‘เมื่อมันสายไป (REVERSE)’ บทเพลงสุดดำดิ่งเข้าถึงอารมณ์จากวงหน้าใหม่มาแรง DUMB.RONG

29 ก.ค. 2567 - 06:00

  • พูดคุยกับ DUMB.RONG วงโพสต์ร็อคหน้าใหม่มาแรงที่มากับซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด ‘เมื่อมันสายไป (REVERSE)’ พร้อมทำความรู้จักกับพวกเขาภายใต้บ้านหลังใหม่ค่าย tiny

dumb-rong-interview-SPACEBAR-Hero.jpg

DUMB.RONG (ดำลง) วง Alternative, Post-Rock น้องใหม่มาแรงจากค่าย tiny ภายใต้การดูแลของบ้าน LOVEiS Entertainment  ประกอบด้วยสมาชิกทั้งห้า ทีน-ธเนศ พันธุดิษฐ (ร้องนำ), เบ-สิปปกร โล่ห์เส็ง (กีตาร์), กร-ศุภกร ลาภธนภัทร (เบส), หยี-ภัทรระพี แซ่ลี้ (กีตาร์) และนัท-วรากร เตชะจารุวิทย์ (กลอง) ที่ก่อนหน้านี้ได้ปล่อยเพลง ทุกความทรงจำ, อยากที่จะลืม, ในวันที่ไม่เหลือใคร ครั้งนี้พวกเขากลับมาพร้อมการเปิดตัวซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดกับเพลง ‘เมื่อมันสายไป (REVERSE)’ 

เนื้อหาของเพลงนี้ถูกเขียนขึ้นจากประสบการณ์ตรงของ ทีน นักร้องนำ บอกเล่าเรื่องราวถึงการจากลาและการสูญเสียคนรักที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน มองย้อนกลับไปให้นึกถึงคุณค่าและความสำคัญของคนใกล้ตัว เพราะบางทีกว่าจะรู้ว่าสิ่งนั้นมีคุณค่ามากแค่ไหนก็มารู้เมื่อมันสายไป พร้อมพูดคุยถึงเส้นทางดนตรีและทำความรู้จักกับพวกเขา ‘DUMB.RONG’ ให้มากขึ้น 

ที่มาของชื่อ DUMB.RONG 

เบ: ที่มามันไม่มีอะไรมากครับ ตอนนั้นมีหลายชื่อให้เลือกใช้ ไม่มีหลายชื่อหรอกมีชื่อเดียว (หัวเราะ) ตอนแรกชื่อ ฟิล์มบูด ฮะ ช่วงนั้นเป็นเด็กฟิล์มกันแล้วรู้สึกว่า ภาพสีของฟิล์มบูดมันมีความแปลกแล้วก็สวยไปอีกแบบ แต่ว่าประเด็นคือพอพิมพ์ชื่อเพลงไป ทุกความทรงจำ-ฟิล์มบูด ทางวงคุยกันว่ามันโคตรไม่ได้ กรก็เลยพูดมาคำหนึ่งก็คือ เฮ้ย! เราใส่เสื้อสีดำกันหมด แล้วผมก็เลยพูดออกไปว่า “ดำลง” 

หยี: โพล่งลอยๆ ขึ้นมาในอากาศ ไม่ได้มีเหตุผลอะไรมาก 

เบ: นั่นแหละครับคือจุดกำเนิดชื่อ “ดำลง” 

จุดเริ่มต้นในการทำวง ทำไมถึงตั้งวงดนตรีขึ้นมา 

เบ: ตอนนั้นเราอยู่กับพวกพี่ๆ วง AYLA’s กับ CORNBOI แล้วทีนี้เราเห็นพี่เขามีเพลงมีผลงานเราก็อยากมีบ้าง เราอยากทำเพลงของตัวเองเหมือนกันเลยตัดสินใจตั้งวงขึ้นมา 

