ยอมรับ ต่อสู้ อยู่ร่วมกันได้ !! รวมคนดังชีวิต(ไม่)พัง เพราะติดเชื้อ “HIV”

เนื่องในวันเอดส์โลก ที่ถูกกำหนดขึ้น เพื่อให้ผู้คนทั่วโลกตระหนักถึงปัญหาที่เกิดจากเชื้อ HIV ทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น และช่วยให้ผู้ที่มีเชื้อได้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ตามปกติ  

เราจึงขอรวบรวมเหล่าเซเลบชื่อดังระดับโลก ที่ครั้งหนึ่งเคยออกมาประกาศว่าตนเองติดเชื้อ HIV และยังสามารถต่อสู้จนกลับมาแข็งแรง และเป็นตัวแทนที่คอยลบล้างค่านิยมเก่าๆ ที่ผู้คนมีต่อผู้ติดเชื้อ HIV

1.บิลลี พอร์เตอร์

หลังจากเก็บงำความลับมาเป็นเวลากว่า 14 ปี เนื่องจากเขาหวาดกลัวที่จะเสียพื้นที่ในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่เมื่อ บิลลี่ พอร์เตอร์ ได้รับโอกาสสวมบทบาทเป็นตัวละคร เพรย์ เทล ในซีรีส์ระดับรางวัลเอมมี อวอร์ดส์ เรื่อง ‘Pose’ ที่ตัวละครเพรย์เป็นเควียร์ที่กล้าเปิดเผยต่อสังคมว่าติดเชื้อ HIV ก็ทำให้ในปี 2021 พอร์เตอร์ ตัดสินใจเปิดเผยให้โลกรับรู้ว่าตัวเขาเองก็ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อ HIV เช่นกัน และเขาเลือกที่จะสลัดความกลัวต่อการเลือกปฏิบัติจากสังคมและวงการบันเทิง เพื่อยืนหยัดให้ทุกคนเข้าใจผู้ที่กำลังเผชิญหน้าต่อสู้กับเชื้อ HIV มากขึ้น แถมเขายังกล่าวอีกว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เขาสุขภาพดีที่สุดในชีวิต  

บิลลี พอร์เตอร์ ในวัย 54 ปียังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง หลังจากที่เจ้าตัวคว้ารางวัลเอมมี่ ได้ 1 ครั้งในปี 2019 จากบทบาท เพรย์ ในซีรีส์ “Pose” ก่อนจะเข้าชิงอีกสองครั้งจากบทบาทเดิมในอีกสองปีถัดมา ทำให้เขาเป็นนักแสดงเกย์ผิวสีคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้อีกด้วย

2.ชาร์ลี ชีน

นี่คือนักแสดงคร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน จากบทบาทในภาพยนตร์สุดคลาสสิคหลายๆ เรื่องอาทิ “Platoon” หรือ “Wall Street” ก่อนจะมาโด่งดังสุดๆ ในบทบาท ชาร์ลีย์ คูเปอร์ จากซีรีส์ตลกเรื่องเยี่ยม “Two and a Half Men” ก่อนที่เจ้าตัวจะถูกอัปเปหิออกจากบทบาทนักแสดงนำเนื่องจาก พฤติกรรมด้านยาเสพติดและการใช้ความรุนแรงต่อภรรยา ซึ่งหลังจากที่โดนปลดจากซีรีส์ก็เป็นช่วงที่เจ้าตัวตรวจเจอเชื้อ HIV พอดี เรียกได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดเลยทีเดียว และสาเหตุที่ทำให้เขาออกมาเปิดเผยหลังจากนั้น 4 ปี หรือในช่วงปี 2015 ว่าตนเองติดเชื้อ HIV ก็เพราะว่า เจ้าตัวโดนขู่แบล็คเมล์จากคนที่รู้ความลับว่าเขาติดเชื้อเป็นจำนวนหลายร้อยล้านบาท จนทำให้เขาทนไม่ไหวและตัดสินใจออกมาเปิดเผยด้วยตัวเองในที่สุด ซึ่งไม่ว่าแท้จริงแล้วพฤติกรรมของชาร์ลีจะเป็นอย่างไร แต่ก็ปฏิเสธไมได้ว่าการขมขู่เหล่านี้เกิดขึ้นได้ก็เพราะสังคมส่วนมากโดยเฉพาะคนมีชื่อเสียง ยังคงมีความเลือกปฏิบัติต่อผู้มีเชื้อค่อนข้างที่จะสูง ซึ่งก็เป็นอีกเรื่องที่ยังคงต้องได้รับการแก้ไข โดยปัจจุบันชาร์ลี ยังคงมีผลงานแสดงบ้างประปรายในฐานะนักแสดงรับเชิญในซีรีส์ต่างๆ แต่ก็น้อยลงจากแต่ก่อนมาก

