลุ่มทำเนื้อสะเต๊ะขาย เรียกกันทั่วไปว่า ตรอกสะเต๊ะ ตรอกยังอยู่แต่ไม่มีคนทำเเล้ว เลิกไปหมดเหลืออยู่แค่ร้านอาหารอาอีซะย์ที่เปิดขาย เป็นคนยะวาเเท้ๆ
หากอยากสัมผัสกับลองไปเยือนมัสยิดยะวา มัสยิดบาหยัน อสจจะพอหลงเหลือ ก๋วยเตี๋ยวแกงเนื้อสะเต๊ะ ให้ได้สัมผัสรสชาติของชวา ผู้มาถึงเมืองไทย
ข้อมูลและภาพวาดลายเส้น โดย คุณทนงศักดิ์ ตุลยธำรง