ตอนที่ตั้งวงสิ่งแรกที่ทำระหว่างทำเพลงคัฟเวอร์เพื่อเล่นประกวดในมอฯ กับการทำเพลงของตัวเอง 

ในตอนแรกตั้งเป้าหมายไว้แบบไหน 

เบ: เพลงตัวเองเลยฮะ ทีนหอบเนื้อเพลงแรกมาให้แบบดุ่ยๆ เลย 

ทีน: ใช่ครับ เป็นผมที่โทรไปหากรว่า เฮ้ย! ทำวงไหม แต่ว่าตอนที่โทรไปหากรคือเพลงแรกเขียนเนื้อไว้เสร็จแล้ว ก็แค่รอกรตอบว่าโอเค 

ที่มาของสมาชิกแต่ละคน ตอนแรกทราบว่ามีสมาชิก 3 คน แล้วก็เพิ่มมาเป็น 5 คน แต่ละคนเข้ามาเป็นดำลงได้อย่างไร 

เบ: น่าจะต้องพี่หยีก่อน เพราะพี่หยีเข้ามาคนที่ 4  

หยี: คือจริงๆ ผมเป็นพวกกลุ่มเพื่อนกับ AYLA’s และ CORNBOI เป็นรุ่นพี่พวกมันอยู่ปีนึง แล้วทีนี้วันนึงพวกมันก็ไปทำอะไรกันของมันสามคน ก็มาเรียกผมให้ไปอัดซินธ์ให้หน่อย คีย์บอร์ดน่ะครับ จริงๆ ผมเล่นคีย์บอร์ด กีตาร์ผมเล่นได้แค่กีตาร์โปร่งตีคอร์ดนิดๆ หน่อยๆ ก็ไปอัด เสร็จแล้วตอนที่อัดกันที่ห้องก็จับพลัดจับผลูคุยไปคุยมาก็ชวนผมเข้าวง แล้วผมก็เข้าไปในฐานะมือคีย์บอร์ด น่าจะวันเดียวอยู่ดีๆ มาเป็นมือกีตาร์เฉยเลยไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (หัวเราะ) มาผนวกกับจังหวะที่วงก็มีมือกีตาร์คนเดียวพอดี ผมก็เลยงั้นเดี๋ยวเป็นกีตาร์สองให้แล้วกัน แล้วคีย์บอร์ดผมก็ร่นไปเป็นดาต้าในเพลงไป 

ระหว่างทำเพลงเองกับอยู่ในค่ายมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง 

หยี: ก่อนหน้านี้เราทำกันเองมันค่อนข้างสะเปะสะปะ เหมือนเราไม่ได้มีกรอบความคิดอะไรทั้งนั้น เราฟุ้งไปได้เรื่อย จนบางทีก็ฟุ้งเกินจนกลับไม่ถูก วันนึงก็เหมือนมีงานของที่ค่ายนี้เขาทำ เป็นคอนเสิร์ตย่อมๆ ครับ เป็นเหมือนโชว์เคสแล้วก็เรียกพวกเราไป เราก็ได้ไปเล่นซึ่งวันนั้นเล่นไม่ดีด้วย เล่นค่อนข้างแย่เลย แล้วเหมือนแอบได้ยินมาว่าพวกพี่แกตั้งใจจะมาดู มาหาคนเข้าค่าย ก็เลยคิดว่าไม่ได้แล้วร้อยเปอร์เซ็นต์ กลับบ้านทำเพลงต่อ แล้วไม่นานเขาก็ติดต่อมาจริงๆ ก็เลยได้ลองทำเพลงใหม่ๆ ขึ้นมาโดยมีเขาตีกรอบให้เราแล้ว แต่จริงๆ แล้วอิสระของเราก็ยังคงมีเหมือนเดิม ไม่ได้ถึงกับเสียตัวตนไปเป็นใครก็ไม่รู้ครับ 

