‘รุทรักษะ’ เมล็ดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ตำนาน-ความเชื่อในพลังธรรมชาติ และพรจากเทพสู่มนุษย์

20 พ.ย. 2567 - 00:19

  • ‘รุทรักษะ’ เมล็ดศักดิ์สิทธิ์ที่มาจาก ‘น้ำตา’ ของพระศิวะ

  • มนุษย์แต่โบราณ เคารพและยำเกรงต่อธรรมชาติ

  • ความยั่งยืนวันนี้เป็นการฟอกเขียว มากกว่าจะร่วมกันฟื้นฟูธรรมชาติจากใจจริง

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Hero_7bb741653b.jpg

ในอดีต ตำนานและความเชื่อของมนุษย์จะเชื่อมโยงความศักดิ์สิทธิ์เข้ากับธรรมชาติเสมอ เพราะวิถีชีวิตมนุษย์ ไม่ว่าจะกินหรืออยู่ ล้วนอิงอาศัยกับธรรมชาติอย่างแนบแน่น

มนุษย์ยุคก่อนจึงเคารพและยำเกรงธรรมชาติกันมาก โดยเชื่อว่ามีวิญญาณสถิตย์อยู่รอบตัวในต้นไม้และป่าเขา อย่างคนอุษาคเนย์ (เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) โบราณ จะตัดต้นไม้ต้นหนึ่งหรือทำสิ่งใดที่กระทบกับต้นไม้ ก็จะต้องสักการะขอขมาก่อนเสมอ

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo01_24ff5d3454.jpg
สร้อยที่ทำจากรุทรักษะ

‘รุทรักษะ’ เมล็ดศักดิ์สิทธิ์ที่พราหมณ์นำมาร้อยเป็นประคำหรือกำไล ก็มีที่มาจากตำนานความศักดิ์สิทธิ์และธรรมชาติที่เชื่อมโยงถึงเทพเจ้าสูงสุดในทำนองเดียวกัน

ตำนาน ‘รุทรักษะ’ น้ำตาของพระศิวะ

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo02_931e470624.jpg
รูปเคารพบูชาพระศิวะ ณ Shivoham Shiva Temple รัฐกรณาฏกะ ประเทศอินเดีย

ตำนานกล่าวไว้ว่า ครั้งหนึ่งขณะที่พระศิวะทรงทำสมาธิ พระองค์ได้เปิดโลกญาณของพระองค์ แล้วทรงเห็นความทุกข์ยากลำบากของชีวิตมนุษย์ ด้วยความเวทนาในชะตากรรมของมนุษย์ ทำให้น้ำพระอัสสุชลหรือ ‘น้ำตา’ ของพระศิวะไหลออกมาแล้วหยดลงบนพื้นโลก บังเกิดเป็นต้นไม้ขึ้น

พระศิวะจึงได้อำนวยพรให้กับต้นไม้ที่กำเนิดนั้น เป็นต้นไม้มงคล ตั้งชื่อให้ว่า ‘รุทรักษะ’ เพื่ออำนวยพรให้แก่มนุษย์ที่ได้นำเมล็ดรุทรักษะไปประดับ หรือสวมใส่ด้วยความเคารพรักและสวดบูชาอยู่เป็นนิจ

“โอม นะมะห์ ศิวายะ”

คาถาสวดบูชารุทรักษะ

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo03_2edc753ba4.jpg

สวมใส่ ‘รุทรักษะ’ รับพรและเมตตาจากพระศิวะ

ตามความเชื่อว่ากันว่า เมื่อนำเมล็ดรุทรักษะมาร้อยสร้อยสวมใส่ จะไม่มีไสยเวทย์ ภูตผี วิญญาณร้ายมารบกวนหรือรังควาญ

เมื่อเสียชีวิตลงผู้สวมใส่รุทรักษะจะไม่ต้องได้รับการจับกุมโดยยมทูต เพื่อไปรับโทษในนรก

หากป่วยเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายเด็ดขาด คนผู้นั้นจะกลับฟื้นคืนแข็งแรง หากมีเรื่องเสียใจหรือเศร้าหมอง รุทรักษะจะช่วยให้ผ่านพ้นเรื่องทุกข์ใจไปได้

เพราะใครที่สวมใส่เมล็ดรุทรักษะจะได้รับความเมตตาจากพระศิวะ ช่วยให้ชีวิตสดใส มีความผาสุขร่ำรวย เป็นอิสระจากบาปทั้งปวง

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo04_92e5e309a8.jpg
รูปปั้นพระศิวะ (อาทิโยคีศิวะ - อาทิโยคี แปลว่า ผู้ปฏิบัติโยคะคนแรก) สูง 34 เมตร ณ รัฐทมิฬนาฑู ได้ชื่อว่ารูปปั้นท่อนบนร่างกายที่ใหญ่ที่สุดในโลก

