อ้างจากพระคัมภีร์ พระวจนะของพระเจ้าบอกไว้ว่า มารร้ายล่อลวงสาวกของพระองค์ มารร้ายหมายจะแยกเราออกจากพระเจ้าแล้วยึดครองอำนาจ และพระสิริของพระองค์
หลังจากซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซี ‘My Demon’ ที่บอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ของปีศาจและมนุษย์ นำแสดงโดยสองนักแสดงดาวรุ่งอย่าง คิมยูจอง (Kim Yoo Jung) และ ซงคัง (Song Kang) ออกอากาศครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ก็กวาดเสียงวิจารย์เชิงบวกและคะแนนความนิยมไปทั่วพื้นที่ ทั้งในประเทศเกาหลีใต้และทั่วโลก ด้วยทักษะการแสดงและเนื้อเรื่องที่น่าสนใจในการนำเสนอภาพปีศาจกับพละกำลังที่ได้จากตราสัญลักษณ์ไม้กางเขนบริเวณข้อมือ ถือเป็นการท้าทายและลบล้างภาพจำปีศาจของทุกคนไปอย่างสิ้นเชิง
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผู้คนยังคงมีความเชื่อว่าปีศาจและไม้กางเขนเป็นของที่อยู่คู่กันไม่ได้ ด้วยรากฐานการถูกปลูกฝังอย่างยาวนานทั้งทางศาสนาที่เชื่อว่าไม้กางเขนเป็นของมงคลศักดิ์สิทธิ์ และปีศาจเป็นสิ่งชั่วร้าย รวมถึงตามตำนานและประเพณีต่างๆ การปรากฏตัวของพวกเขาก็มักนำพามาซึ่งความโกลาหล สิ่งล่อใจ และรูปลักษณ์แห่งความชั่วร้าย น่าเกลียด และน่ากลัว เราจึงไม่เคยมีความคิดว่าไม้กางเขนจะให้พลังต่อปีศาจได้
กระนั้นหากย้อนกลับไปมองจากสื่อภาพยนตร์ต่างๆ ที่ผ่านมา เช่น The Conjuring 2 เรากลับพบว่านี่ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เสียทีเดียว เพราะในภาพยนตร์เรื่องนั้นแม้จะมีการแสดงว่าปีศาจทุรนทุรายจากการใช้ไม้กางเขนปราบ แต่ในขณะเดียวกันอำนาจของมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอย่างน่ากลัว
ในศาสนาคริสต์ ไม้กางเขน ถือเป็นสิ่งสำคัญมีที่มีความหมายอย่างลึกซึ้ง เพราะเป็นสัญลักษณ์แห่งความเสียสละและความอยู่รอดของผู้คนจากเหตุการณ์การตรึงกางเขนของพระเยซูคริสต์ ไม้กางเขนจึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงการกระทำขั้นสูงสุดของความรักและการไถ่บาปอันศักดิ์สิทธิ์ โดยเส้นแนวตั้งของไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อระหว่างสวรรค์และโลก ในขณะที่เส้นแนวนอนแสดงถึงการคืนดีของมนุษยชาติ ดังนั้นการที่ปีศาจและไม้กางเขนถูกจัดวางไว้ด้วยกันจึงทำให้เกิดการแบ่งขั้วทางภาพและสัญลักษณ์อย่างชัดเจน
การปะทะกันระหว่างปีศาจและไม้กางเขนได้รับการถ่ายทอดออกมาอย่างชัดเจนในงานศิลปะ วรรณกรรม และวัฒนธรรมสมัยนิยม ศิลปินตลอดประวัติศาสตร์ได้บรรยายถึงการต่อสู้อันดุเดือดระหว่างบุคคลผู้มีคุณธรรมและปีศาจ ซึ่งมักมีไม้กางเขนเป็นอาวุธต่อสู้กับพลังแห่งความมืด การพรรณนาเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นการนำเสนอภาพสงครามฝ่ายวิญญาณเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมเรื่องราวทางวัฒนธรรมที่ล้อมรอบความดีและความชั่วอีกด้วย
ถึงจุดนี้หลายคนคงจะสงสัยว่าแล้วปีศาจสามารถเอาชนะไม้กางเขนได้หรือไม่ เพราะพวกเขาเองก็มีสัญลักษณ์เป็นไม้กางเขนเช่นกัน แต่ถูกจัดวางไว้ในลักษณะ ‘กลับหัว’ คำตอบคือ ‘ไม่ได้!’
ที่เป็นเช่นนั้น เนื้องจากไม้กางเขนกลับหัว หรืออีกชื่อเรียกหนึ่งคือ ‘ไม้กางเขนของนักบุญเปโตร’ มีต้นกำเนิดมาจากการพลีชีพของอัครสาวกเปโตร ตามประเพณีของคาทอลิก เมื่อเปโตรถูกตัดสินประหารชีวิต เขาขอให้คว่ำไม้กางเขนของเขาลง เพราะเขารู้สึกว่าไม่สมควรที่จะถูกตรึงกางเขนแบบเดียวกับพระเยซู มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความอ่อนน้อมถ่อมตนในศรัทธา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปีศาจอย่างใด นอกจากนี้ไม้กางเขนกลับหัวยังถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของตำแหน่งสันตะปาปาและตกแต่งโบสถ์อีกด้วย
แม้ความเชื่อนี้จะดำเนินมาอย่างยาวนาน แต่ในปัจจุบันสัญลักษณ์ของปีศาจและไม้กางเขนยังคงแทรกซึมอยู่ในวัฒนธรรมสมัยใหม่ ภาพยนตร์สยองขวัญยังคงใช้สัญลักษณ์ทางศาสนา โดยเฉพาะไม้กางเขน เป็นเกาะ ป้องกันภัยคุกคามเหนือธรรมชาติ และอาวุธทำการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ทำให้มั่นใจได้ว่าสัญลักษณ์เหล่านี้ยังคงมีความเกี่ยวข้องในการเล่าเรื่องสมัยใหม่ และจะยังคงทำหน้าที่เป็นอุปมาชั้นดีให้แก่มนุษย์ต่อไปในภายภาคหน้า