วินาทีที่เขาโทรมาบอกว่าอยากจะชวนมาอยู่ที่ค่าย อยากรู้ว่าตอนรับโทรศัพท์รู้สึกอย่างไรบ้าง 

หยี: มีแต่คำว่าอ้าว! อย่างเดียว ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร 

เบ: วันที่จะไปคุยวันแรกคือพกปากกากันไปแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะเรียกไปเซ็นหรือเปล่า (หัวเราะ)  

หยี: พอดีเวลามันค่อนข้างเพอร์เฟกต์ด้วยตอนที่เขาเข้ามาพอดี อย่างที่บอกว่าเราก็ทำกันจนปัจจัยหลายๆ อย่างมันทำให้เราเริ่มตันนิดนึง แล้วเขาก็จ๊ะเอ๋เข้ามาพอดีก็เลยกลายเป็นว่ามันได้ไปต่อ 

เพลงใหม่ล่าสุด “เมื่อมันสายไป (REVERSE)” มีที่มาอย่างไร 

หยี: เริ่มจากผมกับทีนนี่แหละ นักร้องเรานั่งอยู่ด้วยกันในตอนที่พี่เขาให้ขึ้นเดโมเพลงใหม่ ผมก็ตั้งโจทย์ขึ้นมา เหมือนเราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงกับเพลงใหม่ดี ผมก็เลยถามมันว่าอยากให้เป็นมู้ดประมาณไหน เนื้อหาเกี่ยวกับอะไร มันก็โพล่งขึ้นมาว่างั้นขอเป็นเรื่องครอบครัวละกัน เรื่องพ่อที่เคยเกิดขึ้น ได้หัวข้อมาแล้วผมก็เลยเอาไปทำต่อครับ 

หลังจากที่ปล่อยเพลงออกมากระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง 

หยี: ผมว่าก็ยังคงต่อเนื่องกับเพลงเก่าๆ ไม่ได้มีคอมเพลนอะไรที่บอกว่าเปลี่ยนไป ทิศทางก็ยังตรงไปข้างหน้าเหมือนเดิม คนฟังก็ยังคงติดตามเหมือนเดิม 

เพลงนี้เป็นแนว Alternative Post-Rock แตกต่างจากเพลงที่เคยทำมาอย่างไรบ้าง 

หยี: ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาผมว่าจริงๆ เพลงนี้มันจะลึกกว่า อาจจะเข้าถึงได้ยากกว่านิดนึง แต่ฟังแล้วน่าจะเศร้ากว่า เหมือนมันจะลึกขึ้นโตขึ้นอะไรหลายๆ อย่างครับ ในแง่เนื้อเพลงด้วยดนตรีด้วย  

เรื่องราวใน MV ทางวงได้มีส่วนร่วมในการช่วยเล่าเรื่องไหม 

ทีน: ถ้าเป็นเรื่อง MV จะเป็นทางค่าย โปรดักชันแล้วก็เรา ทำงานด้วยกันเลย เหมือนทางโปรดักชันก็จะมาขายงานเราก่อนว่า พอเขาฟังเพลงนี้แล้วเขาอยากทำมันออกมาแบบไหน ซึ่งเราก็เห็นตรงกันตั้งแต่ครั้งแรกที่เราคุยเลยว่าเราจะทำเพลงเกี่ยวกับครอบครัว มันก็เป็นครอบครัวมาตั้งแต่แรก 

ผลงานเพลงที่ผ่านมาเหมือนจะเป็นโทนที่ใกล้เคียงกันคือเป็นเพลงเศร้า อยากรู้ว่าเพลงต่อๆ ไปจะมีเพลงรักบ้างไหม 

