เพราะได้อินสไปร์จากแบรนด์ Valentino จึงเกิดเป็น ‘Black Tie’ ซิงเกิลที่ 8 จาก ‘Jeff Satur’

16 ตุลาคม 2566 - 06:13

Black-tie-by-jeff-satur-SPACEBAR-Hero.jpg
  • เมื่อแฟชั่นมาพบกับดนตรี กลายเป็น ‘Black Tie’ ซิงเกิลอันดับที่ 8 เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรก ของ ‘Jeff Satur’ ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Valentino - Black Tie Collection

เจฟ ซาเตอร์ (Jeff Satur) ศิลปินผู้ที่มีความสามารถครบเครื่อง จนได้ชื่อว่าเป็นผู้สร้างความบันเทิง (Entertainer) รุ่นใหม่แถวหน้า ปล่อยงานเพลงที่ทั้งไพเราะและเต็มไปด้วยคุณภาพ สร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงบ้านเรามาอย่างต่อเนื่อง 

ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมือง ‘ลืมไปแล้วว่าลืมยังไง (Fade)’ และตามมาติดๆ กับเพลงเร็ว ‘Dum Dum (ดึม ดึม)’ ที่ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีเพราะความเท่ห์แบบอินเตอร์ในสไตล์ของเจฟ ซาเตอร์ และเพลงช้าล่าสุด ‘ก่อนที่เธอจะลืมฝัน (Lucid)’  กับเวย์เฟอร์ เรคอร์ดส์ (Wayfer Records) สังกัดเพลงในการดูแลของวอร์นเนอร์ มิวสิค ประเทศไทย (Warner Music Thailand) ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ 

ความสำเร็จที่ ‘Jeff Satur’ ได้รับจากซิงเกิลเหล่านี้ นอกจากทำให้ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงชาวไทยแล้ว คนฟังในต่างประเทศก็ให้ความชื่นชอบและชื่นชม จนเขาได้ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันของรายการเรียลิตี้สุดฮิตในประเทศจีน ‘Call Me By Fire 3’ 

แล้วด้วยภาพลักษณ์ที่ดูดี มีเอกลักษณ์ ได้นำพา ‘Jeff Satur’ ก้าวไปเป็นส่วนหนึ่งในโลกแฟชั่น และการเดินทางไปอิตาลีเมื่อต้นปีนี้ เพื่อร่วมงานแฟชั่นโชว์ของแบรนด์แฟชั่นระดับโลกอย่าง Valentino ซึ่ง ‘Jeff Satur’ ได้ร่วมงานอยู่บ่อยครั้ง จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการนำแฟชั่นมาพบกับดนตรี ที่นำไปสู่ ‘Black Tie’ เพลงภาษาอังกฤษเพลงแรกของหนุ่มคนนี้

Black-tie-by-jeff-satur-SPACEBAR-Photo V01.jpg

โดยแรงบันดาลใจของเพลง ‘Black Tie’ Jeff Satur เผยว่า มาจาก Collection ‘Black Tie’ จาก Valentino และเขาได้นำมาถ่ายทอดเป็นบทเพลงที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนได้ยอมรับตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์และใช้ชีวิตในแบบของตนเอง ซึ่งทำให้ ‘Black Tie’ ไม่ใช่แค่เพลงที่มีไลน์ดนตรีเท่ๆ ซาวนด์สะดุดหู แต่ยังชื่นชมความเป็นตัวของตัวเอง, การแสดงตัวตน รวมทั้งพลังที่เกิดจากความรักในตัวเอง  

ซึ่ง ‘Jeff Satur’ ส่งเรื่องราวเหล่านั้นผ่านเนื้อร้อง และท่วงทำนอง ที่บอกว่า “แม้เราจะต้องผูกเนกไทสีดำเหมือนคนอื่นๆ แต่เราก็สามารถที่จะใส่เนกไทสีดำในแบบที่เป็นตัวของตัวเองได้เช่นกัน” ซึ่งสื่อถึงพื้นที่ในการแสดงตัวตน และปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ที่มีอยู่ในตัวจนออกมาได้อย่างอิสระ 

‘Black Tie’ เป็นมากกว่าเพลงๆ หนึ่ง เป็นยิ่งกว่าเพลงที่นำแฟชั่นมาพบกับดนตรี เมื่อเนกไทสีดำ Collection ของ Valentino ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการนำเสนอความเป็นตัวตนออกมา ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ ‘Jeff Satur’ แสดงถึงความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ในตัว จนอาจพูดได้ว่า เขาก็คือ ‘เนกไทสีดำ’ ของวงการเพลงไทยเช่นกัน 

ฟัง ‘Black Tie’ เพลงดี ๆ ที่ซ่อนนัยยะของความหมายเอาไว้อย่างมากมาย ที่เกิดจากการนำดนตรีมาพบกับแฟชั่นของ ‘Jeff Satur’ ได้ทุกบริการสตรีมมิ่ง https://JeffSatur.lnk.to/BlackTie และห้ามพลาดชมมิวสิควิดีโอ ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างลึกซึ่ง ที่ YouTube: Jeff Satur

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์