อีเมลสามารถก่อคาร์บอนเพิ่มมลพิษได้จริงหรือ?

18 เมษายน 2567 - 04:57

emails-emit-carbon-SPACEBAR-Hero.jpg
  • การใช้อีเมลนั้นเป็นการเพิ่มปริมาณคาร์บอนให้กับโลก เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน อาจฟังไม่เป็นจริง แต่เรื่องนี้จริงเสียยิ่งกว่าจริง มาดูกันว่าอีเมลนั้นสามารถส่งก๊าซคาร์บอนออกไปบนชั้นบรรยากาศได้อย่างไร

เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว เราเคยมีการใช้กระดาษและซองจดหมายเพื่อการสื่อสาร ในชั้นเรียนเราก็มีการเรียนวิธีการเขียนจดหมายรูปแบบต่างๆ อย่างจริงจัง เมื่อโลกได้เข้าสู่ยุคของการใช้คอมพิวเตอร์ จดหมายซองกระดาษถูกเรียกเป็นจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล (Email)

เราอาจคิดว่าการใช้จดหมายซองกระดาษเป็นการเพิ่มปริมาณขยะ (ยังดีที่สามารถย่อยสลายได้บ้าง) และคิดว่าการใช้อีเมลเป็นการช่วยโลกด้วยการลดปริมาณขยะ แต่หารู้ไม่ว่าการใช้อีเมลนั้นเป็นการเพิ่มปริมาณคาร์บอนให้กับโลก เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน อาจฟังไม่เป็นจริง แต่เรื่องนี้จริงเสียยิ่งกว่าจริง เพราะการใช้อีเมลหนึ่งครั้งเป็นการใช้พลังงานราว 1.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการส่งจดหมายซองกระดาษ เราจะมาดูว่าอีเมลมีวิธีการทำงานอย่างไร ทำไมถึงปล่อยคาร์บอนให้กับโลกได้

ถ้ามองดูภาพรวมของการทำงานของอีเมล ทุกๆ อีเมลจะถูกกักเก็บไว้บนฮับส่วนกลางที่มีการใช้พลังงานไฟหล่อเลี้ยงไว้ อิงจาก BBC ScienceFocus อีเมลหนึ่งฉบับจะส่งปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปราว 4 กรัม ถ้ามีรูปภาพหรือไฟล์แนบด้วยจะยิ่งส่งปริมาณออกไปเยอะขึ้นมากสุดถึง 50 กรัม ถ้าพูดแบบนี้อาจมองไม่เห็นภาพกัน  

การส่งอีเมลส่งคาร์บอนได้อย่างไร? 

โดยปกติแล้วอีเมลต้องอาศัยคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายเพื่อส่งต่อข้อมูล บนการส่งต่อข้อมูลนั้น จะต้องใช้กระแสไฟในการเปลี่ยนข้อมูลเลขฐานสอง (จาก 0 และ 1) ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยกระแสไฟในการหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนอย่างคอนดักเตอร์ พูดง่ายๆ ก็คือ ทุกการส่งข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้า ยิ่งข้อมูลเยอะเท่าไร ต้องใช้ไฟมากเท่านั้น ดังนั้นทั้งการเก็บข้อมูลอีเมล รวมถึงข้อมูลอื่นๆ บน cloud หรือการทำวิดีโอสตรีมมิง ล้วนใช้ไฟฟ้าในการส่งข้อมูล เพราะฉะนั้นก็เป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การปล่อยก๊าซนั้นไม่ได้เป็นการปล่อยก๊าซโดยตรง แต่เป็นการปล่อยก๊าซผ่านการผลิตไฟด้วยถ่านหิน ซึ่งยิ่งมีการใช้ไฟฟ้าในการส่งข้อมูลมากเท่าไร ยิ่งต้องใช้ถ่านหินในการผลิตไฟมากขึ้นเท่านั้น โดยมีผลพวงทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั่นเอง

ดังนั้นแล้วถ้าเราส่งอีเมล 65 ฉบับ จะเท่ากับขับรถยนต์ในระยะทาง 1 กิโลเมตร เฉลี่ยแล้วคนหนึ่งคนสามารถส่งอีเมลต่อปีสามารถส่งคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศถึง 136 กิโลกรัม เทียบเป็นขับรถในระยะทาง 320 กิโลเมตร หากรวมเป็นประชากรโลกทั้งหมด คงไม่ต้องพูดถึงว่าปลดปล่อยคาร์บอนออกมามากขนาดไหน 

แล้วเราทำอะไรได้บ้าง? 

หากช่วยกันสักนิด ทุกอีเมลไม่ว่าจะเป็น Outlook (hotmail) หรือ Gmail สามารถกดลบด้วยการเลือกอีเมลทั้งหมดได้ รวมถึงสามารถกดยกเลิกการส่งอีเมลเป็นประจำจากผู้ส่งที่เป็นส่งเป็นประจำได้ (เช่น newsletters) การลบอีเมลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จะเป็นการลดการใช้พลังงานได้ หรือในอนาคตถ้าเป็นไปได้อย่ารับข่าวสารรายวัน หรือ newsletters ตั้งแต่แรกเพื่อกันไม่ให้อีเมลอยู่ในกล่องข้อความมากเกินไป สำหรับใครที่อยากแนบเอกสาร ถ้าเป็นไปได้ควรส่งลิ้งก์จะดีที่สุด เพราะอย่างที่กล่าวไป ยิ่งอีเมลใช้พื้นที่มากเท่าไร จะใช้พลังงานไปมากเท่านั้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์