ทีน: อาจจะครับ  

เบ: อาจจะมีแต่ในอนาคตก็ยังไม่รู้ 

ตั้งแต่ปล่อยเพลงใหม่มาได้มีโอกาสไปเล่นสดที่ไหนบ้าง 

หยี: หลายที่แล้วนะ สามงานได้แล้วครับ ก็ดีเหมือนกัน เหมือนพอเอามาเล่นเข้าจริงๆ แล้วมันก็ได้ 

บรรยากาศที่เราวางเอาไว้ 

อยากทำงานร่วมกับศิลปินที่ชื่นชอบบ้างไหม 

ทีน: ถ้าในค่ายก็คงต้องเป็น TELEx TELEXs ครับ 

หยี: ทั้งวงพูดเป็นเสียงเดียวกัน 

ทำไมถึงอยากทำกับ TELEx TELEXs 

หยี: ก็เป็นแฟนเพลงมานานครับ 

เป้าหมายในการทำวงของดำลงต่อไปจะเป็นอย่างไรบ้าง 

หยี: พยายามเปิดกว้างให้คนส่วนใหญ่ฟังได้มากขึ้น ตอนนี้เหมือนกับมันค่อนข้างอยู่ในกรอบที่จะมีกลุ่มคนฟังชัดเจน สมมติเอาไปให้คนตามท้องถนนทั่วไปฟังก็อาจจะยากนิดนึง ก็อยากให้มันเข้าถึงคนตรงนั้นได้มากขึ้นด้วยครับ 

ความคาดหวังในการทำวง เห็นภาพในอนาคตตัวเองเป็นอย่างไรบ้างในเมื่อมีค่ายแล้ว ทางวงวางเป้าหมายไว้อย่างไรบ้างนอกจากขยายกลุ่มคนฟังไปกลุ่มใหม่ๆ 

เบ: ถ้าส่วนตัวผม ผมอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเองสักครั้งนึง ตั้งเป้าไว้ อาจจะไม่ใช่ในปีนี้หรอก อาจจะเป็นปีหน้าหรือปีไหนก็ว่าไป มันก็อยู่ที่อะไรหลายอย่างครับ เราทำเพลงมาพอหรือยัง เราพร้อมหรือยัง 

หยี: พร้อมหรือยังที่จะมีคอนฯ ใหญ่ของเราเอง แล้วคนเต็มฮอลล์ แค่นั้นก็สุดๆ แล้ว 

เบ: มันไม่ใช่เรื่องที่เรามีคอนเสิร์ตของตัวเองแค่นั้น มันเป็นเรื่องที่คนที่มาฟังเราเขาต้องแฮปปี้กับเราด้วย เขาต้องชอบเพลงเราจริงๆ ไม่งั้นเราก็ไม่อยากจะทำ 

การเป็นศิลปินหน้าใหม่ในระยะเวลาไม่นานมาก เวลามีแฟนเพลงมาขอถ่ายรูป มาขอลายเซ็นหลังเล่นจบ รู้สึกยังไงบ้าง มีแอคบ้างไหม? 

หยี : แอคจัดครับ (หัวเราะ)  

เบ: เอิดเลยครับ 

หยี: รู้สึกดีเหลือเกินครับ ดีมาก 

เบ: ดีและตกใจมาก 

ทำตัวถูกไหม 

หยี: จริงๆ ก็ไม่ถูก ถ้าตอบตามตรงนะครับทำตัวไม่ถูก แต่เราพยายามทำให้มันธรรมชาติที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ 

เบ: แต่รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ธรรมชาติ (หัวเราะ)  

นักดนตรีส่วนใหญ่ในประเทศไทยมักจะมีอาชีพเสริม เรามองว่าสิ่งนี้มันจะเลี้ยงชีพเราได้ไหม 

ในอนาคต 

ทีน: ถ้าเกิดย้อนกลับไปคำถามที่แล้วว่าเราตั้งเป้าหมายไว้ว่ายังไง ก็คือเราอยากเล่นดนตรีให้มันหล่อเลี้ยงชีวิตเราได้ด้วยครับ 