สวมใส่ ‘รุทรักษะ’ รับพรและเมตตาจากพระศิวะ

รุทรักษะเป็นคำเรียก “หิน” หรือ “เมล็ดตากแห้ง” จากพืชสกุล Elaeocarpus โดยเฉพาะสปีซีส์ Elaeocarpus ganitrus (ต้นรุทรักษะ) นำมาใช้เป็นลูกประคำสวดภาวนาในศาสนาฮินดู โดยเฉพาะในลัทธิไศวะ ตรงเมล็ดจะมีรอยแบ่ง (กลีบย่อยหรือ “หน้า”) เป็นเส้นร่องแนวตั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติบนเมล็ด ซึ่งจำนวน “หน้า” ที่แตกต่างกัน หมายถึงเทพเจ้าแต่ละองค์

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo06_0a9bf92637.jpg
ภาพวาดพระศิวะ ณ รัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดีย
  • รุทรักษะ 1 หน้า 2 หน้า 5 หน้า หมายถึง “พระศิวะ” ใครมีไว้จะช่วยเพิ่มสติ สมาธิ รวมถึงความรู้สึกนึกคิดจิตใจ เพิ่มมุมมองต่อโลกกว้าง และช่วยให้ผู้สวมใส่มีความสุข และรู้สึกสบาย อย่างไม่ยึดติด
  • รุทรักษะ 3 หน้า หมายถึง “พระตรีมูรติ” ช่วยให้มีความรู้สึกหลุดพ้นจากความรู้สึกผิด หรือบาป รู้สึกผ่อนคลายจากความกังวล หรือความรู้สึกทุกข์ทรมานจากความนึกคิดที่ซับซ้อนภายในจิตใจ ทั้งความกลัว ความรู้สึกผิด และความเศร้าสร้อย ช่วยขจัดปัญหา นำมาซึ่งความราบรื่น
  • รุทรักษะ 4 หน้า หมายถึง “พระพรหม” ช่วยเพิ่มพลัง การสร้างสรรค์ สิ่งต่าง ๆ ช่วยเพิ่มสติปัญญา และความจำเป็นเลิศ เหมาะสำหรับผู้นำ และผู้ที่กำลังศึกษา ช่วยให้เรียนเก่ง ฉลาด ปราดเปรื่อง
  • รุทรักษะ 8 หน้า หมายถึง “พระคเณศ” ช่วยขจัดอุปสรรค และนำมาซึ่งความสำเร็จในทุก ๆ เรื่อง เพิ่มความก้าวหน้า
  • รุทรักษะ 10 หน้า หมายถึง “พระนารายณ์” นำมาซึ่งความรุ่งเรืองในทิศทั้งสิบ ช่วยปกป้องคุ้มครอง และขจัดสิ่งที่ไม่ดี ทำลายอำนาจมืด และช่วยให้เจริญรุ่งเรือง
eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo05_123b2535de.jpg
รุทรักษะ 5 หน้า หมายถึง พระศิวะ

การหารุทรักษะมาบูชาควรศึกษาหาข้อมูล และเช่าบูชาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ เพื่อจะได้รุทรักษะที่เป็นของแท้ของจริง (ไม่ถูกหลอกย้อมแมว เพราะดันหลงซื้อผลมะเดื่อตากแห้ง)

หรือถ้าจะบูชาให้ง่ายและตรงกว่านั้น อาจเริ่มจากการให้ความเคารพและยำเกรงต่อธรรมชาติ ใช้ทรัพยากรทุกสิ่งอย่างรู้ค่า เพราะทุกสิ่งที่เราได้มา ล้วนหยิบยืมมาจากธรรมชาติทั้งสิ้น

อย่าให้ความรักเป็นแค่ลมปาก หรือความเชื่อที่เห็นแก่ตัว เพราะวันนี้ โลกยิ่งร้อน เสียง ‘ความยั่งยืน’ ยิ่งดัง แต่เสียงที่ดังดูจะเป็นแค่การฟอกเขียว มากกว่าจะมาจากใจจริง

eco_eyes_rudraksha_belief_SPACEBAR_Photo07_d60188313b.jpg
ผู้นำและผู้แทนระดับโลกที่เข้าร่วมถ่ายภาพหมู่ระหว่างการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ (COP29) ในบากู, 12 พฤศจิกายน 2024. Alexander NEMENOV / AFP

อย่างน้อยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการประชุมระดับโลก เกาะติดวิกฤตโลกรวนกับเรื่องป่วนๆ ใน COP29 ที่ทำโลกร้อนๆ หนาวๆ ก็เปลือยความจริงให้เราเห็น

ผู้นำโลกส่วนใหญ่ยังคงให้ราคากับเงินตรา มากกว่าคุณค่าจากธรรมชาติที่เป็นพรจากพระเจ้า

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์