3.แมจิก จอห์นสัน 

7 พฤศจิกายน  ค.ศ. 1991 เกิดข่าวใหญ่ช็อควงการ NBA เมื่อผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งอย่าง ‘แมจิก จอห์นสัน’ แถลงข่าวว่าตนเองติดเชื้อ ‘HIV’ และต้องตัดสินใจยุติอาชีพเพื่อไปต่อสู้กับโรคร้าย ทั้งๆ ที่ตัวเขายังอยู่ในช่วงรุ่งโรจน์ พึ่งคว้าแชมป์ NBA สมัยที่ 5 กับต้นสังกัด ลอสแอนเจลิส เลเกอส์ มาในปี 1988 โดยจอห์นสัน ออกมายอมรับว่าเขามีเซ็กไลฟ์ที่ค่อนข้างจะสุดเหวี่ยงตลอดอาชีพการเป็นนักบาสของเขา ซึ่งการออกมาเปิดเผยครั้งนี้ของจอห์นสันยังก่อให้เกิดความตระหนักถึงความอันตรายของเชื้อ HIV ที่มีต่อคนรักต่างเพศทั่วไป เพราะสมัยนั้นเชื่อกันว่าเชื้อดังกล่าวมักติดต่อกันส่วนมากในคนเป็นเกย์หรือไบเซ็กชวล  ซึ่งด้วยระเบียบวินัยและการช่วยเหลืออันดีเยี่ยมจากหลายฝ่าย ‘แมจิก จอห์นสัน’ ก็ได้ต่อสู้จนโรคสงบและกลับมามีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง ก่อนกลับมาเป็นโค้ชให้กับต้นสังกัด ลอสแอนเจลิส เลเกอส์ ในปี 1994 และลงเล่นได้อีกครั้งในปี 1996 ตามลำดับ   

ปัจจุบัน ‘แมจิก จอห์นสัน’ ในวัย 64 ปี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและใช้ชีวิตได้ตามปกติ อีกทั้งยังได้อุทิศตนเพื่อสังคมอาทิการก่อตั้ง มูลนิธิ แมจิก จอห์นสัน ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ ให้การช่วยเหลือกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับโรคดังกล่าวเรื่อยมา

4.แกเร็ธ โทมัส 

แกเร็ธ โทมัส คือหนึ่งในผู้เล่นรักบี้ระดับตำนานของวงการเลยก็ว่าได้ โดยในปี 2009 เจ้าตัวได้เคยออกมาประกาศผ่านสื่อสาธารณะว่าเขาเป็นเกย์ ซึ่งเป็นอะไรที่กล้าหาญมากสำหรับกีฬารักบี้ซึ่งเป็นกีฬาของเหล่าชายฉกรรณ์ แน่นอนว่า แกเร็ธ ต้องเผชิญกับคำดูถูกสารพัดจากแฟนกีฬานิสัยเสีย แต่เขาเลือกที่จะเผชิญหน้ากับความจริง ถือเป็นนักกีฬาชายคนแรกในโลกที่กล้าเปิดเผยกว่าตนเองเป็นเกย์ทั้งๆ ที่ยังลงเล่นอาชีพในระดับสูงอยู่ เขาได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจของ LGBTQ+ ในด้านของความกล้าที่จะเปิดเผยเพศตัวเอง 

จนเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็เกิดข่าวใหญ่ขึ้นอีกครั้ง หลังมีผู้ประสงค์ร้ายไปสืบทราบมาว่าตัว แกเร็ธ ติดเชื้อ HIV และขู่จะแบล็คเมล์เขา แกเร็ธ จึงตัดสินใจเผชิญหน้ากับความกลัวที่อาจจะยากกว่าครั้งแรกเสียด้วยซ้ำ ด้วยการเปิดเผยต่อสาธารณะด้วยตัวเองเลยว่าเขาติดเชื้อ HIV จริงๆ เพื่อตัดปัญหาคาราคาซังที่จะตามมา สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป เขาก็ใช้หัวใจและร่างกายอันแข็งแกร่งพิสูจน์ให้หลายคนได้รับรู้ว่า ผู้ติดเชื้อ HIV ยังคงแข็งแรงและใช้ชีวิตได้ปกติหากคุณดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ในวัยย่างเข้า 50 ปี ด้วยร่างกายฟ้าประทานที่ถูกดูแลมาอย่างดีตลอดอาชีพของนักกีฬา เขายังทำกิจกรรมหนักๆ อาทิการลงแข่งขันไตรกีฬาสุดโหดได้อย่างสบายๆ เรียกว่าเป็นอีกบุคคลที่ขจัดภาพลักษณ์อันน่ากลัวของเชื้อ HIV ไปเสียหมดจดเลยทีเดียว