นอกจาก TELEx TELEXs เวลาเจอศิลปินอื่นในค่าย เดินสวนกับเขารู้สึกอย่างไรบ้าง  

เบ: ตัวแค่นี้เองครับพี่ ตัวเหลือเท่ามดแล้วฮะ 

ทีน: วันแรกที่เราเข้ามาทุกครั้งที่เรากลับหรือขึ้นรถเราจะพูดตลอดว่า “เชี่ย เรามาอยู่ตรงนี้ทำไมวะ”  

เช่นใครบ้างเวลาที่เราเจอแล้วรู้สึกแบบนั้น 

หยี: หูว เยอะนะ  

เบ: เจอล่าสุดก็ พี่นนท์-ธนนท์ 

หยี: ก็เหมือนกันนั่นแหละ กูมาอยู่ทำอะไร (หัวเราะ)  

เบ: ห้าคนตรงนี้เหมือนเป็นหลุมอะครับ ตอนผมมากันครั้งแรกๆ ยืนอยู่ตรงหน้าค่ายฮะ  

ยืนกันแล้วก็ กูมาทำอะไรวะ (หัวเราะ)  

เบ: นี่รู้ตัวครั้งแรกเลยตอนคุยกับค่าย เขาถามไดอะล็อกแรกคือ “มึงแม่งแต่งตัวกันบ้านจังวะ”  

ทีน: แล้ววันนั้นคือวันที่แต่งตัวเยอะสุดแล้ว (หัวเราะ)  

เบ: นี่คือเต็มที่สุดในชีวิตแล้ว 

คนในวงมีงานอดิเรกอะไรบ้าง นอกจากเล่นดนตรีเป็นวงดำลงแล้ว 

เบ: อดิเรกเยอะ ใหญ่สุดน่าจะพี่หยีเลยครับโยนโบว์ลิ่ง 

หยี: ต่อให้จะดูแบบนี้ก็เถอะ จริงๆ ผมเล่นกีฬา 

เป็นนักกีฬาโบว์ลิ่งเหรอ 

หยี: ช่าย จริงๆ อดีตแล้วกัน ที่เหลือตอนนี้ก็โยนเล่นแล้วครับ 

ตอนที่โยนโบว์ลิ่งคือจริงจังขนาดไหน คิดไปถึงทีมชาติไหม 

หยี: เรียกว่าเกือบดีกว่า  

ช่วงนั้นคือคาบเกี่ยวกับการมีดำลงด้วยไหม 

หยี: ก่อนครับ 

ทุกวันนี้ก็ยังเล่นอยู่ใช่ไหม 

หยี: เล่นบ้าง แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยแล้วครับ มาชุกกับค่ายนี่แหละครับ 

เบ: ของนัทก็เป็นถ่ายรูป 

นัท: ครับ ถ่ายรูป จริงๆ ตอนนี้เป็นงานหลักครับ ถ่ายแฟชั่นครับ เสื้อผ้า แม็กกาซีน มีทั้งแบรนด์ไอจีแล้วก็ดีไซ์เนอร์แบรนด์ครับ  

ฝากคอนแท็กหน่อยว่าถ้าอยากติดต่อต้องติดต่อผ่านช่องทางไหน 

นัท: ผ่านไอจีเป็นหลักครับ ก็ techawara ครับ 

ทีน: ผมเมื่อก่อนก็ตีแบดครับ ตอนนี้ตัดงาน 

คุณอย่าบอกนะว่าคุณเป็นนักกีฬาแบดมอฯ จริงจังอีกคนหนึ่ง 

ทีน: ก็ใช่ (หัวเราะ)  

ตอนแรกตีแบดจริงๆ เลยเหรอ 

ทีน: ใช่ครับ  

เบ: ผมก็ต่อกันดั้มเล่นครับ 

ทีมชาติไหม? 

