‘ไข่ไก่’ ส่วนผสมแสนวิเศษของศิลปินรุ่นใหญ่ในอดีต

30 มีนาคม 2566 - 06:06

davinci-magic-of-paint-ingredients-SPACEBAR-Thumbnail
  • การใช่ไข่ไก่ในการผสมสีถูกเรียกว่า ‘เทมเปรา’ (tempera) เป็นเทคนิคของศิลปินในอดีตนิยมใช้เพื่อขับเน้นสีให้เข้มเด่นสะดุดตา แถมยังปกป้องให้เนื้อสีมีอายุยืนยาวไม่แพ้สีโฟร์ซีซัน

บรรดาคณาจารย์ผู้ปราดเปรื่องทางด้านศิลปะในอดีตต้องรู้จักคุ้นเคยกับ เฟรสโก (fresco) เทคนิคการวาดกำแพงที่อาศัยความเปียกจากน้ำที่พรมไว้และใช้สีฝุ่นแต้มเพื่อวาดภาพออกมาเป็นรูปเป็นร่าง เทคนิคนี้มีมาเนิ่นนานตั้งแต่ยุคกลาง แต่พอมาถึงยุคคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก็เริ่มมีการเสริมเทคนิคให้ขึ้นมาด้วยการผสม ‘ไข่ไก่’ ลงไปในสี ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบันหาคำตอบได้แล้วว่าทำไมไข่ไก่ หรือ เทมเปรา (tempera) ถึงมอบคุณสมบัติที่แสนวิเศษให้กับสีน้ำมันในระยะยาว 
 
ในช่วงหนึ่งที่นักวิทยาศาสตร์ตรวจเจอโปรตีนบนภาพวาดสีน้ำมันยุคเก่า พวกเขาคิดว่ามันคือสารปนเปื้อนติดกับภาพมา แต่หลังจากที่ตรวจอย่างละเอียดจากงานของศิลปินหลายๆ คน พวกเขาคิดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ไข่ไก่ที่เราใช้ทำไข่เจียวในครัวนั้นถูกใช้เพื่อสร้างความสวยงามกับภาพสีน้ำมันจริงๆ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3DB2ewBwLaoIuThYH5nfsG/374daa1ea6fab41550f64c4d69214205/davinci-magic-of-paint-ingredients-SPACEBAR-Photo06
Photo: เทคนิคเทมเปราบนผ้าลินิน. Wikimedia
เทคนิคการผสมสีใส่ไข่สุดพิเศษนี้มีจุดเริ่มต้นนานไกลถึงอียิปต์โบราณ โดยมีชื่อเรียกเฉพาะว่า เทมเปรา เป็นการผสมสีระหว่างผงสี น้ำ และไข่แดง สีที่ออกมานั้นจะมีความเข้มกว่าปกติ แถมเวลาเกลี่ยสีจะให้ความนุ่มเนียน และแห้งช้า สามารถใช้ได้นานหลายวันหลังจากการผสม ส่วนสีน้ำมันที่คนทุกวันนี้นิยมใช้กันเป็นการผสมสีกับน้ำมันดอกคำฝอย หรือลินซีด แทนน้ำ ซึ่งสีจะอ่อนหรือเข้มขึ้นอยู่กับแสงภายนอก
อย่างไรก็ตามความนิยมในการใช้ไข่แดงผสมสีในยุโรปนั้นไม่ได้มาจากอียิปต์โบราณโดยตรง แต่เป็นการเผยแพร่จากเอเชียกลางตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 7 มาถึงยุโรปเหนือในยุคกลาง และอิตาลีในยุคเรเนอซองส์ นักวิจัยพบว่าศิลปินในยุคเรเนอซองส์ใช้ไข่แดง น้ำกลั่น น้ำมันลินซีด และผงสี เพื่อผสมสีขาวและสีอัลตรามารีนบลูส์ นักวิจัยกล่าวว่าองค์ประกอบในไข่สามารถส่งผลต่อสี ด้วยคุณสมบัติที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในไข่ทำให้สีนั้นเกิดการออกซิไดซ์ช้าลง อย่างสีขาวนั้นค่อนข้างไวต่อความชื้น การใส่ไข่แดงที่มีโปรตีนจะช่วยเคลือบกันความชื้นจากภายนอก
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/YNKh9V791O6KRGUPSDhyr/73a199f8f1b646cdef2f02468509f093/davinci-magic-of-paint-ingredients-SPACEBAR-Photo01
Photo: เทคนิคอิมพาสโต. Wikimedia
นอกจากนี้ถ้าใครอยากทำให้สีนั้นดูทื่อเป็นเนื้อมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใส่สี เพียงแค่ใส่ไข่แดงเยอะขึ้นหน่อยก็สามารถใช้สีเพื่อวาดเทคนิคอิมพาสโต (impasto) ได้แล้ว อย่างที่เราเห็นกันในงานของ วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent van Gogh) ที่เนื้อสีเป็นก้อนๆ เน้นปาดหนัก 
 
ถ้าอยากรู้ว่าภาพสีน้ำมันที่ไม่ใส่ไข่แดงจะออกมาเป็นอย่างไรเมื่อผ่านไปเป็นเวลานาน ให้ดูภาพวาด ‘Madonna of the Carnation’ ของ ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ที่บนภาพนั้นเกิดการแตกเป็นริ้วรอยเป็นริ้วๆ นักวิจัยคิดว่าน่าจะเกิดจากการที่ใช้ผงสีไม่เพียงพอในการผสม และสามารถเลี่ยงได้ด้วยการใส่ไข่แดง ซึ่งต่อให้ใส่ผงสีเท่าเดิมก็ยังเพิ่มคุณสมบัติให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7ccJePFa3QUzIC3qRSMLgw/3e77544e3ba6e5f0bcfa88e910831c6b/davinci-magic-of-paint-ingredients-SPACEBAR-Photo07
Photo: Madonna of the Carnation. Wikimedia
เรียกได้ว่าเป็นการศึกษางานศิลปะที่สามารถทำให้เราเข้าใจเทคนิคศิลปะในอดีตได้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญคือความรู้ที่ส่งทอดกันมา ทั้งๆ ที่ยุคนั้นยังไม่นิยมจดบันทึกเทคนิคเพื่อส่งต่อความรู้ แต่เอาจริงๆ ใครจะรู้ว่าแค่ไข่ไก่ที่สามารถเก็บได้ตามเล้าจะส่งผลให้สีทรงอานุภาพได้ถึงเพียงนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์