เบ: ทีมชาติครับ (หัวเราะ)  

ถ้าให้นิยามของวงดำลงอะไรสักอย่างหนึ่งคิดว่านิยามของวงคืออะไร 

ทีน: ดำลงก็เป็นผู้ชายห้าคนครับ ที่ยังแต่งเพลงรักไม่ได้สักที (หัวเราะ)  

มีเฟสติวัลที่อยากเล่นไหม 

เบ: ส่วนตัวผมอยากเล่น Maho Rasop ครับ 

หยี: PELUPO ก็ได้ ถ้าเป็นไปได้นะ 

ศิลปินที่เรามองเป็นต้นแบบ มีใครบ้างที่เรารู้สึกว่ายกให้เป็นต้นแบบในการเล่นดนตรีของเรา 

เบ: ถ้าของผมก็ John Mayer ครับ ผมชอบในด้านกีตาร์ แล้วก็เป็นนักแต่งเพลงที่หลายๆ เพลงเขามีคอนเซปต์เจ๋งๆ เยอะ ทั้งเรื่องแต่งและเรื่อง arrangement ของเพลง แล้วผมก็มีความเชื่อว่าเล่นกีตาร์์แล้วหน้าเละแสดงว่าเท่ครับ เพราะจะมีมีม john mayer guitar face ผมเคยทำครับ แล้วคิดว่าทำไมไม่เท่เหมือน จอห์น เมเยอร์ เลยวะ 

นัท: ถ้าแรกๆ เลยที่อยากทำให้เล่นดนตรีเลยตั้งแต่เด็กคือ Bodyslam ครับ แต่หลังๆ ถ้าวงที่ชอบมากๆ ชอบแนวเพลง ชอบวิธีการ arrange การตีกลองชอบ Of Monsters And Men ครับ มันเป็นวงโฟล์คๆ หน่อยดีไซน์กลองเท่ดี 

หยี: ของผมไม่รู้จะตอบว่าอะไร แต่ถ้าจะให้ผมตอบจริงๆ ก็ Beethoven เพราะว่าตอนเด็กๆ ผมเล่นเปียโน ผมโตมากับเปียโน ผมโตมากับดนตรีคลาสสิคอะไรพวกนี้ 

ดำลงมีงานที่จะได้เล่นเร็วๆ นี้ไหม 

หยี: เท่าที่ทราบก็เป็นแคมปัสทัวร์ครับ 

แคมปัสเขาบอกว่าเป็นงานปราบเซียนมากในการเป็นศิลปินหน้าใหม่ เตรียมตัวอย่างไรบ้างกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น 

หยี: ยังไม่ได้เตรียมเลยครับ 

เบ: แต่ผมว่ามันน่าจะสนุกนะ อาจจะกดดันน้อยกว่างานที่ผ่านๆ มา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร  

หลายๆ คนบอกว่าน่ากลัว ดูปราบเซียน 

หยี: แต่เรารู้วึกว่ามันน่าจะสนุกดี น่าจะสบาย 

เบ: ช่วงอายุมันใกล้เคียงกันด้วย เลยคิดว่าอาจจะสนุกกว่าหลายๆ งาน 

ฝากผลงานหน่อย 

ทีน: ฝากเพลง เมื่อมันสายไป (REVERSE) เป็นซิงเกิ้ลใหม่ของดำลงด้วยนะครับ สะกด DUMB.RONG ครับ อ่านว่า ‘ดำลง’ ติดตามได้ทุกแพลตฟอร์มเลยครับ แล้วก็อนาคตเดี๋ยวเราจะมีเพลงปล่อยเรื่อยๆ ก็กดติดตามใน YouTube, Spotify, Instagram ทุกแพลตฟอร์มได้เลยครับผม  

สามารถติดตาม DUMB.RONG ได้ที่  

Facebook Dumb.Rong 

Instagram dumb.rong_official 

YouTube: DUMBRONG OFFICIAL 

Spotify: Dumb.Rong

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์